ปชป.ชง11-12ม.ค. จ่อตีความปลดล็อก


เพิ่มเพื่อน    

  ประชาธิปัตย์เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ม.44 ปลดล็อกพรรคการเมือง 11-12 ม.ค.นี้    ชื่นชม "บิ๊กตู่" ประกาศเป็นนักการเมือง ไม่ต้องทำตัวเป็นอีแอบต่อไป เพื่อไทยยินดีต้อนรับนายกฯ คนนอก  ขู่เจอกันในสภา 

    นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 53/2560 เรื่องการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ว่าด้วยเรื่องการดำเนินการตามกฎหมายพรรคการเมืองว่า ในวันที่ 8 ม.ค.นี้ พรรคประชาธิปัตย์จะประชุมหารือเรื่องดังกล่าว ก่อนจะเสนอร่างเนื้อหาให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พิจารณา

    “จากนั้นจะสรุปเนื้อหากันอีกครั้ง เบื้องต้นคาดว่าจะยื่นให้กับศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ในวันที่ 11-12 ม.ค.นี้” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

    นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศตนเองเป็นนักการเมืองว่า ตนคิดว่าเป็นการเตรียมการเพื่อเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกในอนาคตตามกรอบรัฐธรรมนูญ เพราะการที่ท่านประกาศตนเป็นนักการเมืองเต็มตัว คงน่าจะมีแรงต้านทหารเยอะ ทั้งตวาดใส่ประชาชน จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ ในเมื่อท่านเป็นนักการเมืองแล้ว ก็ขอให้ยิ้มแย้มแจ่มใส และรับฟังประชาชน

    "ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ท่านประกาศตนชัดเจน ไม่ต้องทำเป็นอีแอบอีกต่อไป แต่ว่านักการเมืองมีทั้งดี ทั้งเลว ซึ่งบางคนก็ทุจริต ใช้อำนาจมิชอบ ก็เป็นเผด็จการในคราบนักการเมืองและประชาธิปไตย"

    นายวิรัตน์แนะนำนิยามการเป็นนักการเมืองให้ พล.อ.ประยุทธ์รับทราบว่า หัวใจสำคัญของนักการเมือง ต้องรับฟังเสียงประชาชน และต้องยึดถือปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นหลัก เพื่อแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งต้องเล่นการเมืองอย่างโปร่งใส บริสุทธิ์ยุติธรรม ตลอดจนสามารถตรวจสอบได้ ถ้าทำแบบนี้ไม่ได้ ก็ไม่ถือว่าเป็นนักการเมือง จะเป็นนักการเมืองที่ดีแต่ปาก ขณะเดียวกัน ในเมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ตนคิดว่าน่าจะเป็นไปตามโรดเแมป มีการเลือกตั้งภายใน พ.ย.61 

    นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า ขอให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความนิ่ง และมีความมุ่งมั่นในการปราบทุจริต คดีค้างคาเก่า ปัญหาเรื่องผู้มีอิทธิพล มาเฟีย ของเถื่อน โดยจะต้องช่วยกันทำให้แล้วเสร็จ นอกจากนี้ให้ช่วยเร่งสิ่งที่ทีมเศรษฐกิจเคยรับปากจะทำให้คนจนหมดประเทศภายใน 1 ปี ให้รีบทำให้เสร็จ 

    เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า แนวโน้มของการเมืองปี 2561 จะมีความรุนแรงมากขึ้น เพราะทุกพรรคการเมืองคงมีความคาดหวัง ทางของพรรคประชาธิปัตย์ มีการเตรียมก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง โดยไม่เคยคำนึงถึงจะต้องเลือกตั้งเมื่อไหร่ แต่อยากให้รัฐบาลปัจจุบันแก้ปัญหาที่รัฐบาลเลือกตั้งทำได้ยาก เช่น กฎหมายฉบับไหนที่จำเป็นต้องออกเพื่อลดการผูกขาด แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ให้รีบทำก่อนที่จะส่งไม้ผลัดให้กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง 

