“อุตตม” วอนประชาชนใจเย็น หลังลงพื้นที่พบประชาชนชวด 5,000 บาทบุกร้องเรียนวันสุดท้ายกว่า 8,000 คน แทงกั๊กแจกเพิ่มจาก 3 เดือน แจงขอดูงบประมาณก่อน ขณะที่ธ.ก.ส.กดปุ่มจ่ายเยียวยาเกษตรกร 5,000 บาทล็อตแรก 6.77 ล้านคน คาดจ่ายครบภายในวันที่ 26 พ.ค.นี้ พร้อมจี้เกษตรกรตรวจสอบสถานการณ์ได้รับสิทธิ์และผลการโอนเงินผ่านเว็บไซต์ w ww.เยียวยาเกษตรกร.com
เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่กรมประชาสัมพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศผู้เดินทางมาร้องเรียนเงิน 5,000 บาท จากการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เป็นวันสุดท้าย มีประชาชนเดินทางมาเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่เช้ามืด โดยในช่วง 12.00 น. เจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีประชาชนเดินทางมาร้องเรียนแล้วกว่า 5,000 ราย และคาดว่าตลอดทั้งวันจะไม่ต่ำกว่า 8,000 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่ได้รับเอสเอ็มเอสเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ว่าไม่ได้รับสิทธิ์เพราะเป็นเกษตรกร และผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ทั้งที่จริงมีอาชีพอิสระ ได้รับความเดือดร้อน
จากนั้น เวลา 12.30 น. นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง ได้เดินทางมาที่จุดตั้งโต๊ะร้องเรียน เพื่อมาพบปะกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบไม่ได้เงิน 5,000 บาท โดยได้ชี้แจงกับผู้ที่มาร้องเรียนให้ใจเย็นๆ กระทรวงการคลังพร้อมดูแลทุกคน จากนั้นมีประชาชนได้เข้ามาสอบถาม โดยถูกระบบตัดสิทธิ์ และต้องการให้นายอุตตม ยืนยันถึงกรณีที่ว่ามีข่าวว่ากระทรวงการคลังเงินหลวงหมดแล้วจริงหรือไม่ ซึ่งนายอุตตมระบุว่า “ขอให้ใจเย็นๆ” และเจ้าหน้าที่ได้กันผู้ร้องเรียนออก
รมว.การคลังเปิดเผยว่า วันนี้ได้มีโอกาสมาเยี่ยมศูนย์รับเรื่อง ของกระทรวงการคลัง สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และต้องการให้รัฐบาลช่วยดูแลเยียวยา ซึ่งก็มากันหลายกลุ่ม กระทรวงการคลังได้เปิดจุดรับเรื่องร้องเรียนมาพักใหญ่แล้ว และขอขอบคุณกรมประชาสัมพันธ์ที่เอื้อเฟื้อใช้สถานที่ วันนี้คิดว่าคนมาอย่างน้อย 7,000-8,000 คน มีทั้งเจ้าหน้าที่กรมประชาสัมพันธ์ กรมกองต่างๆ ช่วยให้คำปรึกษารับเรื่องที่ประชาชนมาร้องเรียน
“ผมคิดว่ามาตรการดูแลเยียวยาของท่านนายกรัฐมนตรีจะดูแลประชาชนได้ครบทุกกลุ่มครอบคลุมมากที่สุด ดังนั้นการเปิดรับเรื่องก็จะดูว่าเรื่องไหนที่ตรงกับกระทรวงการคลังดูแล เช่น อาชีพอิสระ คลังก็จะดำเนินการช่วยเหลือโดยเร็ว แต่มีบางเรื่องที่เกี่ยวกับกระทรวงอื่นดูแลอยู่ ก็ไม่ต้องห่วง คลังก็จะประสานให้หน่วยงานที่ดูแล ช่วยเหลือประชาชนต่อไป”
สำหรับการลงทะเบียนจะมีกลุ่มถูกตัดสิทธิ์เยอะหรือไม่นั้น ตอนนี้กระทรวงการคลังประมวลข้อมูลการลงทะเบียนใกล้สิ้นสุดแล้ว พบว่ามีผู้ได้สิทธิ์ 14 ล้านคน การทยอยจ่ายเงินเกือบครบ 14 ล้านคนแล้ว หากไม่ได้ 5,000 บาทของการลงทะเบียนนี้ ก็ต้องไปดูว่าเข้ากับมาตรการอื่นหรือไม่ ก็มีจำนวนมากที่ไม่ได้ 5,000 บาท จากเราไม่ทิ้งกัน แต่ไปได้ 5,000 บาทจากเยียวยาเกษตรกร ซึ่งวันนี้จ่ายเงินเป็นวันแรก บางส่วนอาจจะไปได้รับจากประกันสังคม
สำหรับกลุ่มที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จกว่า 1.7 ล้านคน ก็ลงไปดูเป็นรายกรณี ลงไม่สำเร็จด้วยสาเหตุอะไร มีจำนวนมากที่การลงชื่อไม่ตรงกับบัตรประชาชน เราก็จะดูทบทวนอีกครั้งว่ามีเหตุผลอะไร ปัญหาต้องดูเป็นรายกรณีว่าจะได้ 5,000 บาทหรือไม่ ถ้าตรงสิทธิ์ตามเกณฑ์ก็จะได้รับเงินเยียวยาด้วย
“กรณี 1.7 ล้านคนดำเนินการได้เร็วไม่ช้า ซึ่งตอนนี้เหลือแค่ 1.1 ล้านคน เพราะส่วนหนึ่งเป็นหัวหน้าเกษตรกร ซึ่งได้ส่งชื่อไปให้กระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการทันที ส่วนจะจ่ายเดือนที่ 4-6 หรือไม่ยังตอบไม่ได้ เป็นสถานการณ์ที่ต้องติดตามดูอยู่และเป็นเรื่องที่รัฐบาลตัดสินใจ รวมทั้งต้องดูงบประมาณประกอบด้วย ทำให้ตอบไม่ได้ว่าจะให้ต่อหรือไม่ และจะเป็นการช่วยเหลือรูปแบบไหน” นายอุตตมระบุ
นายอุตตมกล่าวว่า ตอนนี้นายกรัฐมนตรีสั่งให้ติดตามการเยียวยา มีการตั้งคณะทำงาน 10 ปลัดกระทรวงมาดูแล เราต้องดูเรื่องงบประมาณประกอบด้วย วันนี้มีการใช้เงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทแจกเกษตรกร เป็นเงิน 1.5 แสนล้านบาท ส่วนโครงการเราไม่ทิ้งกัน 15-16 ล้านคน ใช้เงิน 2.4 แสนล้าน โดยในจำนวนนี้เป็นงบประมาณ 7 หมื่นล้านบาท เป็นเงินกู้จาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1.7 แสนล้านบาท และยังมีอีกส่วนหนึ่งเป็นแรงงาน 10-11 ล้านคน ซึ่งประกันสังคมดูแล จะมีคนได้รับความช่วยเหลือ 36 ล้านคนที่รัฐบาลได้ดูแลแล้ว แต่ก็ยังไม่หมด ยังมีบางคนที่ยังไม่เข้าเกณฑ์ของ 3 กลุ่ม
นอกจากนี้ คลังกำลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือกลุ่มที่ตกหล่นว่าจะมีมาตรการอะไรที่มาเสริม แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นการแจกเงิน 5,000 บาท (3 เดือน) เช่น กลุ่มชายขอบ กลุ่มเปราะบาง ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ก็ดูแลอยู่ ซึ่งก็จะช่วยกันดูแล มีจำนวนกว่า 10 ล้านคน ทำให้ทั้งหมดแล้วรัฐบาลดูแลเยียวยาประชาชน 40-50 ล้านคน โดยจะใช้งบประมาณราว 3.5 แสนล้านคนจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ยังเหลือเงินอีกกว่า 2 แสนล้านบาท จากจำนวน 6 แสนล้านที่ใช้เยียวยา ก็ต้องเก็บไว้เพื่อดูแลเยียวยาภาคผู้ประกอบการด้วย
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค. กระทรวงการคลังได้มีการส่งเอสเอ็มเอสแจ้งผลการพิจารณายื่นขอทบทวนสิทธิภายใต้มาตรการเยียวยา 5,000 บาท โดยมีกลุ่มผู้ยื่นขอทบทวนสิทธิจำนวน 4.7 แสนราย ได้รับแจ้งว่า ไม่ได้รับสิทธิ เนื่องจากตรวจสอบพบว่ามีชื่อปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลหัวหน้าครัวเรือนเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตรแล้ว
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ตรวจสอบพบว่าฐานข้อมูลเกษตรกรที่กระทรวงการคลังได้รับจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในเดือน มี.ค.2563 และใช้ในการพิจารณาตรวจสอบคัดกรองผู้ได้รับสิทธิตามมาตรการเยียวยา 5,000 บาท มีผู้เป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตรจำนวน 9 ล้านคน ต่อมาในเดือน เม.ย.2563 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เปิดให้เกษตรกรปรับปรุงข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบันเพื่อรับสิทธิมาตรการเยียวยาเกษตรกร ทำให้ฐานข้อมูลเกษตรกรเปลี่ยนแปลงไป โดยมีผู้เป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตรลดลงเหลือ 8.3 ล้านคน
“กระทรวงการคลังขออภัยในความคลาดเคลื่อนที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าผู้ขอทบทวนสิทธิกลุ่มนี้ยังไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ กระทรวงการคลังจะตรวจสอบคัดกรองให้อีกครั้งกับฐานข้อมูลชุดล่าสุดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยเร็วที่สุด หากผ่านเกณฑ์การคัดกรอง กระทรวงการคลังจะโอนเงินเยียวยาให้เรียบร้อยภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ ได้มีการส่งเอสเอ็มเอสแจ้งให้ผู้ขอทบทวนสิทธิทราบแล้ว” นายลวรณกล่าว
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.พร้อมจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รายละ 15,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน (พ.ค.-ก.ค.63) จำนวน 10 ล้านราย วงเงิน 150,000 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นมีผู้ได้รับสิทธิ์ช่วยเหลือกลุ่มแรก 6.77 ล้านราย จากกลุ่มเป้าหมายแรก 8.46 ล้านราย โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตรวจความซ้ำซ้อนกับการให้ความช่วยเหลืออื่นๆ ของรัฐ และเริ่มทยอยโอนเงินผ่าน ธ.ก.ส.ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.2563 เป็นต้นไป วันละประมาณ 1 ล้านราย คาดจะดำเนินการกลุ่มแรกแล้วเสร็จภายในวันที่ 26 พ.ค.นี้
ส่วนเกษตรกรกลุ่มที่ 2 ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรและการขึ้นทะเบียนใหม่เพิ่มเติม เมื่อได้รับรายชื่อจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผ่านการตรวจสอบความซ้ำซ้อนแล้ว ธ.ก.ส.จะเร่งดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยเร็วต่อไป ซึ่งเกษตรกรสามารถตรวจสอบสถานะการได้รับสิทธิ์และผลการโอนเงินผ่านเว็บไซต์ w ww.เยียวยาเกษตรกร.com ได้ด้วยตัวเอง
“ยังมีเกษตรกรที่มีสิทธิ์รับเงินเยียวยาและมีบัญชีเงินฝากของธนาคารอื่น ยังไม่ได้แจ้งข้อมูลธนาคาร เลขบัญชี ที่จะโอนเงิน ดังนั้นขอให้รีบแจ้งข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคารใดก็ได้ผ่านเว็บไซต์ข้างต้น โดยไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีเงินฝากของ ธ.ก.ส.” นายอภิรมย์กล่าว
สำหรับเกษตรกรที่ได้รับโอนเงินเยียวยาแล้ว สามารถใช้บัตรเอทีเอ็มของ ธ.ก.ส.และของธนาคารอื่นๆ ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มได้ทุกธนาคาร หรือใช้โทรศัพท์มือถือที่มีแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ถอนเงินโดยไม่ใช้บัตรเอทีเอ็มที่ตู้เอทีเอ็มของ ธ.ก.ส.
บรรยากาศการโอนเงินเยียวยาให้กับเกษตรกรในหลายจังหวัด เป็นไปอย่างคึกคัก เช่นที่หน้า ธ.ก.ส. สาขาอำเภอเมืองพิษณุโลก มีเกษตรกรเดินทางมาตรวจสอบบัญชีและปรับสมุดว่ามีเงินเยียวยาเข้าหรือไม่ เมื่อพบว่ามีเงินเยียวยาเข้ามาต่างรู้สึกดีใจอย่างมาก พร้อมขอบคุณรัฐบาลที่ให้การช่วยเหลือ ซึ่งหลายคนจะนำเงินไปใช้จ่ายในครัวเรือน และใช้หนี้เป็นบางส่วน
เช่นเดียวกับที่ ธ.ก.ส.สาขาลำปาง เกษตรกรก็มารอคิวเพื่อปรับสมุด บางรายมาเช็กชื่อว่าตนเองได้รับสิทธิ์หรือไม่ เพราะไม่สะดวกในการเช็กทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้จัดโต๊ะเพื่ออำนวยความสะดวก ทั้งการกรอกเอกสาร ตรวจสอบเอกสาร การปรับสมุดบัญชี เป็นต้น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |