วิปรัฐบาลยืนกรานมาแล้วว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาใหัความเห็นชอบ "พระราชกำหนด" ที่รัฐบาลออกมาเพื่อรองรับวิกฤติไวรัสโควิด รวมทั้งสิ้น 4 ฉบับ ที่จะพิจารณากันในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนนี้ หลังเปิดประชุมสภา 22 พ.ค. วิปรัฐบาลจะให้เวลาแค่ 3 วัน 3 คืน คือ 27-29 พ.ค.นี้เท่านั้น หลังก่อนหน้านี้วิปฝ่ายค้านโยนหินถามทาง ต้องการอภิปรายมากกว่านั้น เช่น 7 วัน
สุดท้ายต้องดูกันว่า วิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายค้านจะตกลงกันออกมาอย่างไร แต่ดูแล้ว ยังไงฝ่ายค้านต้องพยายามต่อรองขอให้อภิปรายให้มากที่สุดเกิน 3 วันแน่นอน แต่ถ้าไม่ได้ก็คงขอให้ ส.ส.ฝ่ายค้านมีเวลาการอภิปรายมากกว่าฝ่ายรัฐบาล
ทั้งนี้ 4 พ.ร.ก.โควิดฯ ดังกล่าว สาระสำคัญจริงๆ จะมีอยู่แค่ 3 ฉบับเท่านั้น ประกอบด้วย 1.พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 2.พ.ร.ก.ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบฯ 3.พ.ร.ก.รักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศฯ ส่วนอีก 1 ฉบับคือ พ.ร.ก.การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2563 ที่ออกมาเพื่อรองรับการประชุมของภาครัฐ-เอกชน เช่น การประชุมผู้ถือหุ้น-ประชุมผู้บริหารภาครัฐ เพื่อให้ผลการประชุมมีผลรับรองทางกฎหมายได้ จึงเป็น พ.ร.ก.ที่ไม่น่าจะมีคนอภิปรายกันมากนัก
นอกจากนี้ เดิมมีข่าวว่ารัฐบาลจะผลักดัน "ร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2553 วงเงิน 88,452 ล้านบาท" ที่ไปปรับลดงบปี 2563 ในกระทรวงต่างๆ ลง แล้วโยกมาเป็นงบกลางในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเพื่อสู้ศึกโควิด ซึ่งดูแล้ว แค่ 4 พ.ร.ก.ข้างต้นก็กินเวลาประชุมสภามากแล้ว รัฐบาลก็อาจขยับไปเสนอต่อสภาในสัปดาห์ถัดไป
แน่นอนว่า การเห็นชอบ 4 พ.ร.ก.โควิดฯ ยังไงก็ผ่านฉลุย ทั้งในสภาและวุฒิสภา โดยในส่วนของสภา เสียง ส.ส.รัฐบาลไม่มีปัญหา เพราะตอนนี้รัฐบาลไม่มีปัญหา "เสียงปริ่มน้ำ" แล้ว เนื่องจากฝ่ายรัฐบาลมี ส.ส.ร่วม 277 เสียง แต่ที่รัฐบาลต้องเตรียมรับมืออย่างหนักก็คือ การรับมือการอภิปรายของ ส.ส.ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะที่ต้องเตรียมตัวมากกว่าคนอื่นในการรับมือกับฝ่ายค้านก็คือ 3 คนนี้
"พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี-สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ-อุตตม สาวนายน รมว.คลัง"
ที่เชื่อได้ว่า พ.ร.ก.ที่ฝ่ายค้านวางน้ำหนักการอภิปรายไว้มากที่สุดก็คือ พ.ร.ก.กู้เงินฯ 1 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท เพราะพบว่า รอบนี้ "ฝ่ายค้านรอปล่อยของ" ชนิด "จัดหนัก-จัดเต็ม" รอ "ชำแหละ-ซักฟอก-ขึงพรืด" ตัวบิ๊กตู่ และสมคิด-อุตตมในช่วงการอภิปราย พ.ร.ก.โควิดฯ ครั้งนี้อย่างหนัก
ถึงตอนนี้จับกระแสเห็นทิศทางได้ว่า การอภิปรายของ ส.ส.ฝ่ายค้านจะย้ำปมอภิปรายไล่ขยี้บิ๊กตู่-สมคิด-อุตตมใน 2 ประเด็นหลัก เพื่อสร้างกระแสทางการเมือง ดิสเครดิตรัฐบาล นั่นก็คือ
"ออก พ.ร.ก.กู้เงินแบบตีเช็คเปล่า-ช่วยอุ้มเจ้าสัว"
โดยจะมุ่งอภิปรายว่า พ.ร.ก.บางฉบับโดยเฉพาะ พ.ร.ก.ให้ ก.คลังกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่เนื้อหาใน พ.ร.ก.ไม่มีรายละเอียดใดๆ ในการใช้เงิน-การควบคุมการใช้เงิน นอกจากแค่ให้ตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองฯ เหมือนกับเป็นการตีเช็คเปล่า ใช้เงินแล้วสูญเปล่า ไม่ก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ-ไม่ทำให้เกิดการจ้างงาน และอาจเปิดช่องให้มีการตุกติกแบ่งเค้กหาผลประโยชน์ ทำนองอภิปรายตีกันไว้ก่อน
ส่วนประเด็นเรื่อง "อุ้มเจ้าสัว-ช่วยคนรวย" ก็คือ จะอภิปรายว่า การให้แบงก์ชาติตั้งกองทุนอุ้มตราสารหนี้-หุ้นกู้ของเอกชน เป็นการไปช่วยกลุ่มทุนที่จะครบกำหนดการไถ่ถอนหุ้นกู้ภายในปีนี้ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้เอกชนขนาดใหญ่ ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ
อันเชื่อได้ว่า ระหว่างการอภิปราย ส.ส.ฝ่ายค้านจะต้องใช้โอกาสนี้อภิปรายเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ ยกเลิก "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" แน่นอน ตลอดจนเชื่อได้ว่าจะต้องมีการอภิปรายแบบดรามา โจมตีพลเอกประยุทธ์ว่า ออกมาตรการปิดเมือง-ล็อกดาวน์เศรษฐกิจ ที่ทำให้ประชาชนหลายล้านคนเดือดร้อน ตกงาน จนต้องฆ่าตัวตาย ตลอดจนต้องมุ่งอภิปรายว่ามาตรการแจกเงิน 5 พันบาทของรัฐบาลล่าช้า ไร้ประสิทธิภาพ
เรียกได้ว่า การอภิปราย พ.ร.ก.โควิดฯ ที่จะเกิดขึ้น ฝ่ายค้านจะต้องหามุมที่เป็นลบของรัฐบาลมาอภิปรายให้มากที่สุด โดยเลี่ยงที่จะพูดถึงความสำเร็จของรัฐบาลในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด
สรุปง่ายๆ ก็คือ จะใช้เวทีแห่งนี้ด่ารัฐบาลกระจุยนั่นเอง!.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |