เปิดแล้ว‘11แผนปฏิรูป’ เนื้อหายิบกว่า2พันหน้า


เพิ่มเพื่อน    

 

ประกาศใช้แผนปฏิรูปประเทศ 11 ด้านแล้ว ละเอียดยิบกว่า 2 พันหน้า เพื่อไทยไม่เชื่อทำประเทศก้าวหน้า โวย คสช.ซุกอำนาจผ่านยุทธศาสตร์ 20 ปี "มาร์ค" ชี้ 1 ปี รธน.60 ปราบโกงไม่ได้จริง กรธ.อ้างต้องใช้เวลา

    เมื่อวันที่ 6 เมษายน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การประกาศแผนการปฏิรูปประเทศ ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศ ณ วันที่ 6 เม.ย.2561 โดยมีใจความว่า โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หมวด 16 การปฏิรูปประเทศ กำหนดให้ดำเนินการปฏิรูปประเทศ และให้ดำเนินการปฏิรูปประเทศอย่างน้อยในด้านต่างๆ ให้เกิดผลตามที่กำหนด โดยให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ ซึ่งอย่างน้อยต้องมีวิธีการจัดทำแผน การมีส่วนร่วมของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนในการดำเนินการปฏิรูปประเทศ การวัดผลการดำเนินการ และระยะเวลาดำเนินการปฏิรูปประเทศทุกด้าน 
    และต่อมาได้มีการตราพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ.2560 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2560 เป็นต้นมา โดยกำหนดให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ เพื่อรับผิดชอบในการจัดทำแผนการปฏิรูปประเทศแต่ละด้าน เพื่อกำหนดกลไก วิธีการ และขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ และเมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และรายงานต่อรัฐสภาเพื่อทราบแล้ว ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและใช้บังคับได้ต่อไป
    เพื่อให้เป็นไปตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. 2560 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 15 ส.ค.2560 แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ   จำนวน 11 คณะ อันประกอบด้วย ด้านการเมือง ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ด้านกฎหมาย ด้านกระบวนการยุติธรรม ด้านเศรษฐกิจ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านสาธารณสุข ด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านสังคม ด้านพลังงาน และด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อรับผิดชอบในการดำเนินการจัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด ตลอดจนได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องอย่างกว้างขวาง เพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ ด้วยแล้ว 
    บัดนี้ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ ได้ดำเนินการจัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศเป็นที่เรียบร้อย และได้เสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติพิจารณาความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ประกอบกับคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2561 เห็นชอบร่างแผนการปฏิรูปประเทศ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 29 มี.ค.2561 รับทราบแผนการปฏิรูปประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    ในการนี้ เพื่อให้เป็นไปตามที่กำหนดในมาตรา 6 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ.2560 จึงให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อทราบโดยทั่วกัน 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษาได้ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องปฏิรูปทั้งสิ้น 6 เรื่อง ประกอบด้วย 1.การประกาศแผนการปฏิรูปประเทศ (ด้านการเมือง ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน) มีจำนวน 221 หน้า 2.การประกาศแผนการปฏิรูปประเทศ (ด้านกฎหมาย ด้านกระบวนการยุติธรรม) มีจำนวน 415 หน้า 3.การประกาศแผนการปฏิรูปประเทศ (ด้านพลังงาน ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ) มีจำนวน 359  หน้า 4.การประกาศแผนการปฏิรูปประเทศ (ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) มีจำนวน 471 หน้า 5.การประกาศแผนการปฏิรูปประเทศ (ด้านสาธารณสุข ด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านสังคม) มีจำนวน 277 หน้า และ 6.การประกาศแผนการปฏิรูปประเทศ (ด้านเศรษฐกิจ) มีจำนวน 423  หน้า รวมทั้งหมด 6 เรื่อง จำนวน 2,166 หน้า
ทางด้านนายนิสิต สินธุไพร สมาชิกพรรคเพื่อไทย และหนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงแผนปฏิรูปประเทศ 11 ด้านว่า การปฏิรูปประเทศภายใต้การยึดอำนาจมา ไม่เคยปรากฏว่าคณะรัฐประหารจะนำประเทศไปสู่ความก้าวหน้า กระจายอำนาจให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งการปฏิรูปประเทศจะเป็นไปอย่างไร อยู่ที่ว่าตอนนั้นใครเป็นรัฐบาล หากเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย คงจะปฏิรูปประเทศเพื่อให้ความเป็นประชาธิปไตยก้าวหน้า ถ้าเป็นเผด็จการ มีแต่จะยิ่งทำให้ระบอบเผด็จการแข็งแกร่งขึ้น ในรัฐธรรมนูญมีคำว่าปฏิรูปมากมาย แต่ประชาชนกลับไม่ได้ประโยชน์จากการปฏิรูป อะไรที่จะเป็นอำนาจทางประชาธิปไตย อำนาจส่วนรวมมักไม่ค่อยมี จะปฏิรูปการเมืองแต่กลับยิ่งทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ ปฏิรูปด้านความมั่นคง กลับเขียนให้ตัวเองมีอำนาจ ผ่านแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี  
    วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเนื่องในโอกาสครบ 1 ปีการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ 60 ว่า อยากให้ทุกฝ่ายเคารพการใช้ แต่ 1 ปีที่ผ่านมามีความขลุกขลักในการออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เพราะเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญตอนทำประชามติบอกว่าเป็นรัฐธรรมนูญปราบโกงเพื่อการปฏิรูป จึงอยากให้รัฐบาลแสดงให้เห็นว่าเป็นเช่นนั้นจริง เพราะในขณะนี้กลายเป็นว่ามีการบั่นทอนองค์กรอิสระผ่านการใช้รัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบ ซึ่งไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่พูดไม่เอื้อต่อการปราบโกง 
     ทั้งนี้ เชื่อว่าคงมีความพยายามให้มีการแก้ไขหลังการเลือกตั้ง แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องได้เสียงจากวุฒิสภาด้วย ไม่เช่นนั้นก็แก้ไม่ได้ ขณะที่นักการเมืองต้องพิสูจน์ตัวเองเพื่อกอบกู้ศรัทธาจากประชาชน หากสังคมเห็นชัดว่ามีอุปสรรคที่เกิดจากรัฐธรรมนูญจะเป็นแรงกดดันให้วุฒิสภาเห็นพ้องในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเอง
    นายเธียรชัย ณ นคร กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า แต่ละฝ่ายล้วนมีความคาดหวังสูงกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งในฐานะผู้จัดทำรัฐธรรมนูญมองว่าการบังคับใช้รัฐธรรมนูญเพียงแค่ 1 ปี ไม่เพียงพอที่จะชี้ชัดได้ว่าบทบัญญัติที่เขียนเป็นกรอบหรือสร้างเงื่อนไขไปสู่การแก้ปัญหาในอดีตนั้นมีประสิทธิผลมากเพียงพอ เพราะอย่าลืมว่าเรื่องการทุจริตหรือคอร์รัปชันเกิดขึ้นก่อนที่จะมีรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และเมื่อมีการทำรัฐธรรมนูญใหม่ จึงพยายามถอดบทเรียนตามหลักวิชาการและข้อมูลข้อเท็จจริง เขียนเป็นกติกาป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นซ้ำอีก 
    นอกจากนี้ การปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาด้านต่างๆ จะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกลไกสำคัญคือ 1.กฎหมายลูก ที่เป็นรายละเอียดของการปฏิบัติใช้ เช่น พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ, กฎหมายลูกว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน และ 2.ผู้นำไปปฏิบัติ โดยเฉพาะการปรับตัว ปรับความเข้าใจให้ตรงกับกติกาใหม่ที่กำหนดขึ้น ดังนั้นการเขียนรัฐธรรมนูญเพียงมาตราเดียวคงไม่ทำให้การทุจริตหายไปได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว เพราะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทางกฎหมายและกลไกการบังคับใช้ร่วมด้วย ดังนั้นรัฐธรรมนูญคือกรอบปฏิบัติหลักที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้จริง แต่ต้องใช้เวลา
    อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญได้วางกรอบให้ประชาชนมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของทางราชการ ขณะเดียวกันภาครัฐเองที่มีหน้าที่ต้องกำหนดวิธีปฏิบัติที่สอดคล้องกับกรอบใหญ่ในรัฐธรรมนูญ เช่น การจัดซื้อจัดจ้างต้องเปิดเผยรายละเอียดต่อสาธารณะ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญป้องกันการคอร์รัปชันที่มาจากการปิดบังข้อมูล. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"