หนุ่มเลิกกับเมียเฝ้างอนง้อไม่สำเร็จ จากรักกลายเป็นแค้นบุกยิงทั้งเมีย-แม่ยาย เจ็บสาหัส หนีตายรอดหวุดหวิด ก่อนมือปืนระเบิดขมับตัวเองหนีผิด

    บ่ายวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ร.ต.อ.นัฐพล นิธิพัฒน์โรจน์ พนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่กระท่อมในสวนมะลิ เลขที่ 113/3 หมู่ 5 ต.วัดละมุด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จึงไปตรวจสอบ พบผู้บาดเจ็บสาหัสเป็นหญิง 2 รายชื่อ น.ส.อรนัชชา ชินรัมย์ อายุ 23 ปี และนางบรรจง พูลชาติ อายุ 52 ปี มารดา จึงนำส่ง รพ.นครปฐม ห่างกระท่อมประมาณ 50 เมตร พบศพนายสุวัฒน์ วังมะนาว อายุ 24 ปี ถูกยิงเสียชีวิตกระสุนเข้าขมับขวา โดยมีปืนพกขนาด .22 แม็กนัม ตกอยู่ 1 กระบอก กระสุนอีกจำนวนหนึ่ง
    นายกัณหา พูลชาติ อายุ 50 ปี น้องชายนางบรรจงให้การว่า ก่อนหน้านี้นายสุวัฒน์แต่งงานอยู่กินกับ น.ส.อรนัชชาผู้เป็นหลานสาว มีลูกด้วยกัน 1 คน ต่อมาทั้งคู่ทะเลาะกันและหลานสาวขอเลิก แยกกันอยู่ ขณะที่นายสุวัฒน์พยายามงอนง้อและพูดจาข่มขู่ตลอดเวลา กระทั่งก่อนเกิดเหตุ นายสุวัฒน์ได้ขี่รถจักรยานยนต์สีแดงดำ ทะเบียน 1กง 6006 กาญจนบุรี มาจอดที่กระท่อมในสวนมะลิ พบ น.ส.อรนัชชากับนางบรรจงนั่งเด็ดดอกมะลิอยู่ที่หน้ากระท่อม นายสุวัฒน์จึงเรียก น.ส.อรนัชชาเข้าไปคุยด้านใน และมีปากเสียงกันรุนแรง ก่อนที่นายสุวัฒน์จะชักปืนยิงใส่แม่-ลูก จนทั้งสองได้รับบาดเจ็บและพากันวิ่งหลบหนี ส่วนนายสุวัฒน์วิ่งไล่ยิง กระทั่งแม่ลูกหนีเข้าไปในบ้านนายกัณหา นายสุวัฒน์จึงตัดสินใจยิงตัวตายหนีผิด
    บุรีรัมย์ มีรายงานความคืบหน้ากรณีนายเล็ก อายุ 30 ปี ชาว ต.ละหานทราย อ.ละหานทราย ใช้ท่อนไม้ยูคาลิปตัสกระหน่ำตีที่ศีรษะนายยอม เงางาม อายุ 63 ปี ผู้เป็นพ่อเสียชีวิตขณะนอนอยู่ในเปลข้างบ้าน เมื่อวันศุกร์ สาเหตุเจ็บแค้นที่พ่อเมาแล้วทำร้ายแม่บ่อยครั้ง ตำรวจได้ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายบุพการีเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย พร้อมคัดค้านประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และเตรียมส่งฝากขังศาลจังหวัดนางรองในวันที่ 18 พ.ค.นี้
    ด้านนางรจนา ภรรยานายยอมผู้ตายเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนเองรักทั้งสามีและลูก แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมาก็มีปัญหาในครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องที่สามีชอบดื่มเหล้าเมาแล้วมีปากเสียงทะเลาะกันบ่อย อีกทั้งสามีจะชอบตบตีตนเองให้ลูกเห็นมาตั้งแต่เด็ก กระทั่งก่อนเกิดเหตุไม่กี่วันตนถูกสามีทำร้าย และตอนนั้นสามีพกมีดติดตัวตลอดจนกลัวนอนไม่หลับ ลูกชายต้องมานอนเฝ้าหน้าประตูห้อง  เพราะเป็นห่วงแม่กลัวพ่อจะทำร้าย 
    นางรจนากล่าววว่า เชื่อว่าที่ลูกชายทำไปเพราะต้องการปกป้องไม่อยากให้พ่อมาทำร้ายแม่อีก ประกอบกับลูกชายก็มีอาการป่วยเป็นจิตเวชมานานกว่า 10 ปีแล้ว ไปรักษาและรับยามากินเป็นประจำ โดยมีบัตรผู้ป่วยจิตเวช และยาที่รับจากแพทย์มายืนยันด้วย หัวอกคนเป็นแม่ก็รักและห่วงลูกไม่อยากให้ติดคุก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง หากศาลท่านเมตตาให้ประกันตัวได้ ก็จะพยายามหาเงินไปประกันตัวลูก.