เนี่ยนะ"สหภาพฯ การบินไทย"


เพิ่มเพื่อน    

          อืมมมมม........!

                ไม่รู้จะพูดไงดีกับ "สหภาพฯ การบินไทย"

                ขอถามด้วยความเกรงใจซักคำ ยังไม่รู้อีกหรือว่า ด้วยสภาพหนี้เกินทุน เงินในเก๊ะที่จะซื้อข้าวกินประจำวันก็แทบไม่มี

                ยังนึกว่า "บ้านกูรวย" อยู่อีกหรือ?
                คงเคยตัว ที่แล้วๆ มา พอผลาญกันหมด ก็แบมือขอ พ่อ...คือ "แต่ละรัฐบาล" ก็ให้ไป

                ก็ได้ใจ นึกว่าครั้่งนี้คงเหมือนเดิม การบินไทย กระทรวงคลังหุ้นใหญ่ ไม่กล้าปล่อยให้ล้มหรอก ตะแง้วๆ ขอไป เดี๋ยวก็ต้องควักให้ ๕-๖ หมื่นล้าน จิ๊บๆ

                ที่ได้ไป ไม่ได้เอาไปต่อยอดธุรกิจให้งอกเงยหรอก เอาไปกิน ไปใช้แบบเดิมๆ จ่ายหนี้บ้าง ๒-๓ เดือนก็เกลี้ยง

                แล้วก็ พ่อ...หมดแล้ว เอาเงินมาอีก!?  

                เนี่ย...ภาพรวมในความเป็น "การบินไทย" มันเป็นอย่างนี้ ที่พูดนี่ ไม่ได้หมายถึงคนในสหภาพฯ โดยตรงหรอกนะ

                แต่มายุคนี้ รัฐบาลโดยนายกฯ ประยุทธ์เห็นว่า เอะอะ..เอาเงินไป มันไม่ได้แก้ทั้่งปัญหา ทั้งสำนึกบริหารให้กิจการมันดีขึ้นได้เลย

                ไม่ต้องมาก แค่สร้าง "สำนึกใหม่"

                แล้วบริหารพอเลี้ยงตัวให้รอด ช่วยกันลด "ตอดกิน-ตอดโกง" พอให้เหลือใช้หนี้บ้าง ก็คุ้มคำว่า "แห่งชาติ" ที่ต่อท้าย "การบินไทย" แล้ว

                แต่มันไม่มี-ไม่เกิด!

                 อีกอย่าง ในการบินไทย ปัญหาร้อยแปดหมักหมมเกินแก้ วันนี้ พูดตามสภาพตรงๆ จะให้รอดมีทางเดียว

                ต้องผ่าตัด "เปลี่ยนหัวใจใหม่" ถึงขั้นนั้น!

                แค่ใส่เงินลงไป ถ้าไม่ผ่าตัดก่อน ต่อให้เป็นแสนล้าน ก็แค่ยื้อเวลา "ถอดออกซิเจน" ตอนไหน ก็ไปตอนนั้น

                ถ้าเจ๊งแล้วจบ มันก็ดี

                แต่มันไม่งั้น ในความเป็นรัฐวิสาหกิจ รัฐบาลค้ำประกันเงินกู้ทุกบาท-ทุกสตางค์ ถ้าปล่อยล้ม ทุกคนในการบินไทยก็สะบัดตูดกลับบ้านไป

                แต่หนี้สินทั้งหมด ใครล่ะ ถ้าไม่ใช่รัฐบาล ที่ต้องเอาเงินภาษีไปจ่ายแทน

                แล้ว "สหภาพฯ การบินไทย" รับผิดชอบอะไรตรงนี้แทนเงินประชาชน ที่เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แต่ต้องเอากระดูกมาแขวนคอ จ่ายแทนเป็นแสนๆ ล้านนั่นล่ะ!?

                รัฐบาลตัดสินใจ เลือกหนทางดีที่สุด ทั้งกับส่วนรวมและทั้งกับการบินไทย คือผ่าตัดใหญ่ ด้วยการยื่นขอฟื้นฟูกิจการ ต่อศาลล้มละลายกลาง

                ขอฟื้นฟู คือการค้ำประกัน การบินไทยดำเนินธุรกิจไปได้เหมือนเดิม ใครจะมาฟ้องร้องเอาหนี้-เอาสินตอนนี้ไม่ได้

                ทั้งเจ้าหนี้-ลูกหนี้ พนักงาน มานั่งตกลง-หารือกัน เป็นทางไปเป็นอนาคตใหม่ที่ยั่งยืนให้การบินไทย

                ทุกอย่าง "พูดบนโต๊ะ-จบบนโต๊ะ" ต่อหน้าศาล

                ที่พูดกันว่า "เตะหมูเข้าปากหมา" อะไรนั่น อย่าเพิ่งมโนเพ้อเจ้อ โดยที่ยังไม่รู้ว่า

                ศาลจะรับมั้ย เจ้าหนี้-ลูกหนี้เห็นพ้องกันมั้ย กับใครที่จะเลือกมาเป็นผู้จัดทำและบริหารแผน?

