นายกฯ ฝากกระทรวงศึกษาฯ ทำความเข้าใจเรียนออนไลน์แค่ชั่วคราว "ณัฏฐพล" ยันเปิดเทอม 1 กรกฎาคม พร้อมประสานกระทรวงดีอีเอสแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านอินเทอร์เน็ตให้ผู้ปกครอง "พม." อาสาช่วยแก้ปัญหาครอบครัวที่เดือดร้อนเรียนออนไลน์
เมื่อวันที่ 19 พ.ค.63 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการจัดการศึกษาผ่านระบบทีวีดิจิทัล และระบบออนไลน์ที่ส่งสัญญาณมาจากการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยและมอบหมายให้กระทรวงศึกษาฯ ดำเนินการสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน โดยขณะนี้ได้เริ่มทดสอบการเรียนผ่านระบบดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. - 30 มิ.ย. ซึ่งภาพรวมแม้วันแรกจะพบปัญหาและอุปสรรคต่างๆ บ้าง ก็เพื่อนำไปสู่การแก้ไขและปรับระบบให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ
นายณัฏฐพลกล่าวว่า ขอชี้แจงและทำความเข้าใจให้ทุกฝ่ายรับทราบว่า การจัดการเรียนการสอนผ่านทางทีวีและออนไลน์เป็นมาตรการหนึ่ง ที่ดำเนินการไว้หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่พ้นวิกฤติเท่านั้น ดังนั้นในวันที่ 1 ก.ค.63 ซึ่งเป็นวันเปิดภาคเรียนที่ 1 อย่างเป็นทางการ และพบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสอยู่ในระดับปกติ โรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศก็จัดการเรียนการสอนได้เหมือนเดิม ด้วยการให้เด็กมาเรียนที่โรงเรียนและได้เรียนกับครูในห้องเรียน
รมว.ศึกษาธิการกล่าวต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทดสอบระบบทั้งการล่มของเว็บไซต์ การเชื่อมต่อสัญญาณกล่อง/จานดาวเทียมนั้น ทุกคนคงรับทราบกันดีอยู่แล้วว่าเกิดจากการที่มีเด็กแห่เข้าไปดูผ่านเว็บไซต์จำนวนมากจากการเข้าด้วยโทรศัพท์มือถือ เพราะหากประเมินจากสถานการณ์แล้วอาจครึ่งหนึ่งของนักเรียนทั่วประเทศ ดังนั้นในอนาคตกระทรวงศึกษาฯ จะเตรียมระบบ Cloud หรือ Cloud Computing (คลาวด์คอมพิวติง) เป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้นเพื่อรองรับการทำงานของผู้ใช้งานในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านระบบเครือข่าย ด้านการจัดเก็บข้อมูล รวมถึงจะประสานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้บริการอินเทอร์เน็ตบนมือถือของผู้ปกครองด้วย
"การเรียนรู้ผ่านทีวีที่บ้านของเด็กเองนั้น ก็เพื่อรองรับวิกฤติจนทำให้เราไม่สามารถจัดการเรียนการสอนได้ที่โรงเรียน แต่เราจำเป็นต้องทดสอบระบบการเรียนในลักษณะนี้ให้มีความพร้อมเอาไว้ก่อน ดังนั้นหากกระทรวงศึกษาธิการไม่ดำเนินการอะไรไว้เลย จนในที่สุดโรคระบาดรุนแรงกว่าเดิม จนไม่สามารถให้เด็กมาโรงเรียนได้จะทำอย่างไร ซึ่งผมย้ำมาตลอดว่าโรงเรียนหยุดได้ แต่การเรียนรู้หยุดไม่ได้ เพราะจะส่งผลให้เด็กขาดกระบวนการเรียนรู้และเรียนไม่ต่อเนื่อง
