17 พ.ค. 63 - นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "เมื่อแรกเริ่มปิดล็อกประเทศ รัฐบาลจีน ห้ามธุรกิจต่างๆ เลิกจ้าง และให้พนักงานรับค่าจ้างตามปกติ โดยรัฐบาลจีนช่วยเหลือออกค่าเงินเดือนให้บางส่วนตั้งแต่ 10% ถึง 90% ตามฐานะของกิจการ จึงทำให้ทุกกิจการไม่ต้องปิดกิจการและไม่ต้องเลิกจ้าง ไม่มีคนตกงาน ไม่ต้องวุ่นวายกับคนตกงาน
ส่วนบ้านเราเมื่อจะปิดล็อกก็ปล่อยให้เลิกจ้างกันตามใจชอบเป็นเหตุให้กิจการต้องปิดตัวลงจำนวนมาก คนงานถูกเลิกจ้างตกงาน ว่างงาน ทั่วประเทศ และรัฐบาลก็ต้องจ่ายเงินช่วยเหลือ ผู้ตกงาน คนละ 15,000 บาท ต้องจ่ายเงินประกันสังคมและอีกสารพัดแก่คนร่วม 30 ล้านคน จนถึงวันนี้ใช้เงินไปเท่าไหร่ก็ยังไม่รู้และปัญหาก็ยังไม่จบ
นี่คือบทเรียนของการปิดล็อก ปิดประเทศ 2 แบบที่ให้ผลแตกต่างกัน
คราวนี้ก็มาถึง การปลดล็อก Restart ประเทศ ก็มี 2 แบบเหมือนกัน
แบบที่ 1 รัฐบาลจีนและรัฐบาลหลายประเทศใช้แบบนี้ คือพื้นที่ใดไม่มีการติดเชื้อหรือไม่มีผู้ป่วยหรือมีแต่ควบคุมได้ ก็ปลดล็อกให้ทุกอย่างดำเนินการไปตามปกติ แต่ออกมาตรการควบคุม เฉพาะบางกิจการที่มีความเสี่ยง พื้นที่ส่วนน้อยเล็กๆ ที่ยังมีผู้ป่วย ก็กำหนดให้เป็นพื้นที่ต้องกักตรวจอีกระยะหนึ่ง แต่อนุญาตให้กิจการที่ไม่มีความเสี่ยงเปิดดำเนินการได้
แบบที่ 2 ยังคงล็อกทั้งประเทศ แต่อนุญาตให้บางกิจการ เปิดดำเนินการได้ โดยมีมาตรการควบคุมตามที่กำหนด
การทำแบบนี้ให้ระวัง จะเจ๊งรอบ 2 เพราะแท้จริงเปิดดำเนินการไม่ได้ ใครเปิดก็ขาดทุน และทำให้ไม่สามารถจ้างงานได้เต็มรูปแบบ ทำให้คนตกงาน ว่างงาน ไม่มีรายได้ ยังดำรงอยู่มากกว่าครึ่งหนึ่งของพวกที่ตกงาน ซึ่งกำลังไม่มีรายได้และไม่มีกิน
ยิ่งมาตรการหลายอย่างพิลึกพิลั่น ก็จะยิ่งซ้ำเติมให้ความเดือดร้อนเสียหายมากเพิ่มขึ้นไปอีก".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |