ไทยโพสต์ อิสรภพแห่งความคิด สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยังอยู่ในช่วงขาลง นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า "มีผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,017 ราย หายป่วยสะสม 2,798 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ตัวเลขวันนี้ถือว่าต่ำมากๆ แต่เมื่อยังไม่เป็นศูนย์ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ ถ้าจะเป็นศูนย์ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชน ยอมรับว่าเรามีความกังวลใจเรื่องการระบาดรอบสองเหมือนกัน" ก็เป็นอันว่าต้องช่วยกันลุ้นอีกระยะ เพราะดูบทเรียนประเทศอื่นๆ แม้ตัวเลขลงมาที่ศูนย์แล้วยังดีดกลับขึ้นไปได้อีก ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อไม่ให้ซ้ำรอย …0

ในสถานการณ์วิกฤติ สิ่งที่ยากอย่างหนึ่งคือการบริหารจัดการให้ตรงตามความพอใจของประชาชนทุกฝ่าย กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค.สั่งให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จัดทำโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในการประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังจากใช้มากว่า 1 เดือน แต่ไม่วายนักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้านก็ยังวิพากษ์วิจารณ์ได้อีก ทั้งที่การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเป็นเรื่องพื้นฐานในสังคมประชาธิปไตย หากรัฐบาลไม่รับฟังหรือทำอะไรตามอำเภอใจก็ถูกด่าอีกเช่นกัน ...0

โดยปกติรัฐบาลก็จัดทำโพลทั้งที่ไม่เปิดเผยและเปิดเผยอยู่แล้ว เพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจ กรณีนี้แม้นายกฯ ไม่ได้ยอมรับว่ารัฐบาลได้จัดทำโพล โดยบอกว่าอยู่ที่การพิจารณาของ ศบค. ซึ่งต้องคำนึงถึงมาตรฐานในด้านสาธารณสุขเป็นหลัก ก็ถือว่าถูกต้องแล้ว เพราะที่รัฐบาลต่อสู้กับไวรัสโควิดจนกราฟผู้ติดเชื้อลดลงเรื่อยๆ ใกล้จะเป็นศูนย์ ก็เพราะนายกฯ รับฟังผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขนั่นเอง แต่ฝ่ายค้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กลับมองว่า “เป็นการซื้อเวลาในการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากยังคงไว้ พล.อ.ประยุทธ์จะได้ประโยชน์สูงสุด เพราะมีการรวบอำนาจมาไว้ที่ พล.อ.ประยุทธ์” จริงอยู่ นายกฯ ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินรวบอำนาจไว้ที่ตัวเอง ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลอย่างประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทยต่างหากที่กลืนเลือด โดนนายกฯ รวบอำนาจไปบริหารจัดการแทน แม้ประชาชนได้รับผลกระทบจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่เมื่อตัวเลขติดเชื้อเป็นศูนย์ต่อเนื่อง 14 วัน ก็ต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ดี ...0

ขณะที่ นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย มองว่า “รัฐบาลมีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ วันที่ 19 พ.ค.จะครบรอบ 10 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุมบริเวณราชประสงค์ ส่งผลต่อความกังวลต่อผู้อำนาจหรือไม่ การคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นเพียงเพื่อการยืดเวลา ต่อเวลาให้รัฐบาล เพราะไม่ต้องการให้มีการเคลื่อนไหวทางสังคมหรือไม่” แหม่! ถ้าอยากเคลื่อนไหวก็เอาที่สบายใจ นัดชุมนุมกันเลย รัฐบาลก็อย่าใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปควบคุม แต่ประชาชนจะลงโทษเองว่าเป็นการแสดงออกที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม เพราะจะเป็นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส หากจะค้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ควรช่วยเหลือประชาชนที่โดนเจ้าหน้าที่จับกุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่เป็นการใช้อำนาจเกิดขอบเขตและเจตนารมณ์ของกฎหมายจะเกิดประโยชน์ต่อสังคมมากกว่า ...0

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. เปิดเผยว่า ยังมีแนวคิดเรื่องการจัดงานใหญ่รำลึก 10 ปีเหตุการณ์สลายการชุมนุม นปช. เมษาฯ-พฤษภาฯ 2553 แต่เมื่อสถานการณ์โควิด-19 จึงขอพักแผนงานเดิมไว้ก่อน และปรับรูปแบบงานเป็นกิจกรรมออนไลน์ แต่กรณีเลเซอร์ #ตามหาความจริง บนอาคารสถานที่ต่างๆ กลับริเริ่มจาก คณะก้าวหน้า โดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช ชูแคมเปญ พฤษภา 35/53 ความจริงต้องปรากฏ ถีบลงเขา-เผาลงถังแดง 14 ตุลา, 6 ตุลา, พฤษภา’35, พฤษภา’53 อันที่จริงประวัติศาสตร์มีหลายด้าน การแตกแยกทางความคิดทำให้คนในชาติเข่นฆ่ากันเองในหลายเหตุการณ์ ซึ่งต้องตามหาความจริงให้ครบถ้วนด้วยว่า ใครบงการกองกำลังชุดดำปะทะกันเมื่อ 10 เม.ย.53 วางระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูงที่วังน้อย พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้กรุงเทพฯ ไฟดับสนิท ตามยุทธศาสตร์ เผากรุงลงกา หวังให้เกิด สงครามกลางเมือง แล้ว ผู้บงการ จะเดินนำทัพเข้าเมืองกรุง ปฏิวัติประชาชน แต่ล้มเหลว! ...0