แจง‘ชาร์จแบต’มือถือ สธ.อ้างปรามจริยธรรม


เพิ่มเพื่อน    

  สาธารณสุขแจงดรามา ห้ามชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ ยันแค่แจงกรอบระเบียบผลประโยชน์ทับซ้อนของ ป.ป.ช. แค่ป้องปรามด้านจริยธรรม ไม่ได้เพ่งเล็งโทษใคร เทียบคล้ายห้ามนั่งแค็บรถกระบะเพื่อความปลอดภัย แต่คนใช้กันมานาน เตรียมชี้แจงอย่างเป็นทางการ 8 ม.ค. 

    นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงประกาศกระทรวงสาธารณสุข  เรื่องมาตรการป้องกันกรณีการใช้ทรัพย์สินของทางราชการ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการห้ามนำโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่วนตัวมาชาร์จไฟในสถานที่ราชการว่า เรื่องนี้เป็นไปตามระเบียบของ ป.ป.ช. ที่ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นแต่เพียงการวางกรอบ ไม่ได้เพ่งเล็งโทษ 

    ขณะนี้ได้มีการชี้แจงผู้บังคับบัญชาด้วยวาจาแล้ว   ยอมรับว่าขณะนี้เกิดกระแสดรามาและต่อว่ามากมาย แต่อยากให้มองบวกว่าเป็นของกรอบระเบียบ เป็นเรื่องการป้องปราม  

    "เข้าใจว่าการทำงานของบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข การทำงานที่เกี่ยวเนื่องจากกับการดูแลผู้ป่วย ก็มีทั้งเรื่องส่วนตัวเรื่องส่วนรวมปนเปกันไปหมด  มีทั้งการใช้โทรศัพท์ส่วนตัวในงานเพื่อรักษาดูแลคนไข้  มีทั้งคนที่มีเจตนาดีและคนที่มีพฤติกรรมนำรถส่วนตัวมาจอดทิ้งที่โรงพยาบาล ทำให้คนไข้ ญาติ ไม่มีที่จอดรถยนต์ หรือมาล้างรถที่โรงพยาบาลก็มี เรื่องแบบนี้จึงเป็นแค่การป้องปราม เป็นเรื่องของจริยธรรม ส่วนตัว ทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับเจตนา ไม่ได้คิดจะเพ่งเล็งโทษ อย่างรุนแรงกับคนทำ เพียงแต่แค่บอกกรอบให้ทราบไว้"  

    นพ.โอภาสกล่าวว่า ที่เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นสังคมดรามา ทุกคนเข้าใจว่าเป็นทรัพย์สินราชการ อะลุ่มอล่วยเพื่องาน ก็เหมือนกับเรื่องของประเด็น ห้ามนั่งแค็บรถกระบะ ที่เพื่อความปลอดภัย แต่คนใช้กันมานาน เชื่อว่าเรื่องนี้คนจะเข้าใจว่าเป็นการป้องปราม ห้ามมองที่เจตนารมณ์ ไม่ได้มองเพื่อการจับผิด   โดยวันจันทร์ที่ 8 ม.ค. คาดว่าปลัดกระทรวงสาธารณสุขจะมีการชี้แจงอย่างเป็นทางการอีกครั้งเพื่อความเข้าใจ 

    ทั้งนี้ นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ทำหนังสือที่ สธ.0201.04/ว 3784 ลงวันที่ 29 ธ.ค.2560 ที่ผ่านมา เรื่องมาตรการป้องกันกรณีการใช้ทรัพย์สินของทางราชการ ระบุว่า สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้แสดงเจตจำนงสุจริตในการบริหารราชการและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวในตำแหน่งหน้าที่อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นแบบอย่างที่ดี ยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อความเชื่อมั่น ศรัทธาแก่ประชาชน

     เพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขกระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขจึงออกประกาศมาตรการป้องกันกรณีการใช้ทรัพย์สินของทางราชการ ให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขทุกคนถือปฏิบัติ

    สำหรับมาตรการป้องกันกรณีการใช้ทรัพย์สินของทางราชการ ระบุว่า เพื่อเป็นกลไกในการป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวมให้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยกำหนดการใช้ทรัพย์สินของทางราชการ ได้แก่ 

    ข้อ 1 ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำวัสดุ อุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานต่างๆ ไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว,  ข้อ 2 ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่วนตัวมาชาร์จไฟในสถานที่ราชการ, ข้อ 3 ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ของทางราชการ ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว 

    ข้อ 4 ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐให้พนักงานขับรถยนต์ของหน่วยงาน ไปกระทำภารกิจส่วนตัว ซึ่งไม่เกี่ยวข้องในหน้าที่หรือภารกิจของทางราชการ, ข้อ 5  ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำรถยนต์ส่วนตัวและครอบครัวมาจอดค้างคืนในสถานที่ราชการ และข้อ 6 ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ส่วนตัวมาล้างในสถานที่ราชการ

    กลไกการกำกับตามมาตรการป้องกันกรณีการใช้ทรัพย์สินของทางราชการ ข้อ 1 ผู้บริหารต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการประพฤติปฏิบัติตามมาตรการ, ข้อ 2 ผู้บริหารต้องเห็นความสำคัญในการส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรการ, ข้อ 3 หน่วยงานประชาสัมพันธ์ให้เจ้าหน้าที่ทุกคนได้ทราบมาตรการ ทั้งนี้ ให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขทุกคนถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันกรณีการใช้ทรัพย์สินของทางราชการ หากฝ่าฝืนจะมีความผิดทางวินัยและได้รับโทษทางวินัยตามควรแก่กรณี.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"