13 พ.ค.63-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่ได้มอบหมายให้นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม, นายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.), นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และคณะกรรมการการบินไทย (บอร์ด) ไปทบทวนแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทยให้สมบูรณ์ และมีความชัดเจน ที่ได้สั่งการไปตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. 2563 ที่ผ่านมานั้น โดยจะต้องพิจารณาว่า การบินไทยสามารถดำเนินการได้ตามแผนฟื้นฟูหรือไม่ รวมถึงจะต้องอธิบายเรื่องที่เป็นความเสี่ยงได้ ให้เป็นไปตามหลักการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกกันช่วยกัน โดยปราศจากอคติใดๆ ทั้งนี้ ให้รายงานกลับมายังกระทรวงคมนาคมในวันที่ 21 พ.ค. นี้

“เรื่องที่มีการเสนอให้การบินไทยล้มละลายนั้น ต้องมาดูในแง่ของการทำงานว่าฟื้นฟูได้หรือไม่ โดยหลักการของท่านนายกฯ ในการแก้ปัญหาของการบินไทย คือ อยากให้ทุกคนช่วยกัน ต้องอย่าใช้อคติในการทำงาน เพราะถ้าไปใช้อคติจะขาดสติ และการบินไทยต้องทำให้ได้ ซึ่งถ้าทำไม่ได้ การบินไทยจะต้องรับผิดชอบตัวเอง” นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวถึงกระแสข่าวที่การบินไทยเตรียมกลับมาทำการบินในเส้นทางระหว่างประเทศในวันที่ 1 ก.ค. 2563 ว่า ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าว ในส่วนว่าจะมีการประกาศขยายระยะเวลาห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราวที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 พ.ค. 2563 นั้น จะต้องรอการพิจารณาของนายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งต้องมีการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อีกครั้ง ทั้งภายในประเทศ และสถานการณ์จากทั่วโลก โดยกระทรวงคมนาคมพร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินการ แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศล่าสุดจะดีขึ้นตามลำดับนั้น แต่ยังประมาทไม่ได้

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่ากระทรวงคมนาคมได้กำชับฝ่ายบริหารการบินไทยไปแล้วว่าการปรับปรุงแผนครั้งนี้ จะต้องมีแผนสร้างรายได้ชัดเจน การปรับตัวรองรับธุรกิจการบินในภาวะโควิด-19 ระบาด รวมทั้งความเสี่ยงที่ถูกระบุว่าเป็นความเสี่ยงทางธุรกิจที่มี 23 ข้อ ต้องแก้ไขให้หมดเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าเมื่อมีการใส่เงินเข้าไปเงินเหล่านี้จะต้องไม่สูญเปล่า ซึ่งการปรับปรุงแผนฟื้นฟู ที่ให้การบินไทยทำงานร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ยังเป็นแผนที่เดินตามแนวทางที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) กำหนดไว้ โดยขีดกรอบว่าแผนดังกล่าวต้องเสร็จเดือนพฤษภาคมนี้