                การฟื้นฟู ไม่มีฝ่ายไหนได้ฝ่ายเดียว และเสียฝ่ายเดียว มันต้องยอมเสียเพื่อได้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย เพื่อให้การบินไทยเดินหน้า-อยู่ต่อ

                เพราะการทำให้การบินไทยบินอยู่บนฟ้าเท่านั้น.......

                ที่ทุกฝ่ายเสียไป ก็จะได้คืน แถมกำไร +++

                การฟื้นฟู เป็นมิติ วิน-วิน ในวิสัยทัศน์ของอินทรี ไม่ใช่วิสัยทัศน์นกกระจอก หาจิกกินกับที่เรี่ยดินตรงหน้าไปมื้อๆ

                แค่ใส่เงิน..ใส่เงิน เปลี่ยนบอร์ด เปลี่ยนดีดี เหมือนผีเปลี่ยนโลง นอกจากชำระสะสางปัญหาหมักหมมไม่ได้แล้ว ยังจะเพิ่มปัญหาทับถม

                ยอมเจ็บ "เจียนตาย" ครั้งนี้ ครั้งเดียว......

                "การบินไทย" ก็จะสู่ยุคใหม่ คู่ไปสังคมโลก ที่กำลังเปลี่ยนมิติ สู่ศตวรรษใหม่ ในทุกด้าน!

                ดังนั้น ที่สหภาพฯ การบินไทย ออกแถลงการณ์เมื่อวาน (๑๘  พ.ค.๖๓)

                แจงเป็นข้อๆ บอก "เห็นด้วย" กับการฟื้นฟู

                แต่ "ไม่เห็นด้วย" ที่กระทรวงคลังจะลดสัดส่วนการถือหุ้น นั้น

                ถ้าบอกว่า พูดเหมือนคนไม่รู้เรื่อง-รู้ประสา ก็พูดไม่ได้ กับคนระดับหากินบนฟ้า

                ครั้นจะบอกว่า รู้เรื่อง-รู้ประสา ก็ฉงน งกหรือง่าว?             

                ให้ฟื้นฟู........

                แต่ไม่ยอมให้คลังลดสัดส่วนการถือหุ้น อีหยังวะ?

                ลองอ่านเหตุผลในแถลงการณ์เขาหน่อย เขาบอก ถ้าคลังลด เขา "จะค้านจนถึงที่สุด"

                ".........การลดสัดส่วนหุ้นของกระทรวงการคลังลงเหลือต่ำกว่า 50% จะส่งผลทำให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยถูกยุบไปตามกฎหมาย (พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ 2543)

            ซึ่งจะส่งผลให้พนักงานของบริษัทฯ ไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ในช่วงการดำเนินการตามแผนฟื้นฟู

            ซึ่งในแผนฟื้นฟูฯ จะต้องมีการปรับลดพนักงาน ลด หรือยุบบางตำแหน่งงาน รวมถึงลดสิทธิประโยชน์ และสวัสดิการอื่นๆ บางประการ ของพนักงาน

            ดังนั้น การลดสัดส่วนหุ้นของกระทรวงการคลังในช่วงนี้จึงอาจทำให้ถูกมองได้ว่าไม่มีความจริงใจ ในการสนับสนุน การคุ้มครองแรงงานตามวิถีทางของกฎหมายคุ้มครองแรงงาน และเลือกปฏิบัติในแนวทางที่ไม่คำนึงถึงสิทธิของลูกจ้าง

            สหภาพฯ จึงไม่เห็นด้วยในการลดสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลัง และจะคัดค้านจนถึงที่สุด"

                โถ....นึกว่าอะไร ที่ไม่ยอม......

                เพราะกลัวสหภาพฯ ต้องยุบ กลัวไม่ได้รับการคุ้มครอง กลัวจะปรับลดพนักงาน ตำแหน่ง กลัวเสียสิทธิประโยชน์-สวัสดิการพนักงานฯ!

                แล้วไม่กลัวการบินไทยต้องเจ๊ง ถูกฟ้อง ต้องขายทอดตลาด แล้วเจ้าหนี้เอาเงินทั้งหมดนั้นไปหรือ?