เช่นถ้าเปิดเรียนวันที่ 1 กรกฎาคม แล้วพบมีผู้ติดเชื้อภายในโรงเรียน 4 คน จนต้องปิดโรงเรียนจะให้ทำการสอนอย่างไร การเริ่มทดสอบระบบดังกล่าวจะทำให้เรารู้ว่าการเรียนในลักษณะนี้มีข้อจำกัดใดบ้าง ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 เดือนของการทดสอบระบบ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการขจัดข้อจำกัดและปัญหาต่างๆ เหล่านี้ให้หมดไป” รมว.ศึกษาธิการกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีเนื้อหาการเรียนการสอนผ่านระบบ DLTV มีบางเรื่องที่ผิดนั้น นายณัฏฐพล กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการสำรวจถึงจุดที่ผิดพลาดและต้องมีการปรับปรุงแก้ไขอยู่แล้ว เนื่องจากเนื้อหาหลักสูตรมาจากต้นทาง คือมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ต้องจัดการเรียนการสอนให้ตรงกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ซึ่งหลักสูตรนี้ไม่ได้มีการปรับปรุงหลายสิบปีแล้ว
อีกทั้ง สพฐ.ได้มีการปรับปรุงหลักสูตรใหม่ จากเดิมเป็นหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้เป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ ซึ่งมูลนิธิฯ และ ศธ.กำลังทยอยปรับปรุงแก้ไขระหว่างการทดสอบระบบให้หลักสูตรใหม่มีความเชื่อมต่อกันมากขึ้น
ขณะที่นายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้มีการอบรมครูเพื่อรองรับการจัดการเรียนการสอนทั้งในรูปแบบออนไลน์และการเรียนแบบทางไกลเอาไว้แล้ว ขณะที่อีกหลายๆ วิทยาลัยก็ได้มีการวางรูปแบบการเรียนการสอนออนไลน์ของตัวเองไว้เอง โดยที่ไม่ต้องรอความช่วยเหลือใดๆ จากใคร และสามารถทำได้ดี ในส่วนของนักเรียน นักศึกษา สอศ.ได้วางเป้าในการพัฒนาใน 3 ด้าน คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และ Digital Literacy ดังนั้นเมื่อถึงเวลาจัดการเรียนการสอนจึงไม่ค่อยมีปัญหาอะไร เพราะเรายังจัดให้เรียนเฉพาะวิชาพื้นฐาน ยังไม่มีวิชาที่เกี่ยวกับการปฏิบัติแต่อย่างใด
นายณรงค์กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราสื่อสารกับวิทยาลัยตลอดว่าตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.- 30 มิ.ย.เป็นเพียงการเตรียมความพร้อมในการจัดการเรียนการสอน แต่จะเปิดเทอมจริงในวันที่ 1 ก.ค. ดังนั้นในช่วงที่มีการทดสอบระบบต่างๆ สอศ.จะให้จัดการเรียนการสอนในวิชาพื้นฐานเท่านั้น ประกอบกับเด็กของเราเป็นเด็กโตแล้ว ทำให้ในช่วง 2 วันที่มีการทดสอบระบบไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมาก อย่างไรก็ตามเนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ ประกอบกับอุปกรณ์ในการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ก็ไม่พร้อม เด็กร้อยละ 90 อาจจะมีมือถือใช้ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะมีมือถือที่คุณภาพใช้งานได้ทัดเทียมกัน ดังนั้นจึงเป็นอุปสรรคในการเรียนอยู่บ้าง วิทยาลัยก็จะสำรวจและหาทางช่วยเหลือด้วยการให้ยืมอุปกรณ์เพื่อใช้ในการเรียน เป็นต้น
เลขาธิการ กอศ.กล่าวต่อว่า ส่วนการฝึกปฏิบัตินั้นเราต้องเปิดให้เด็กได้เข้ามาเรียนในห้องปฏิบัติการตลอดอยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะต้องจำกัดหรือแบ่งกลุ่มให้มีขนาดเล็กเวียนเข้าไปใช้บริการ นอกจากนี้วิทยาลัยแต่ละแห่งได้สะท้อนปัญหาอยากให้ ศธ.ช่วยสนับสนุนเรื่องอินเทอร์เน็ต เนื่องจากทุกวันนี้วิทยาลัยต้องดูแลกันเอง ดังนั้นจึงได้นำเรียนต่อ รมว.กระทรวงศึกษาฯ เพื่อขอให้ช่วยสนับสนุนเรื่องนี้ให้กับวิทยาลัยและเด็กด้วย
ด้านนางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ที่ประชุม ครม.ได้รับทราบปัญหาการจัดการเรียนการสอนทั้งในรูปแบบออนไลน์และการเรียนแบบทางไกล ว่าบางครอบครัวที่ยังมีความไม่พร้อมอยู่ ซึ่งรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังหาทางช่วยเหลือประชาชนในเรื่องดังกล่าว ขณะที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ขอเข้ามาร่วมหาทางช่วยเหลือครอบครัวที่มีปัญหาความไม่พร้อม สำหรับการให้เด็กเรียนที่บ้านในขณะนี้ โดยจะนำงบประมาณจากกองทุนบ้านมั่นคงมาใช้ดำเนินการ ซึ่งในวันนี้เป็นการเสนอในหลักการ ยังไม่ได้ลงรายละเอียดใดๆ
ที่ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นางสาวผ่องศรี ธาราภูมิ คณะทำงานประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวประเด็นที่คณะทำงานได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเรียนการสอนออนไลน์ในช่วงที่โรงเรียนต่างๆ ต้องขยายเวลาการเปิดเทอมออกไปเป็นวันที่ 1 ก.ค.63 เนื่องจากหลายพื้นที่ได้เกิดปัญหา เช่น เด็กไม่มีสมาธิ ไม่สามารถตั้งใจนั่งเรียนได้จนจบชั่วโมงการเรียน ในหลายพื้นที่ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือสัญญาณไม่ดีพอ ผู้ปกครองไม่มีสมาร์ทโฟน ผู้ปกครองไม่มีเวลาและความรู้เพียงพอ เด็กบางคนอาศัยอยู่กับผู้สูงวัยซึ่งไม่มีทักษะในการช่วยแนะนำและสอนเด็ก โทรทัศน์ไม่สามารถค้นหาสัญญาณช่องการเรียนการศึกษาทางไกลได้
นางสาวผ่องศรีกล่าวว่า จากการที่คณะครูลงพื้นที่ไปเยี่ยมตามบ้านนักเรียน พบว่าผู้ปกครองและเด็กส่วนใหญ่ไม่มีการใส่หน้ากากอนามัยและอยู่รวมกลุ่มกันโดยไม่มีการเว้นระยะห่าง จึงต้องการเสนอแนะไปยังรัฐบาลเพื่อให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยพิจารณาผ่อนปรนมาตรการอนุญาตให้เปิดโรงเรียนขนาดเล็กในชนบท โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนไม่ถึง 100 คน ซึ่งโรงเรียนเหล่านี้สามารถจัดการเรียนการสอนที่มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19
เช่น ให้เด็กสวมหน้ากาก สวม face shield จัดให้นั่งเรียนในระยะห่างกัน 1-2 เมตร ฝึกให้นักเรียนล้างมืออย่างสม่ำเสมอ ซึ่งครูจะได้สอนวิธีดูแลตนเองให้นักเรียน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสได้ ซึ่งการเปิดสถานศึกษาขนาดเล็กเป็นทางเลือกนอกเหนือจากการเรียนออนไลน์ที่มีข้อจำกัดในหลายพื้นที โดยจะทำให้เด็กได้รับการสอน ดีกว่าปล่อยให้เด็กอยู่บ้านโดยไม่มีคนดูแลและมีข้อจำกัดในการเรียนออนไลน์.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |