ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ และทักษาเดิม-จร
กำเนิดวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06.54 น. ลัคนาสถิตราศีเมษ
ทักษาเดิมภูมิอาทิตย์ ๑ - เมืองอายุย่าง 239 ปี ตกภูมิพุธ ๔ พระราหู ๘ เป็นศรีจร
พระราหูจร (8) กำลังเดินตามเข็มนาฬิกาอยู่ในราศีมิถุน - จะย้ายเข้าไปเดินในราศีพฤษภ ตั้งแต่ 10 กันยายน 2563 - 29 มีนาคม 2565
แม่หมอสมัครเล่นตอนนี้ขอพักการเขียนถึงผลของพระเสาร์จร(7) ที่เข้าไปเดินในราศีมังกรต่อท่านที่ลัคนาสถิตราศีกุมภ์ซึ่งเป็นราศีสุดท้ายที่ยังไม่ได้ทำนายไว้ก่อนเพื่อเขียน เกณฑ์ทางโหรสำคัญที่ปรากฏเป็นลางในเมือง ส่งสัญญาณไปยังพนักงานบริษัท การบินไทยฯ ทั้งหลาย ที่กำลังไม่แน่ใจในอนาคตของสายการบินแห่งชาติอยู่ในขณะนี้
เมื่อปลายปี 2562 ผู้เขียนเคยให้สัมภาษณ์หลายสื่อค่อนข้างจะมั่นใจว่า ปี 2563 มีเหตุการณ์ที่ต้องจับตา คือตั้งแต่วันเกิดดวงเมืองที่ 21 เมษายน 2563 - 21 เมษายน 2564 เราน่าจะได้เห็นเค้าลาง การเกิดของสนามบินแห่งใหม่ ซึ่งขณะนี้ก็ทราบกันแล้วว่าจะก่อสร้างสนามบินที่นครปฐมอันจะเป็นการพัฒนาการบินของประเทศอีกครั้งใหญ่ (แถมด้วยการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา-รถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อสามสนามบิน)
ทั้งนี้ เพราะมุมของดาวจรที่ทำกับเมือง-ทักษาจรของเมืองใกล้เคียงกับเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์อาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อ 19 มกราคม 2545 อันเป็นการ เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงใหญ่ เกี่ยวกับกิจการด้านการบินของประเทศไปจากเดิมที่เคยมีแต่สนามบินดอนเมืองเป็นหลัก
ผู้เขียน ขอย้ำเหตุการในอดีตถึงการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่เริ่มต้นได้สนามบินสุวรรณภูมิอันเป็นหนึ่งในกิจการสำคัญทางอากาศของประเทศ เพื่อส่งสัญญาณไปยัง พนักงานบริษัท การบินไทยฯ ทั้งหลาย ที่กิจการกำลังเกิดปัญหาจนขวัญและกำลังใจอาจจะตกต่ำ โดยขอจับอาการทางดวงเมือง-ทักษาเมืองขณะนี้เปรียบเทียบกับคราววางศิลาฤกษ์สนานบินสุวรรณภูมิ ว่าลีลาของวาระดาวจรของเมืองขณะนี้สามารถสะท้อนภาพรวมไปถึง บริษัท การบินไทยฯ ที่เป็นสายการบินของชาติด้วย คือ
1.ทางโหรผู้เขียนใช้พระราหู (๘) - ดาวธาตุลมใหญ่ (อธิกธาตุ) เป็นตัวแทน กิจการทางอากาศสำคัญของประเทศ ซึ่งหากเทียบชั้นแล้ว บริษัท การบินไทยฯ ก็อยู่ในความหมายสำคัญ ด้วย เพราะคือสายการบินแห่งชาติ คล้ายสนามบินสุวรรณภูมิที่เป็นสนามบินหลักของชาติ ในระดับเดียวกัน
2.ขณะวางศิลาฤกษ์สนามบินสุวรรณภูมินั้น พระราหูจร (8)เดินอยู่ในราศีมิถุน เกือบๆ จะย้ายเข้าราศีพฤษภ (พระราหูจร 8-เดินตามเข็มนาฬิกา) เหมือนในขณะนี้ที่บริษัท การบินไทยฯ กำลังเกิดปัญหา และต้องการความช่วยเหลือทางการเงิน
พระราหูจรเดินอยู่ในราศีมิถุน ซึ่งเป็นภพที่สามดวงเมืองให้คุณงามความดีตามโฉลก..พระภูบาลให้สถานยศเงินทอง..คราวนั้นสนามบินสุวรรณภูมิที่เกิดยากนักหนา ว่ากันว่าขนาดมีเพื่อนบ้านบางประเทศคอยเตะขาสกัดไม่ให้เกิด และผู้เขียนขณะที่เริ่มทำข่าวครั้งแรกก็ยังอยู่ในขบวนการคัดค้านการสร้างสนามบินแห่งนี้ด้วย ทำให้การก่อสร้างล่าช้า ต้นทุนแพงขึ้นอีกอักโข แต่ในที่สุดก็ฝ่าด่านวางศิลาฤกษ์จนได้
มาคราวนี้ผู้เขียนจึงเชื่อว่า ไม่ว่าผลของการพิจารณาแก้ไขปัญหาของบริษัท การบินไทยฯ จะออกมามุมไหน ผลดีย่อมจะเกิดกับบริษัท การบินไทยฯ โดยรวม
3.เมื่อวางศิลาฤกษ์สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว หลังจากนั้นไม่นานพระราหูจรก็ย้ายจากราศีมิถุนเข้าราศีพฤษภ เป็นราหูค้นทรัพย์ดวงเมือง ที่ต้องใช้เงินลงทุนอีกส่วนหนึ่งแพงขึ้นก็คงเพราะสร้างช้า
มาคราวนี้พระราหูจรจะเริ่มเข้าไปเดินในราศีพฤษภ ค้นทรัพย์ดวงเมืองตั้งแต่ 10 กันยายน 2563 เป็นต้นไป และจะอยู่ที่นี่ไป 29 มีนาคม 2565 จึงเชื่อว่า รัฐคงต้องใช้เงินไม่น้อยในอันจะแก้ไขปัญหาบริษัท การบินไทยฯ
4.ในระหว่างการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิก็ไม่ใช่จะง่าย ผู้เขียนที่ทำข่าวอยู่แถวกระทรวงคมนาคมขณะนั้นจำได้เลยว่า มีข่าวไม่ดีหลุดออกมาให้ตามกันบ่อย เช่น เรื่องถมทราย ฯลฯ แต่ในที่สุดสนามบินสุวรรณภูมิก็เกิดขึ้นจนได้
เฉกเช่นแผนฟื้นฟูบริษัท การบินไทยฯ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน-อนุมัติมาอย่างไร ก็เกรงว่าไม่น่าจะง่าย แต่ ผู้เขียนมีเคล็ดทางโหร สำหรับ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหา และ พนักงานบริษัท การบินไทยฯ มาฝากดังนี้
5.ย้อนกลับไปหลังวางศิลาฤกษ์สนามบินสุวรรณภูมิไม่นานในทางทักษาเมืองก็เริ่มตกภูมิพุธ ส่งผลให้พระราหูซึ่งหนึ่งในความหมายเป็นตัวแทนกิจการการบินเป็นศรี-สิริมงคลของเมืองตามหลักทักษา เอื้อต่อการเกิดของสนามบินสุวรรณภูมิในระยะเริ่มต้นหนึ่งปี
มาคราวนี้ ที่การบินไทยกำลังมีปัญหา พระราหูกำลังเป็นศรี-สิริมงคลจรระหว่างวันเกิดเมืองที่ 21 เมษายน 2563 - 21เมษายน 2564 เอื้อต่อการแก้ไขปัญหาปัญหาของบริษัท การบินไทยฯ ยิ่งนัก เป็นไปตาม ลิลิตทักษาพยากรณ์ ที่เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรีนิพนธ์ไว้คือ …..
พฤหัส-เสาร์-ราหู ทั้งสามหมู่มาเป็นศรี
ต้องลัคน์จันทร์สังฆี ปวัตติสามีอาราม
บริบูรณ์ปริขาร ไชยทานก็เหลือหลาม
ขึ้นชื่อระบือนาม วรศักดิ์สังฆราช์
แม้นจวบพระเคราะห์ใด ทวะเว้นไว้แต่ตัวกาล์
กล่าวคุณอุตม์มหา มหิทธิโชคในปางปี..
แปลความหมายง่ายๆ จากลิลิตนี้คือ ปีไหนที่คนรวมทั้งเมืองเมื่อพฤหัสบดี หรือพระเสาร์ หรือพระราหูเป็นศรีจรตามหลักทักษาแล้ว หากไปถูกพระเคราะห์ใดก็จะมีปรากฏการณ์เหมือนกับ พระเจ้าคณะที่ท่านอยู่มานาน ลุกขึ้นปรับปรุงคณะของท่าน ผลคือเงินบริจาคก็ไหลมาเทมา และท่านได้เป็นพระราชาคณะ หรือถ้าพื้นชะตาเดิมสูงก็เป็นพระสังฆราชไปเลย
มาคราวนี้ที่ทักษาจรของเมืองพระราหูจร (8) ตัวแทนกิจการการบินของชาติกำลังเป็นศรีจรอยู่โดยตัวเอง กิจการที่อยู่ในข่ายราหู รวมทั้งหนึ่งในนั้นคือบริษัท การบินไทยฯ จึงมีหน้าที่ต้อง ลุกขึ้นมาต้องปฏิวัติตัวเอง-องค์กรใหญ่โต เพื่อจะกลับมายิ่งใหญ่ในโอกาสต่อไป
เหมือนกับการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิที่ต้องฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคมากมายจนถึงวันนี้ก็ยังไม่สมใจนัก แต่ ผลคือไทยมีสนามบินนานาชาติแห่งใหม่
เกณฑ์สำคัญ อีกหนึ่งข้อคือ แม้ตั้งแต่ 10 กันยายน 2563 เป็นต้นไป ราหูจรจะค้นทรัพย์ดวงเมือง แต่ก็ทับพระอังคารดวงเดิม (๓) ตามตำราบอกเหมาะที่จะกินบุญเก่าหรือเอาสมบัติเก่ากรณีนี้คือชื่อเสียง-ฝีมือ-กิจการของบริษัท การบินไทยฯ มาต่อยอด ให้กิจการขยาย..ตามโฉลก..ราหูสุรินทร์ยักษ์ จรทักพระอังคาร สินทรัพย์บุราณนาน จะขจัดขจายศูนย์…
ด้วยเกณฑ์ต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ หากจะมี การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงใหญ่ไม่ว่าจะโดยวิธีใด แม้จะ ไม่ง่าย-ใช้เวลาและ เจ็บปวด บ้าง แต่ผู้เขียนก็เชื่อว่าสิ่งดีๆ คอยอยู่ รวมทั้งความเป็นสายการบินแห่งชาติด้วย
แต่หากคิด-ทำอะไรเหมือนเดิมจะเป็นการทิ้งโอกาสดีๆ ที่คอยอยู่ในอนาคตอย่างน่าเสียดาย
และคราวนี้สำหรับการบินไทย โอกาสไม่ใช่จะผ่านเลยไปเฉยๆ เพราะจริงๆ แล้วองค์กรกำลังถูกมฤตยูไล่ล่าอย่างเข้มข้นเหมือนองคาพยพอื่นในเมือง (และโลก) จึงหากไม่ชิงเปลี่ยนแปลงจะถูกเปลี่ยน หรือหากฝืนได้ก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |