ไทยป่วยเพิ่มแค่ 2 ราย "ศบค." รับยังไม่น่าไว้วางใจ หวั่นระบาดรอบสองซ้ำรอยต่างประเทศ "กทม." ขู่ปิดสวนสาธารณะหลังพบประชาชนเมินทำตามมาตรการป้องกัน ขณะที่นายกฯ เผยไม่ได้สั่งทำโพล พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่เป็นผลสำรวจสื่อบางสำนักเชียร์ต่ออายุ 88% ลั่นแม้ผู้ติดเชื้อจะเหลือ 0% ก็นิ่งนอนใจไม่ได้ ต้องดูมาตรการสาธารณสุข-ความร่วมมือประชาชนเป็นหลัก ด้านพรรคเพื่อไทย อ้างซื้อเวลาสกัดม็อบต้าน
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม เวลา 11.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงว่า สถานการณ์ในประเทศไทยมีผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,017 ราย หายป่วยสะสม 2,798 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 19 ปี อยู่ใน กทม. มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้าที่เป็นบุคคลในครอบครัว ซึ่งเคยพบเชื้อมาแล้ว 3 ราย คือ พี่สาว พี่เขย และหลาน ส่วนผู้ป่วยรายใหม่อีกรายเป็นหญิงไทย อายุ 51 ปี ภูมิลำเนา จ.นราธิวาส มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน โดยเป็นพี่เลี้ยงของเด็กชาย อายุ 6 ขวบ ที่มีการยืนยันติดเชื้อเมื่อวันที่ 11 พ.ค.
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขวันนี้ถือว่าต่ำมากๆ แต่เมื่อยังไม่เป็นศูนย์ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ ถ้าจะเป็นศูนย์ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชน นอกจากนี้ในรอบ 28 วันที่ผ่านมา มี 50 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อในรอบ 2 สัปดาห์ล่าสุด อันดับแรกคืออยู่ในศูนย์กัก และผู้ต้องกัก รองลงมาคือการค้นหาเชิงรุก การสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า ผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ และสถานที่ชุมนุมชน ทั้งนี้ ข้อมูลกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เมื่อวันที่ 10 พ.ค. พบว่าประเทศไทยมีการตรวจหาเชื้อไปแล้ว 286,008 ตัวอย่าง อัตราการติดเชื้อต่อประชากร 1 ล้านคน คือ 1.05% อัตราการตรวจของไทยต่อประชากรถือว่าไม่น้อย มากกว่าไต้หวัน เวียดนาม ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย
ศบค.ผวาระบาดรอบ 2
"ยอมรับว่าเรามีความกังวลใจเรื่องการระบาดรอบสองเหมือนกัน ที่ผ่านมา ศบค.ได้ใช้ชุดข้อมูลต่างๆ ทั้งหมดมาประชุมปรึกษากับภาครัฐ กระทรวงสาธารณสุข โดยนำเอาเอกชนที่ดูแลงานด้านเศรษฐกิจและสังคมมาช่วยกันดูด้วย เป็นความละเอียดของชุดข้อมูล ไม่ได้ละเลยแต่อย่างใด ถ้ามีสิ่งใดเราจะทำให้ดีที่สุด แต่ไม่ว่าภาครัฐและเอกชนจะมีมาตรการอย่างไรก็ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนจึงจะสำเร็จ แต่หากไม่ร่วมมือกันผลจะออกมาตรงกันข้าม" นพ.ทวีศิลป์ระบุ
