คุก24ปีปรับอื้อ 16ข้อหาทุจริต อดีตปธน.หญิง


เพิ่มเพื่อน    

  นอนคุกยาว ศาลเกาหลีใต้ตัดสินจำคุก "ปัก กึนฮเย" ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเกาหลีใต้ รวม  24 ปี และปรับอีก 526 ล้านบาท จากความผิดฐานคอร์รัปชันหลายกระทง โยงการรับสินบนและใช้อำนาจหน้าที่มิชอบโดยร่วมมือกับ "ชเว ซุนซิล" เพื่อนหญิงคนสนิทเรียกรับสินบนกว่า 670 ล้านบาท เจ้าตัวบอยคอตการตัดสินโดยเลือกรอฟังข่าวอยู่ในคุก

    การอ่านคำพิพากษาของศาลที่กรุงโซลเมื่อวันศุกร์ที่ 6 เมษายน 2561 มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ในแบบที่ไม่เคยปฏิบัติมาก่อน เจ้าหน้าที่อ้างเหตุผลว่าเป็นเพราะคดีนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก ที่ด้านนอกศาลนั้น ผู้สนับสนุนปักหลายร้อยคนมาเฝ้ารอข่าว และเมื่อทราบผลการตัดสินต่างก็พากันร่ำไห้และโกรธแค้น บางส่วนพากันเดินขบวนประท้วง 
    รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า อดีตประธานาธิบดีวัย 66 ปี ซึ่งถูกเรียกขานว่าเจ้าหญิงน้อยจากสมัยที่ปัก ช็องฮี บิดาของเธอดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ประท้วงการพิจารณาคดีซึ่งกินเวลายาวนานกว่า 10 เดือนโดยไม่มาขึ้นศาลหลายครั้ง รวมถึงในครั้งนี้ โดยสำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า ปักนั่งรอฟังข่าวพร้อมกับทนายความของเธอที่ห้องรับรองภายในเรือนจำที่กรุงโซล 
    ปักถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานรับเงินสินบนหรือเรียกรับเงินสินบนมากกว่า 23,000 ล้านวอน (ราว 673 ล้านบาท) จากกลุ่มบริษัทเอกชน โดยร่วมมือกับชเว ซุนซิล, แบ่งปันเอกสารลับของทางราชการ, ขึ้นบัญชีดำศิลปินที่วิพากษ์วิจารณ์นโยบายของเธอ และปลดเจ้าหน้าที่ที่ขัดขืนต่อการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบของเธอ 
    ผู้พิพากษาคิม เซยุน อ่านคำพิพากษาว่า จำเลยละเมิดต่ออำนาจที่ได้รับมอบจากประชาชน ซึ่งเป็นผู้ปกครองประเทศนี้ตัวจริง และสร้างความโกลาหลวุ่นวายภายในรัฐบาล ทั้งๆ ที่ได้ก่ออาชญากรรมเหล่านี้ แต่จำเลยยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ไม่แสดงความสำนึกผิด และยังมีทัศนคติที่ยากเกินเข้าใจได้ด้วยการกล่าวโทษชเวและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ 
    ผู้พิพากษาท่านนี้ตัดสินลงโทษจำคุกปัก 24 ปีจากความผิด 16 ข้อหา จากทั้งหมด 18 ข้อหา และยังปรับเงิน 18,000 ล้านวอน (ราว 526 ล้านบาท) ปักมีเวลายื่นอุทธรณ์คำตัดสินภายใน 7 วัน 
    เรื่องอื้อฉาวที่มีต้นตอจากชเว เพื่อนหญิงคนสนิทซึ่งถูกขนานนามว่า รัสปูตินแห่งเกาหลี ทำให้ปักถูกประชาชนเรือนล้านชุมนุมขับไล่ยาวนานหลายเดือน จนกระทั่งเธอถูกถอดถอนจากตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคม 2560 ทำให้ปักกลายเป็นผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยคนแรกของเกาหลีใต้ที่ถูกถอดถอนจากตำแหน่งเพิ่มอีกสถานะหนึ่ง นอกเหนือจากการได้เป็นผู้นำหญิงคนแรกของประเทศนี้ภายหลังชนะเลือกตั้งเมื่อปี 2556 ปักโดนจับกุมในช่วงเวลาไม่นานภายหลังพ้นจากตำแหน่งและถูกคุมขังมานับแต่นั้น 
    ปักเป็นอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนที่ 3 ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาญาภายหลังพ้นจากตำแหน่ง คนก่อนหน้านี้คือ ชุน ดูฮวาน และโนห์ แตวู ซึ่งถูกตัดสินในทศวรรษ 1990 ว่ามีความผิดฐานกบฏและคอร์รัปชัน ตามลำดับ ผู้พิพากษากล่าวประกอบคำตัดสินเมื่อวันศุกร์ว่า จำเป็นต้องลงโทษจำเลยสถานหนัก เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องเคราะห์ร้ายเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก 
    ด้านทำเนียบประธานาธิบดีบลูเฮาส์ ออกแถลงการณ์ภายหลังคำตัดสินว่า แต่ละคนคงมีความรู้สึกต่ออดีตประธานาธิบดีผู้นี้แตกต่างกันไป แต่คำตัดสินนี้สร้างความสลดใจแก่ทุกผู้คนในประเทศนี้ รวมถึงต่อตัวปักเอง ประวัติศาสตร์หากไม่ได้รับการจดจำก็จักต้องบังเกิดอีก แต่พวกเราจะไม่ลืมวันนี้
    บุตรีของอดีตประธานาธิบดีเผด็จการรายนี้ สูญเสียทั้งมารดาและบิดาจากการโดนลอบสังหาร ปักชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2556 โดยได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายอนุรักษนิยมที่ยังเทิดทูนบิดาของเธอ โดยเธอประกาศว่าตนเป็นลูกสาวของประเทศนี้ เป็นผู้ที่ไม่คดโกงและไม่ติดหนี้บุญคุณใคร ทว่าไม่ถึง 4 ปีต่อมา ปักกลับต้องเผชิญกับชะตากรรมอันน่าสลดนี้ 
    ชเว เพื่อนหญิงคนสนิทที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยสาวๆ ถูกศาลตัดสินจำคุก 20 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การเปิดโปงความสัมพันธ์แบบลับๆ ของชเวกับปักที่ถูกกล่าวหาว่ายอมให้เพื่อนสนิทคนนี้ ซึ่งไม่มีตำแหน่งหน้าที่ทางการหรือได้รับสิทธิเข้าถึงข้อมูลสำคัญ เข้ามายุ่มย่ามกับการบริหารประเทศ อันรวมถึงการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงและการแก้ไขร่างสุนทรพจน์ของปัก
    ทั้งปักและชเวถูกกล่าวหาว่าสมคบกันบีบบังคับบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง อาทิ ซัมซุง และล็อตเต ให้บริจาคเงินเข้ามูลนิธิของชเว แต่เงินเหล่านั้นกลับถูกนำมาใช้ส่วนตัว ผู้บริหารของซัมซุงและล็อตเตต่างก็ติดร่างแหถูกดำเนินคดีไปด้วย 
    จอง ฮันวุล นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยฮันกุก กล่าวว่า อดีตประธานาธิบดีชุนและโนห์ได้รับอภัยโทษจากประธานาธิบดีภายหลังติดคุกราว 2 ปี แต่เขาเชื่อว่าปักอาจไม่ได้รับอภิสิทธิ์เช่นนั้น หากพิจารณาจากทัศนคติของเธอที่ไม่สำนึกผิด และความโกรธแค้นของประชาชน ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่ไม่เอื้ออำนวย อีกทั้งประธานาธิบดีมุน แจอิน ก็ชนะการเลือกตั้ง ด้วยเหตุผลหลักๆ ที่ประชาชนโกรธแค้นปักและพรรคอนุรักษนิยมของเธอ.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"