โควิดดันคนเมิน‘เสรีภาพ’ รับรายได้หด-หนี้สินบาน


เพิ่มเพื่อน    

 คนไทย 83% ยอมให้เรื่องสุขภาพมาเป็นหลัก แม้เสรีภาพมีปัญหา แต่ส่วนใหญ่อยากให้เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหลังสถานการณ์ดีขึ้น "ประชาชน" รับช่วงโควิด "รายได้-เงินเก็บ" หดหาย แต่หนี้สินสวนทางเพิ่มขึ้น

    เมื่อวันอาทิตย์ มีการเผยผลสำรวจความคิดเห็น (โพล) ของ 2 สำนักที่เกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 โดยศูนย์สำรวจความคิดเห็นของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) หรือนิด้าโพล ได้สำรวจเรื่องเสรีภาพหรือสุขภาพ จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกภูมิภาค 1,259 หน่วยตัวอย่าง
โดยเมื่อถามถึงความคิดเห็นกับข้อเสนอให้ยกเลิกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พบว่า 35.98% ระบุว่าเห็นด้วยมาก เพราะสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นเยอะเเล้ว อยากให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ, 21.76% ระบุว่าค่อนข้างเห็นด้วย เพราะสถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว, 15.17% ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดรอบ 2 ขึ้น และ 25.74% ระบุว่าไม่เห็นด้วยเลย เพราะอยากให้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ปลอดภัย 100% ก่อน และ 1.35% ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่สนใจ  
    ด้านความคิดเห็นของประชาชนกับข้อเสนอให้ยกเลิกประกาศเคอร์ฟิว (4 ทุ่มถึงตี 4) พบว่า ส่วนใหญ่ 41.22% ระบุว่าเห็นควรให้มีเคอร์ฟิวตามเวลาเดิม เพราะอยากให้โควิด-19 หมดไป 100% ก่อน และลดการมั่วสุม ชุมนุม, 33.68% ระบุว่าเห็นควรยกเลิกเคอร์ฟิวไปเลย เพราะไม่สะดวกในการเดินทางเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ที่ทำงานตอนกลางคืนขาดโอกาส, 23.99% ระบุว่าเห็นควรให้ปรับเวลาเคอร์ฟิวใหม่ และ 1.11% ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่สนใจ เมื่อถามผู้ที่เห็นควรให้ปรับช่วงเคอร์ฟิวใหม่ พบว่า ส่วนใหญ่ 40.73% ระบุว่าช่วงเวลาเคอร์ฟิวใหม่ควรเป็นเวลา 00.00-04.00 น., 18.21% ระบุว่าควรเป็นช่วง 23.00-04.00 น., 12.58% ระบุว่า ควรเป็นช่วงเวลา 00.00-05.00 น., 6.29% ระบุว่าควรเป็นช่วงเวลา 23.00-03.00 น., 5.30% ระบุว่าควรเป็นช่วงเวลา 23.00- 05.00 น. และ 16.89% ระบุว่าควรเป็นช่วงเวลาอื่นๆ 
    สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อรัฐบาลว่าควรอนุญาตให้ ผับ บาร์ ร้านเหล้า เปิดให้บริการ พบว่า ส่วนใหญ่ 78.87% ระบุว่ายังไม่ควรอนุญาต, 18.03% ระบุว่าควรอนุญาตให้เปิดได้แล้ว และ 3.10% ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่สนใจ และเมื่อถามถึงการให้ความสำคัญระหว่างเสรีภาพกับสุขภาพ พบว่า ส่วนใหญ่ 83.80% ระบุว่าเลือกสุขภาพที่ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้ต้องถูกจำกัดเสรีภาพบ้าง, 12.87% ระบุว่าเลือกเสรีภาพ แม้ว่าจะต้องเสี่ยงกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19, 2.86% ระบุว่าอะไรก็ได้แล้วแต่รัฐบาลเห็นสมควร และ 0.47% ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่สนใจ   
ส่วนสวนดุสิตโพล ของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,125 คน กรณี “รายได้-รายจ่าย-หนี้สิน-เงินออม” ของคนไทยยุคโควิด-19 ในหัวข้อรายได้- หนี้สิน-เงินออมของประชาชนเมื่อเปรียบเทียบก่อนโควิด-19 ระบาด กับ ณ วันนี้ ว่ารายได้ประจำลดลง 25.16%, รายได้พิเศษลดลง 35.38%, เงินออมลดลง 27.91% และหนี้สินเพิ่มขึ้น 25.07% ส่วนเรื่อง 5 รายจ่ายที่เพิ่มขึ้น คือ ค่าน้ำ-ค่าไฟ เพิ่มขึ้น 68.53%, โทรศัพท์มือถือ/อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น 44.89%, อาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 40.27%, ยารักษาโรค/ค่ารักษาพยาบาล/ดูแลสุขภาพ เพิ่มขึ้น 20.18% และบริจาค ทำบุญ เพิ่มขึ้น 14.22% ส่วน 5 รายจ่ายที่ลดลง คือ ค่าเดินทาง ค่ารถ ค่าเรือ/น้ำมัน ลดลง 60.62%, เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ลดลง 42.31%, ท่องเที่ยว พักผ่อน ลดลง 41.51%, เสี่ยงโชค ลอตเตอรี่ หวย ลดลง 38.67% และเครื่องประดับ/น้ำหอม ลดลง 34.31%.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"