โฆษก ศบค.กล่าวว่า ผลการปฏิบัติงานด้านความมั่นคงคืนวันที่ 11 พ.ค.ต่อเนื่องเช้าวันที่ 12 พ.ค. มีผู้ฝ่าฝืนออกนอกเคหสถาน 486 ราย ลดลงจากคืนก่อน 111 ราย ชุมนุมมั่วสุม 68 ราย ลดลงจากคืนก่อน 21 ราย พบว่าเล่นพนันเป็นการกระทำผิดอันดับหนึ่ง รองลงมาคือดื่มสุรา แต่ทั้งสองตัวเลขเปอร์เซ็นต์ยังใกล้เคียงกันอยู่ ถึงอย่างไรก็ไม่อยากให้มาแข่งกัน อยากให้ลดกันไปทั้งคู่ ส่วนการตรวจกิจการ/กิจกรรมประจำวันที่ 11 พ.ค. มีการตรวจสอบทั้งสิ้น 20,091 แห่ง ปฏิบัติตามมาตรการ 14,134 แห่ง ในจำนวนนี้ปฏิบัติตามมาตรการแต่ไม่สมบูรณ์ 5,372 แห่ง ไม่ปฏิบัติตาม 585 แห่ง
เมื่อถามว่า เรื่องการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ที่จะมีการผ่อนปรนในระยะที่ 2 เบื้องต้นกำหนดให้ในกองถ่ายมีได้ไม่เกิน 5 คน แต่ในทางปฏิบัติทั้งการถ่ายทำสารคดี ละคร และรายการบันเทิงไม่สามารถทำได้ เพราะต้องใช้ทีมงานจำนวนมาก ศบค.จะผ่อนปรนได้มากขึ้นหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่าเรื่องนี้ยังไม่เป็นข้อยุติ เป็นเพียงการร่างขึ้นมา ถ้าใครมีเหตุผลหรือข้อเสนอให้เสนอมายัง ศบค. โดยมีผู้รับผิดชอบเรื่องนี้คือปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อหามาตรการที่เหมาะสมร่วมกัน
ด้าน นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตอนนี้แนวโน้มการระบาดยังดี แต่ฝากถึงเจ้าของกิจการที่ได้รับการผ่อนปรนว่าต้องเว้นระยะห่างของคนในร้านให้ดี ส่วนประชาชนยังต้องทำตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ส่วนการกลับมาแข่งกีฬาลีกฟุตบอลในไทยและการเปิดสนามฟุตบอลต่างๆ ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดให้กลับมา เนื่องจากฟุตบอลจัดเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง เพราะมีการใกล้ชิดกันของผู้เล่น คาดว่าอาจเป็นกลุ่มสุดท้ายที่จะกลับมาเปิดให้บริการได้
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้มีการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 กทม. มี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการเป็นประธาน โดยพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมรวม 1,529 ราย ทั้งนี้จากการตรวจสอบสถานประกอบการและสถานที่ต่างๆ ที่ได้รับการผ่อนปรน ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือด้วยดี ยกเว้นภายในสวนสาธารณะยังคงมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ละเลยไม่ปฏิบัติตาม เช่น ไม่สวมหน้ากากอนามัยระหว่างอยู่ในสวน ไม่เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล บางส่วนนั่งจับกลุ่มพูดคุยรับประทานอาหาร จึงมอบหมายให้สำนักเทศกิจประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและ กอ.รมน.กทม.จัดเจ้าหน้าที่ตรวจตราอย่างเข้มข้น หากตรวจพบบุคคลที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดจะเชิญบุคคลดังกล่าวออกนอกพื้นที่สวน และหากปรากฏว่ามีประชาชนจำนวนมากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ คณะกรรมการศูนย์ฯ อาจเสนอให้ กทม.ปิดสวนสาธารณะเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่
ปัดสั่งทำโพล พรก.ฉุกเฉิน
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านไลฟ์สดเพจไทยคู่ฟ้า ถึงการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ว่า การจะต่ออายุหรือไม่นั้นอยู่ที่การพิจารณาของ ศบค. ซึ่งต้องคำนึงถึงมาตรฐานในด้านสาธารณสุขเป็นหลัก เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะมีผลสำรวจความคิดเห็นหรือโพลของใครทำมาก็แล้วแต่ ก็เป็นเรื่องของโพลไป แต่เท่าที่ทราบมีสื่อบางสำนักได้ทำในขณะนี้ ทราบว่ามีผู้เห็นชอบให้ต่ออายุของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 88 เปอร์เซ็นต์ และมีผู้ไม่เห็นชอบให้ยกเลิก 12 เปอร์เซ็นต์ จึงขอย้ำอีกครั้งว่าเรื่องนี้เป็นการทำของสื่อ ตนไม่ได้ทำทั้งสิ้น และไม่ได้สั่งการให้ใครไปทำ ข่าวที่ออกมาอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
“การจะต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่นั้น เราจะต้องดูมาตรการทางด้านสาธารณสุขเป็นหลัก ซึ่งผมได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงและน้อยลงจนเหลือ 0 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังนอนใจไม่ได้แม้จะเหลือ 0 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม เราจำเป็นจะต้องดูถึงความร่วมมือที่จะไม่ทำให้ตัวเลขการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็ควรจะอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ก็พอที่จะเดินหน้าไปสู่ระยะที่ 2 และ 3 ในเรื่องการปลดล็อกหรือหามาตรการผ่อนคลาย วันนี้เห็นใจพี่น้องประชาชนคนที่มีรายได้น้อย จึงต้องมีกิจกรรมต่อเนื่องและเชื่อมโยงทั้งหมดในห่วงโซ่ ทั้งการผลิต การแปรรูป การตลาด การท่องเที่ยว ถ้าเราไม่ร่วมมือกันตอนนี้ก็จะเดินไปถึงตรงนั้นไม่ได้ สิ่งที่เรามีศักยภาพก็คือเรื่องของการท่องเที่ยว การบริการก็จะมีปัญหาลงไปอีก ศักยภาพของประเทศก็จะมีปัญหาในเรื่องของรายได้ประเทศ" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า คณะกรรมการ ศบค. ได้รายงาน ครม.ถึงการเตรียมการว่าหากมีการผ่อนปรนในระยะที่สองจะต้องทำอย่างไร รวมถึงกิจการและกิจกรรมต่างๆ จะต้องปฏิบัติอย่างไร อย่างไรก็ตามที่ประชุม ครม.ไม่ได้มีการพูดถึงการทำโพลการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งนี้?การจะยกเลิกประกาศ ?พ.ร.ก.ฉุกเฉินต้องนำข้อมูลทั้งหมดมาประกอบการพิจารณา ทั้งการควบคุมการระบาดของโรคและความพร้อมของประชาชน แม้จะเลิก พ.ร.ก.หรือไม่ยกเลิก ประชาชนก็ต้องให้ความร่วมมือในการเว้นระยะห่างต่อไป เพราะเรายังไม่มีวัคซีนที่จะเป็นสิ่งที่ป้องกันโควิด-19 ได้
ส่วนการให้ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจทำงานที่บ้านมากขึ้นนั้น ต้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเสนอขึ้นมา และดูว่าข้าราชการหน่วยงานใดที่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ สำหรับการเหลื่อมเวลาทำงานเป็นเรื่องที่หน่วยงานจะพิจารณาโดยไม่ต้องนำเข้า ครม.
นายอนุทินกล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ครม.ยังไม่เคาะให้ปลดประเทศจีนและเกาหลีใต้ออกจากประเทศเฝ้าระวังเขตโรคติดต่ออันตราย เพราะเป็นเรื่องที่ ศบค.จะเป็นผู้พิจารณา และไม่ต้องนำเข้าที่ประชุม ครม.
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ยังไม่มีการพิจารณาปลดล็อกจีนและเกาหลีใต้ที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เพราะต้องเสนอแผนให้นายกฯ พิจารณาก่อน แต่ในส่วนของนักท่องเที่ยวในประเทศไทยสามารถเดินทางได้ตามปกติ
ซื้อเวลาสกัดม็อบต้าน
ที่พรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์มอบหมายให้ กอ.รมน.ไปทำโพลสอบถามประชาชน ว่าสมควรจะมีการยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ ในเวลาต่อมา กอ.รมน.บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้สั่ง เรื่องนี้จะเป็นแท็กติก พล.อ.ประยุทธ์ในการเปิดประเด็นใหม่ ให้คนตามมาแก้ข่าวเป็นระยะๆ ถือเป็นการซื้อเวลาในการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ ซึ่งเส้นแบ่งระหว่างการทำโพลกับทำไอโอใกล้กันมากจนแยกไม่ออก แต่ถ้านายกฯ มีความจริงใจ ฟังเสียงประชาชน เพราะสำนักข่าวทุกสำนักทำโพลส่วนใหญ่เป็นในทิศทางเดียวกัน ได้สะท้อนเสียงประชาชนไปยังรัฐบาลอยู่แล้ว หากดำเนินการให้สอดรับกับการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ต้องเร่งยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะจัดเสวนา ถอดบทเรียนการแก้ปัญหาโควิด-19 ของรัฐบาล มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ในวันที่ 14 พ.ค. เวลา 14.00-16.00 น. ผ่านช่องทางแฟนเพจพรรคเพื่อไทยและเพื่อไทยวอร์ริเออร์
นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่รัฐบาลยังใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ นำมาสู่ความสงสัยว่ารัฐบาลมีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ ซึ่งวันที่ 19 พ.ค.จะครบรอบ 10 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุมบริเวณราชประสงค์ ส่งผลให้เกิดความกังวลต่อผู้มีอำนาจหรือไม่ เป็นเพียงเพื่อยืดเวลาต่อเวลาให้รัฐบาล เพราะไม่ต้องการให้มีการเคลื่อนไหวทางสังคมหรือไม่ เพราะการควบคุมประชาชนทำให้ง่ายต่อการบริหารอำนาจ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ระบุว่านายกฯ ได้สั่งให้ทำโพล เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อหลักหน่วย แล้วจะเอาคนกว่าหกสิบล้านไปเดือดร้อนด้วยทำไม จึงต้องให้เกิดการระบายคลายความอึดอัด ควรยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินให้ประชาชนใช้ชีวิตปกติ ไม่เช่นนั้นรัฐบาลจะเอาไม่อยู่กับความหิวโหย ขอ พล.อ.ประยุทธ์อย่าฟังคนเชียร์ให้มากนัก เพราะคนเชียร์ ยิ่งบีบน้ำตาแล้ว คนพวกนี้เมื่อถึงวันหนึ่งมักจะไปก่อนเพื่อนเสมอ
ที่ จ.ภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้พิจารณาขอพักการดำเนินการโรงพยาบาลสนามเป็นการชั่วคราว โดยโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 1 กำหนดปิดชั่วคราววันที่ 31 พ.ค. ส่วนโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 กำหนดปิดชั่วคราววันที่ 15 พ.ค. เนื่องจากไม่มีจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้พิจารณาการเปิดปิดท่าอากาศยานภูเก็ต โดยรับทราบตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ยังตกค้างในจังหวัดภูเก็ตจำนวนกว่า 4 พันคน สำหรับสถานการณ์ติดเชื้อโควิด-19 ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ยอดป่วยสะสมยังอยู่ที่ 224 ราย
ที่ฐานปฏิบัติการชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4405 อ.เบตง จ.ยะลา ด.ต.สุรศักดิ์ สาสุก รอง รรท.ฐาน ชฝต.4405 (ฐานชุดเฝ้าตรวจชายแดน 4405) ได้เรียกกำลังพลรวมพลเพื่อออกลาดตระเวนตรวจสอบช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนบริเวณจุดผ่านแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ภายหลังนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ประกาศขยายคำสั่งควบคุมการเคลื่อนย้ายแบบมีเงื่อนไขออกไปอีก 4 สัปดาห์ จนถึงวันที่ 9 มิ.ย.นี้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |