ไทยติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย อสม.ค้นหาเชิงรุกเจอที่เชียงใหม่ แนะใครออกจากภูเก็ตสามารถขอตรวจได้


เพิ่มเพื่อน    

14 พ.ค.63 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,018 ราย หายป่วยสะสม 2,850 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 56 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ เป็นชายไทย อายุ 39 ปี ทำงานที่ จ.ภูเก็ต เดินทางกลับภูมิลำเนา จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 2 พ.ค. พร้อมลูกและภรรยา เป็นผู้ป่วยที่มาจากการค้นหาเชิงรุกโดยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในพื้นที่ โดยไม่แสดงอาการ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่าสำหรับผู้ป่วยรายใหม่ เป็นชายไทย อายุ 39 ปี ทำงานที่ จ.ภูเก็ต เดินทางกลับภูมิลำเนา จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 2 พ.ค. พร้อมลูกและภรรยา เป็นผู้ป่วยที่มาจากการค้นหาเชิงรุกโดยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในพื้นที่ โดยไม่แสดงอาการ ต้องให้เครดิตและความสำคัญกับ อสม.ที่สามารถค้นหาผู้ป่วยรายนี้ได้ และอยากสื่อสารไปยังผู้ที่เดินทางออกจาก จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง หากอยากตรวจสามารถมาได้เลย เพราะหากเจอเร็วก็สามารถรักษาและจัดการเชื้อได้เร็ว

อย่างไรก็ตาม การมีผู้ป่วยรายใหม่เพียงคนเดียว ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ แต่แม้จะเป็นตัวเลขหลักเดียวก็ยังต้องช่วยกันดูแลสุขภาพ การ์ดต้องไม่ตก เพราะสถานการณ์ของโลกยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ เราต้องปฏิบัติตามมาตรการ 5 ข้อ คือ ใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ทำความสะอาดพื้นผิว และอย่าให้แออัด เราจะได้ผ่านระยะนี้เข้าสู่การผ่อนปรนระยะที่สองได้อย่างปลอดภัย และสิ่งที่หวังต่อไปได้คือ ระยะที่สาม และระยะที่สี่ ไม่กี่อึดใจเราก็จะผ่านไปด้วยกัน ต้องร่วมมือกันให้ได้ 100%

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การระบาดทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อ 4,429,223 ราย เสียชีวิต 298,165 ราย ส่วนสถานการณ์ที่เกาหลีใต้ โดยเมื่อวันที่ 13 พ.ค.มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 29 ราย ก่อให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดการระบาดระลอกที่ 2 หลังจากทางการเกาหลีใต้ประกาศมาตรการผ่อนปรนก่อนหน้านี้ ขณะที่จีนที่สงสัยกันว่าจะระบาดในรอบที่ 2 เช่นเดียวกัน แต่ทางการจีนสามารถควบคุมได้ และแม้ผ่อนปรนแต่ก็มีการออกข้อกำหนดคล้ายกับของไทย คงเป็นตัวอย่างให้เราได้เข้าไปศึกษาบริบท นอกจากนี้ ในวันที่ 14 พ.ค.จะมีคนไทยกลับจากเยอรมนี 80 ราย บังคลาเทศ 197 ราย และวันที่ 15 พ.ค. สิงคโปร์ 120 ราย บาห์เรน 240 ราย และแอลจีเรีย โมร็อกโก 38 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผลการปฏิบัติงานด้านความมั่นคงช่วงเคอร์ฟิวคืนวันที่ 13 พ.ค.ต่อเนื่องเช้าวันที่ 14 พ.ค. มีผู้ฝ่าฝืนออกนอกเคหสถาน 557 ราย เพิ่มขึ้นจากคืนก่อน 6 ราย ชุมนุม มั่วสุม 87 ราย เพิ่มขึ้นจากคืนก่อน 40 ราย ส่วนผลการตรวจกิจการ/กิจกรรม ประจำวันที่ 13 พ.ค. มีการตรวจทั้งสิ้น 22,972 กิจการ/กิจกรรม ส่วนใหญ่ปฏิบัติตามมาตรการเกือบทั้งหมด โดยปฏิบัติตามมาตรการครบ 21,400 กิจการ/กิจกรรม ปฏิบัติตามมาตรการแต่ไม่ครบ 296 กิจการ/กิจกรรม ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ 2 กิจการ/กิจกรรม ซึ่งถือเป็นการตรวจแบบกว้างๆ แต่ของกรมอนามัยและกรมควบคุมโรค จะมีข้อกำหนดที่ละเอียดกว่าเพื่อให้ผู้ประกอบกิจการและผู้ใช้บริการมั่นใจในคุณภาพ ความสะอาด และไม่ติดโรค

เมื่อถามว่า ในช่วงนี้คนทั่วไปควรจะฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ด้วยหรือไม่ เพราะเข้าฤดูฝนแล้ว นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่เป็นคนละโรคกับโควิด-19 สามารถไปฉีดวัคซีนได้เลย เพราะจะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ซึ่งการป้องกันโดยการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ก็ทำให้การติดไข้หวัดใหญ่ลดลง เพราะเป็นโรคที่ติดต่อผ่านทางเดินหายใจเหมือนกัน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"