จับเพิ่ม20ผู้ต้องสงสัยเผารถทัวร์


เพิ่มเพื่อน    

  จับอีก 20 ผู้ต้องสงสัยพัวพันเผารถทัวร์ ที่ยะลา ขณะที่คนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงซ้ำด้วย ระเบิดบ้านอาสาสมัครตากใบ แต่พลาดเป้า หลังเคยถูกถล่มมาแล้วครั้งหนึ่ง 

    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ม.ค.61 พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.ตากใบ, นายประยูร พุทธชาด นายอำเภอตากใบ, พ.ต.ท.ประจวบ นิ่มเรือง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด กองกำกับการชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธร จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดอโณทัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มและขว้างระเบิดซ้ำใส่บ้านเลขที่ 160/2 และบ้านเลขที่ 154/1 ม.2 ต.นานาค อ.ตากใบ เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.50 น. ของคืนวันที่ 5 ม.ค.61 ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ไม่กล้าเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เกรงคนร้ายจะวางแผนลวงเพื่อดักสังหาร

    ถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบบ้านเลขที่ 160/2 เป็นบ้านพัก 2 ชั้น สร้างแบบครึ่งปูนครึ่งไม้ มีนายอาทิตย์ จันทร์แก้ว อายุ 38 ปี ซึ่งเป็น อส.อำเภอตากใบเป็นเจ้าของ โดยมีร่องรอยถูกกระสุนปืนเอ็ม 16 และอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ได้รับความเสียหายที่บริเวณฝาผนังของตัวบ้านและฝาผนังของโรงรถที่สร้างอยู่ด้านซ้ายมือของบ้านพัก 

    และบริเวณใกล้โคนต้นมะม่วงข้างโรงรถ เจ้าหน้าที่พบระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ หนัก 1 กก. ตกอยู่จำนวน 1 ลูก เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เครื่องแรงดันน้ำพลังสูงในการยิงทำลายวงจรจุดชนวนระเบิด ก่อนที่จะนำระเบิดแสวงเครื่องไปยิงทำลายซ้ำอีกครั้งหนึ่ง

    ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 154/1 ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับบ้านของนายอาทิตย์ จันทร์แก้ว อส.อำเภอสุไหงปาดี ซึ่งเป็นบ้านของนายประทีป แก้วเลี่ยม อายุ 40 ปี ลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียวยกสูง โดยที่บริเวณแผ่นสังกะสีที่ใช้เป็นฝาผนังข้างประตูเข้าบ้านพัก มีร่องรอยถูกกระสุนปืนเป็นรูโหว่จำนวน 2 จุด และที่บริเวณบนถนนหน้าบ้านพักของบ้านเกิดเหตุทั้ง 2 หลัง เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่ จำนวน 43 ปลอก และปลอกกระสุนปืนพกขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวน 11 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ

    จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.50 น. ของคืนวันที่ 5 ม.ค.61 ได้มีคนร้ายจำนวน 5-6 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ ได้แฝงตัวเดินมาที่หน้าบ้านพักของนายอาทิตย์ อส.อำเภอตากใบ พร้อมทั้งได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และอาวุธปืนพกขนาด 9 มม. ยิงใส่บ้านพัก 

    ขณะที่นายอาทิตย์ พร้อมบิดามารดา รวมทั้งภรรยาและลูกๆ รวม 6 คน กำลังแยกย้ายกันนอนพักผ่อนอยู่ในบ้านพักบริเวณชั้น 2 และชั้นล่าง พร้อมทั้งคนร้ายได้ใช้ระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ขว้างใส่บ้านของนายอาทิตย์ จำนวน 1 ลูก แต่โชคดีระเบิดไปป์บอมบ์ได้ไปติดกิ่งต้นมะม่วงที่ปลูกไว้ข้างโรงรถ จึงพลาดเป้าตกใต้โคนต้นมะม่วง

    ขณะที่กลุ่มคนร้ายเตรียมที่จะพากันล่าถอยไป  นายประทีปซึ่งมีบ้านพักอยู่ฝั่งตรงกันข้ามได้ยินเสียงปืน จึงได้เปิดไฟภายในบ้าน คนร้ายเห็นดังนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้านของนายประทีปจำนวน 2 นัด เพื่อป้องกันนายประทีปใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ ก่อนกลุ่มคนร้ายอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้

    ด้าน พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.ตากใบ เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ เพื่อลอบสังหารคนของทางการ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา บ้านของนายอาทิตย์ อส.อำเภอตากใบ เคยถูกคนร้ายยิงถล่มมาแล้ว 1 ครั้ง

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จ.ยะลา ได้สนธิกำลังร่วมกันออกปฏิบัติการปิดล้อมพื้นที่ต้องสงสัย บ้านเงาะกาโป บ้านบันนังกูแว ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 4 และ 5 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา เพื่อเปิดแผนปฏิบัติการติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุลอบวางเพลิงเผารถทัวร์สายเบตง-กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.60 ที่ผ่านมา และหลังจากเกิดเหตุไม่กี่วัน เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 4 รายในพื้นที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำการสอบปากคำ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

    ต่อมาทางเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41, 47, 33 และฝ่ายปกครองอำเภอบันนังสตา ได้ร่วมกันออกหาข่าวและติดตามกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ

    โดยได้เปิดแผนในวันที่ 4-5 ม.ค.61 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เปิดยุทธการในการติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้าย หลังจากที่ผู้ถูกควบคุมตัวก่อนหน้านี้ได้ให้การที่เป็นประโยชน์และซัดทอดถึงกลุ่มผู้ร่วมลงมือก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังเข้าตรึงพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา และสามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่จนควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 20 ราย ซึ่งคาดว่าอาจมีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุเผารถทัวร์ ก่อนจะนำตัวเข้าสู่กระบวนการซักถามและควบคุมตัวตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

    ซึ่งการเปิดแผนยุทธการในการปฏิบัติการครั้งนี้  ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลในระหว่างการเข้าปฏิบัติการต่อสื่อมวลชน หรือแจ้งให้กับคนในพื้นที่ทราบ เนื่องจากเกรงว่าข้อมูลจะรั่วไหล และทำให้กลุ่มคนร้ายทราบข่าวจนอาจจะหลบหนีออกนอกประเทศ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"