13 พ.ค.2563 -  นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กถึงการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์เรื่องการทำโพลว่า การจะต่ออายุหรือไม่นั้นอยู่ที่การพิจารณาของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ซึ่งต้องคำนึงถึงมาตรฐานในด้านสาธารณสุขเป็นหลัก นั้น ต้องขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ที่ได้ให้ออกมายืนยันความชัดเจนในเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้มีกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ หรือสร้างความสับสนให้กับสังคมต่อไป ซึ่งความเห็นของ พล.องประยุทธ์ มีความสอดคล้องกับการที่ตนเองได้แสดงความเห็นไปก่อนหน้านี้แล้วว่า การจะยกเลิกหรือคงไว้ซึ่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้นรัฐบาลจะต้องฟังความเห็นของคณะอาจารย์หมอเป็นสำคัญ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ออกมายอมรับว่า การตัดสินใจในเรื่องนี้ ต้องคำนึงถึงมาตรฐานในด้านสาธารณสุขเป็นหลัก จึงทำให้มั่นใจได้ว่าการจะยกเลิกหรือคงอยู่ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องเป็นไปตามเหตุผลทางวิชาการ และความเห็นของบุคลากรทางการแพทย์มากกว่าการใช้ความเห็นจากผลการสำรวจ หรือกระแสสังคม ซึ่งไม่มีความแน่นอน และเที่ยงธรรมมากเพียงพอ เพราะการทำโพลของแต่ละสำนัก มีวิธีการสุ่มตัวอย่าง และกลุ่มเป้าหมายในการสำรวจที่แตกต่างกัน จึงทำให้ผลการสำรวจที่ออกมา ย่อมแตกต่างกันโดยสิ้นเชิ้ง เช่น กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยกตัวอย่างผลการสำรวจของสื่อมวลชนบางสำนักว่า มีการสนับสนุนให้คงใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไป 88% ในขณะที่ผลการสำรวจของสื่อมติชนออนไลน์ มีผู้ให้ยกเลิก การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 84% ซึ่งเป็นผลโพลที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ระหว่างผลโพลจาก2สำนัก แสดงให้เห็นว่า ผลการสำรวจความเห็นของประชาชนไม่มีความแน่นอน และไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง หรือตรงตามข้อมูลที่เป็นจริงได้ 

“ขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้ออกมายืนยันความชัดเจน ว่าไม่เคยสั่งให้ใครทำโพล และรับฟังความเห็นที่ผมเองได้เสนอไป ผมยังยืนยันที่จะสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ใช้อำนาจในการตัดสินใจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดว่า จะยกเลิกหรือคงประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปหรือไม่ โดยการรับฟังข้อมูลที่ถูกต้องอย่างรอบด้าน และยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชนเป็นสำคัญ เพราะผลจากการตัดสินใจในครั้งนี้ ไม่ว่าจะออกมาในทางบวกหรือลบ รัฐบาลก็จะต้องรับผิดชอบต่อผลการตัดสินใจที่เกิดขึ้นอย่างปฏิเสธไม่ได้”