                ยอมรับว่า อนาถกับทัศนคตินี้มาก นอกจากเห็นแก่ตัวแล้ว ยังไม่ประสากับขั้นตอน-วิธีการของการฟื้นฟูกิจการอีกตะหาก

                "ฟื้นฟูกิจการ" คำที่เป็นของคู่กันคือการ "ปรับสภาพหนี้"

                นั่นคือ ต้อง ลดทุน, ลดสัดส่วนการถือหุ้น การบินไทย หุ้นละ ๑๐ บาท คลังถือ ๕๑%      

                จาก ๑๐ บาท อาจลดเหลือหุ้นละ ๑ สตางค์หรือ ๑๐ สตางค์ก็ว่าไป แสนล้านอาจเหลือแสนบาท (สมมุตินะ)

                ลดทุนเพื่อปรับสภาพหนี้่ พูดง่ายๆ คือ "ล้างหนี้" ทางบัญชีก่อน ไม่งั้น ไม่มีใครมาลงทุนด้วยหรอก

                จากนั้่น ก็เป็นการเพิ่มทุน การนับ ๑ ใหม่ทางธุรกิจแบบนี้ นักลงทุนขี้เกียจจะแย่งกันลงทุน ระหว่างนั้น รัฐบาลจะค้ำประกันเงินกู้ให้อีกซักแสน-สองแสน ก็สบายมาก

                เพราะชัวร์ เจ๊งก็ได้คือก่อน!

                ทุกอย่าง มันเป็นตรรกะกันอยู่ ฟื้นฟู, ลดทุน, เพิ่มทุน, ลดหนี้, แปลงหนี้, ปรับลดคน รวมถึงความพ้น-ไม่พ้นรัฐวิสาหกิจ

                การปรับลดพนักงาน การสูญเสียผลประโยชน์ที่เคยได้จนชิน  แน่นอน ต้องมีอยู่แล้ว

                ไม่มีที่ไหนในโลก ฟื้นฟู โดยยอมให้พนักงานทั้งหมด หรือ ๒๑,๐๐๐ คนอยู่เหมือนเดิม และได้เหมือนเดิม

                ป่านนี้่ งบการเงินไตรมาส ๑ ของการบินไทย ยังนำส่งตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้เลย ขอเลื่อนมา ๒ ครั้งแล้วมั้ง

                ฉะนั้่น สหภาพฯ ไม่ต้องคิดยาวไปถึงว่า ลดสัดส่วนถือหุ้นแล้วสถาบันการเงินต่างๆ จะไม่เชื่อมั่นเครดิตหรอก

                ยิ่งพอแจ้งตลาดฯ ว่าการบินไทยเข้าสู่การฟื้นฟู ก็ต้องพักการซื้อขายแล้วมั้ง

                เครดิตจาก AAA+ หรืออะไรทำนองนั้น จะลดลง B หรือ C มันเป็นโดยสภาพตัวมันเองอยู่แล้ว ไม่ต้องยกมาอ้างหรอก

                สรุป คือ ........

                อะไรที่เป็นทางได้ สหภาพฯ การบินไทย..ยอมหมด            

                แต่อะไรที่ต้องเสียบ้างเพื่อแลกการได้ แม้กระทั่งสิทธิประโยชน์และสวัสดิการ สหภาพฯ ไม่ยอม

                ห้ามแตะ ถ้าแตะ จะสู้จนถึงที่สุด!?      

                และทั้งหมดที่ยกมาทึกทัก นั่น-โน่น-นี่ สหภาพฯ บอกเอง เป็นเพียง "รับทราบข้อมูลล่าสุด"

                พูดตรงๆ ก็คือ นอกจากฟื้นฟูแล้ว นอกนั้น สหภาพฯ ใช้ความเห็นแก่ตัว มโนเอา แล้วออกแถลงการณ์!

                ฟังมติ ครม.วันนี้ (๑๙ พ.ค.๖๓) เขาก่อน ว่าตกลงมีรายละเอียดยังไงบ้าง

                แล้วค่อยออกมาประคองหม้อข้าวก็ยังทัน นี่ไม่ฟังอีร้า-ค่าอีรม  ออกฤทธิ์ซะจมดินเลย!  

                รายละเอียดต่างๆ ในความเป็นกระบวนการฟื้นฟู มันอีกหลายร้อยเรื่อง หลายสิบขั้นตอน สหภาพฯ จะมาพูดเอง-ทึกทักเอง ขณะนี้ยังไม่ได้ และไม่ควร

                ให้หุ้นใหญ่ ๕ อันดับ รวมกว่า ๗๐% คลัง, กองทุนรวมวายุภักษ์, ไทยเอ็นวีดีอาร์, ธนาคารออมสิน ได้คิดบ้างเหอะ

                สหภาพฯ ผู้ยิ่งใหญ่.....

             เก็บสมองไว้ในกะโหลกก่อนเหอะ. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"