มาอีกแล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะนำสหรัฐถอนตัวจากองค์การอนามัยโลกที่เขาระบุว่าเป็น "หุ่นเชิดของจีน" ด้านจีนตอกกลับทรัมป์ "ใส่ร้ายป้ายสี" หาข้ออ้างปัดความรับผิดชอบ อียูหนุนหลังดับเบิลยูเอชโอ ชี้ไม่ใช่เวลามาชี้นิ้วกล่าวโทษกัน ขณะยอดติดไวรัสทั่วโลกทะลุ 4.8 ล้าน บราซิลขึ้นอันดับ 3 แล้ว

    องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) กำลังจัดการประชุมสมัชชาอนามัยโลกผ่านระบบทางไกลนาน 2 วันในวันจันทร์และอังคาร โดยเน้นการหารือวิกฤติโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้วมากกว่า 4,822,000 คน และเสียชีวิตกว่า 318,800 คน และหาฉันทมติเรื่องการไต่สวนอย่างอิสระ เป็นกลางและครอบคลุมเรื่องการรับมือระหว่างประเทศ

    การประชุมเมื่อวันจันทร์ ผู้นำและรัฐมนตรีชาติสมาชิกส่วนมากยกย่องความพยายามของดับเบิลยูเอชโอ แต่อเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหรัฐ โจมตีองค์กรนี้ว่า "ความล้มเหลว" ในการได้มาและจัดเตรียมข้อมูลทำให้ต้องสูญเสียชีวิตจำนวนมาก

    วันเดียวกันนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้ทำหนังสือถึงทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ดับเบิลยูเอชโอ โจมตีองค์กรนี้ว่าเป็น "หุ่นเชิดของจีน" และขู่จะระงับเงินช่วยเหลืออย่างถาวร ทั้งจะทบทวนความเป็นสมาชิก หากองค์การอนามัยโลกไม่ทำการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญภายใน 30 วัน

    ด้านรัฐบาลจีน โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงเมื่อวันอังคาร ตอบโต้ว่าทรัมป์กำลังพยายาม "ใส่ร้ายป้ายสีจีน" และใช้จีนเป็นข้ออ้างปัดความรับผิดชอบและพันธะระหว่างประเทศที่มีต่อดับเบิลยูเอชโอ

    สหภาพยุโรป (อียู) ก็แสดงท่าทีหนุนหลังดับเบิลยูเอชโอดับเบิลยูเอชโอและความพยายามของนานาชาติในการต่อสู้กับโรคระบาดครั้งนี้ โดยโฆษกของฝ่ายกิจการต่างประเทศอียูกล่าวว่า นี่เป็นช่วงเวลาของความสามัคคี ไม่ใช่เวลาที่จะมาชี้นิ้วกล่าวโทษหรือบั่นทอนความร่วมมือพหุภาคี

    ข้อมูลอย่างเป็นทางการที่รวบรวมโดยมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์เมื่อช่วงค่ำวันอังคารของไทย สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด 1,508,957 ราย แต่ผู้ติดเชื้อรายใหม่ใน 24 ชั่วโมงมีเพียง 759 รายเมื่อวันจันทร์  รัสเซียมากเป็นอันดับสองที่ 299,941 ราย แต่อันดับสาม บราซิลแซงสหราชอาณาจักรแล้ว ที่ 255,368 ราย ส่วนสหราชอาณาจักรมีผู้ติดเชื้อ 247,709 ราย, สเปน 231,606 ราย, อิตาลี 225,886 ราย, ฝรั่งเศส 180,051 ราย, เยอรมนี 177,289 ราย, ตุรกี 150,593 ราย, อิหร่าน 122,492 ราย และอินเดียเป็นชาติล่าสุดที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 1 แสนราย โดยยอดสะสมเมื่อวันอังคารอยู่ที่ 101,261 ราย

    ส่วนผู้เสียชีวิต 10 อันดับแรก สหรัฐมากเป็นอันดับหนึ่ง 90,369 ราย, สหราชอาณาจักร 34,876 ราย, อิตาลี 32,007 ราย, ฝรั่งเศส 28,242 ราย, สเปน 27,709 ราย, บราซิล 16,853 ราย, เบลเยียม 9,108 ราย, เยอรมนี 8,041 ราย, อิหร่าน 7,057 ราย และแคนาดา 5,960 ราย

    ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 541 คนเมื่อวันอังคาร ทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 28,794 คน มากที่สุดในอาเซียน เสียชีวิตเท่าเดิม 22 คน, อินโดนีเซียพบผู้ติดเชื้ออีก 486 คน ยอดติดเชื้อสะสม 18,496 คน เสียชีวิต 30 คน ยอดรวม 1,221 ศพ มากที่สุดในภูมิภาคนี้, ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 224 คน ยอดสะสม 12,942 คน เสียชีวิตเพิ่ม 6 คน ยอดรวมเป็น 837 ศพ, มาเลเซียมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 37 คน ยอดสะสม 6,978 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน รวมเป็น 114 ศพ

    รอยเตอร์รายงานด้วยว่า ทางการเมียนมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 คนในกลุ่มแรงงานราว 120 คนที่เดินทางกลับจากมาเลเซียในเดือนนี้ ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างกักกันโรค และทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในเมียนมาเป็น 191 ราย เสียชีวิตแล้ว 6 ราย.