    "ผมไม่สามารถตอบได้รัฐบาลใหม่หลังจากการเลือกตั้งจะเป็นใคร แต่พรรคประชาธิปัตย์มีความตั้งใจว่าสิ่งที่ต้องทำคือเรื่องปากท้องประชาชนต้องมาก่อนเป็นอย่างแรก ตามมาด้วยปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ สังคม และความเหลื่อมล้ำทางกระบวนการยุติธรรม และที่สำคัญคือการปฏิรูประบบราชการ ปฏิรูปวิธีคิด ไม่อย่างนั้นประเทศไทยจะไม่สามารถต่อสู้ในเวทีโลกได้เลย" เลขาธิการพรรค ปชป.กล่าว

    ด้านนายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ออกมาระบุเงื่อนไขรัฐธรรมนูญที่เปิดช่องให้มีนายกฯ คนนอก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการปฏิวัติอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์พูดก็พูดได้ แต่วิธีปฏิบัติไม่มีใครเชื่อ ก่อนหน้าบอกไม่ยึดอำนาจ สุดท้ายก็ยึดอำนาจ เรื่องนายกรัฐมนตรีคนนอก หากท่านเข้ามาเป็นเอง แสดงว่า กติกาที่เขียนกันเองก็นำมาใช้กันเอง คนจะเชื่อว่ามีการสืบทอดอำนาจจริง กระบวนการประชาธิปไตยแม้มีเพียงน้อยนิด ถึงอย่างไรควรมีนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง

    "ตลอด 3-4 ปี รัฐบาลทำงานมาก็ไม่เคยฟังเสียงประชาชน แม้ตามรัฐธรรมนูญตามกฎหมายระบุ นายกรัฐมนตรีคนนอกทำได้ แต่ก็ขอพูดเอาไว้เลย พอถึงเวลาหากเป็นเช่นนั้น ผมและพรรคเพื่อไทยไม่มีใครยอมรับได้ ส่วนพรรคไหนจะยอมรับ เป็นเรื่องของเขา อะไรที่ฝืนประชาธิปไตย ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ มีปัญหาแน่ พล.อ.ประยุทธ์ แม้จะมาเป็นนายกฯ คนนอกได้ ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดรัฐธรรมนูญ แต่ก็เกิดจากกติกาที่มีการเขียนรองรับเอาไว้

    นายสมคิดกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ประกาศเป็นนักการเมืองแล้ว ก็ต้องปฏิบัติเหมือนนักการเมือง แต่วันนี้ตัวเองหาเสียง ใช้งบประมาณไปให้พื้นที่โน้น พื้นที่นี้ได้คนเดียว แล้วห้ามพวกตน นักการเมือง ไม่ให้หาเสียง อย่างนี้ถือว่าเป็นการเอาเปรียบหรือไม่ ขอภาวนาให้ พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาเป็นนายกฯ อีกสมัย จะได้เจอกันในสภา แม้วันนั้นจะไปเป็นฝ่ายค้านก็ตาม 

    เมื่อถามถึงข้อเสนอนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อยากให้พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ จับมือร่วมรัฐบาล ต่อสู้รัฐบาลทหาร นายสมคิดตอบว่า หากเป็นการจับมือเพื่อประกาศยืนยันไม่เอานายกรัฐมนตรีคนนอก อันนี้พอเป็นไปได้ แต่หากให้จับมือร่วมรัฐบาลด้วยกัน เป็นเรื่องยาก เพราะลักษณะวิธีการทั้ง 2 พรรคคนละอย่างกัน 

    "อยากเห็นพรรคการเมืองทั้งหมดจับมือไม่เอานายกฯ คนนอก แต่ให้เอารายชื่อจากในบัญชีที่พรรคเสนอไป เลือกมาเป็น พรรคไหนได้เสียงข้างมาก ก็ตั้งรัฐบาลไป ป้องกันนายกฯ คนนอก เรื่องนี้พอเป็นไปได้อยู่" นายสมคิดกล่าว.   


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"