18 พ.ค.63-ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ว่า  ผลการศึกษาแนวทางป้องกันผลกระทบต่อสหกรณ์ที่ลงทุนในหลักทรัพย์ ทั้งหุ้นสามัญ และ หุ้นกู้ของ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน)  โดยระบุว่า หาก การบินไทย ต้องยื่นเข้าพระราชบัญญัติฟื้นฟูกิจการ หรือ พรบ.ล้มละลาย นั้น ในส่วนของสหกรณ์ที่นำเงินมาร่วมลงทุนมีสหกรณ์การบินไทย จำนวนทั้งสิ้น 82 แห่ง   ซึ่งในจำนวนนี้มี 4 สหกรณ์ที่ลงทุนในหุ้นสามัญรวมจำนวน 273.93 ล้านบาท  ที่เหลืออีก 82 สหกรณ์ เป็นการลงทุนในหุ้นกู้จำนวน 42,229.14 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.62%ของสินทรัพย์รวมทั้งหมดของ 82 กรณ์ที่มีอยู่ทั้งสิ้นประมาณ 1.17 ล้านล้านบาท 

นอกจากนี้ยังพบอีกว่าฐานะทางการเงิน ของสหกรณ์ที่ลงทุนในหุ้นของการบินไทย ส่วนใหญ่จะเป็นสหกรณ์ชั้น 1 มีฐานะการเงินที่มั่นคง ใช้เงินทุนที่มาจากสมาชิกของตัวเองเป็นหลัก โดย 77% ลงทุนในระดับ 0-5%ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของสหกรณ์แต่ละแห่ง  และมี 7 สหกรณ์ ลงทุนมากกว่า 10%ของมูลค่าสินทรัพย์

อย่างไรก็ตาม พบว่าผลกระทบต่อการดำเนินงานของสหกรณ์ในปี 63 จะมีสหกรณ์จำนวน 21 แห่งที่หุ้นกู้การบินไทยจะครบกำหนดชำระคืนในเดือน ส.ค.63 และ ก.ย.63 คิดเป็นมูลค่า1,117 ล้านบาท ซึ่งในกรณีนี้ที่ครบกำหนดชำระคืน  หากการบินไทยไม่สามารถชำระหนี้คืนได้ จะทำให้สหกรณ์ต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเต็มจำนวน ซึ่งจะส่งผลให้ 9 สหกรณ์มีกำไรลดลงเกินกว่า 10% และทำให้สมาชิกได้รับเงินปันผลลดลง 

นอกจากนั้นยังพบว่าไม่มีสหกรณ์ใดขาดทุนจากการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญแต่อย่างใด ส่วนผลกระทบของหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระในปี 64 เป็นต้นไปจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของ การบินไทย ซึ่งเชื่อมั่นได้ว่าทางรัฐบาลจะเป็นผู้จัดการได้อย่างดีที่สุด ส่วนแนวทางการแก้ไขกรณีที่ ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ทางสหกรณ์สามารถเจรจาขอรับชำระหนี้ที่ครบกำหนดจากการบินไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า หากจะแจงรายละเอียดของสหกรณ์ที่มาลงทุนในหุ้นกู้การบินไทย และจะครบกำหนดชำระคืนพบว่า จะมีตั้งแต่ปี 63-77 รวมทั้งสิ้น 42079.2 ล้านบาท รายละเอียดดังนี้คือ ปี63 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 21 แห่ง  คิดเป็นมูลค่า1,117ล้านบาทแล้ว  ปี64 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 25 แห่ง มูลค่า 3,244.1ล้านบาท , ปี 65 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 36 แห่ง มูลค่า4,991.0ล้านบาท , ปี 66 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 30 แห่ง มูลค่า 3,349.5ล้านบาท , ปี 67 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 28 แห่ง มูลค่า 3,455.1ล้านบาท , ปี 68 จ จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 33 แห่ง มูลค่า 5,031.2 ล้านบาท , ปี 69 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 26 แห่ง มูลค่า 2,070.2 ล้านบาท , ปี 70 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 27 แห่ง มูลค่า 2,518.6 ล้านบาท , ปี 71 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 41 แห่ง มูลค่า 5,608.8 ล้านบาท , ปี 72 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 20แห่ง มูลค่า 3,794.5 ล้านบาท , ปี 73 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน  10แห่ง มูลค่า 956.0 ล้านบาท , ปี 75จ จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 18 แห่ง มูลค่า 1,479.7 ล้านบาท , ปี 76 จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 21 แห่ง มูลค่า 1,170.7 ล้านบาท และในปี 77  จะมีหุ้นกู้การบินไทยที่สหกรณ์ถืออยู่ครบกำหนดชำระจำนวน 23 แห่ง มูลค่า 3,292.8 ล้านบาท

นอกจากนั้นยังพบว่า จากการตรวจสอบ สินทรัพย์สภาพคล่องของ 82 สหกรณ์ที่ลงทุนในหุ้นกู้ การบินไทยเทียบกับเงินรับฝากจากสมาชิกพบว่า สหกรณ์ 67 แห่ง (หรือคิดเป็น 82%) มีสินทรัพย์สภาพคล่องมากกว่า 10%เมื่อเทียบกับเงินรับฝากจากสมาชิก ชี้ให้เห็นว่า สหกรณ์อาจขาดสภาพคล่องในระยะสั้นๆเนื่องจากในกรณีที่สมาชิกขาดความเชื่อมั่น และตกใจแห่ถอนเงินฝากจากสหกรณ์  ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการชี้แจงและทำความเข้าใจกับสมาชิก รวมถึงประสานสหกรณ์ให้เตรียมเงินสดเพื่อถอนเงินฝาก ในกรณีที่สมาชิกแห่ถอนการลงทุนเพื่อถือเงินสดไว้แทน ขณะที่มี 15 สหกรณ์(หรือคิดเป็น 18%) มีสินทรัพย์สภาพคล่องน้อยกว่า 10%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงาน การบินไทยพบว่าสถานะล่าสุดเดือน เม.ย. 63 มีสมาชิกจำนวน 22,691 คน โดยมีทุนดำเนินงาน และ โครงสร้างทางการเงินดังนี้ คือ  ทุนดำเนินงาน 52,456 ล้านบาท,มีเงินรับฝาก จำนวน 26,886.9 ล้านบาท เป็นทุนเรือนหุ้น 19,222.3 ล้านบาท นอกจากนั้นยังพบว่ามีกำไร จากการดำเนินงานถึง 3ปีต่อเนื่อง โดยในปี 62 มีกำไร 1,365 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 48.22% และจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับข่าว การบินไทย ได้ส่งผลกระทบต่อสหกรณ์การบินไทยอย่างหนัก ทำให้1.สมาชิกขาดความเชื่อมั่นและตกใจ ซึ่งอาจจะลาออก หรือถอนเงินฝากจำนวนมาก ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการต้องคืนเงินรับฝาก และค่าหุ้นได้

 2.กรณีที่พนักงานการบินไทยถูกปลดออก หรือ ลดเงินเดือน อาจจะส่งผลต่อการหักชำระหนี้ของสหกรณ์ และก่อให้เกิดหนี้ เอ็นพีแอล มากขึ้นได้  3.สมาชิกไม่มีการฝากเงินเพิ่ม และส่งค่าหุ้นรายเดือนลดลง ส่งผลให้มีเงินสดเข้าสหกรณ์น้อยลง ซึ่งข้อดีและแนวทางแก้ไขคือ  สหกรณ์มีสภาพคล่องเป็นเงินสด เงินฝาก ตราสาร และกองทุน รวมกันประมาณ 8,700 ล้านบาท สหกรณ์ต้องปรับโครงสร้างหนี้ให้กับสมาชิกที่กู้เงินเพื่อให้สมาชิกมีรายได้เพียงพอในการชำระหนี้ได้