รัฐบาลฟิลิปปินส์ตัดสินใจขยายมาตรการล็อกดาวน์ในกรุงมะนิลาต่อไปอีก 2 สัปดาห์ถึงเดือนมิถุนายน รวมแล้วนานกว่าการปิดเมืองอู่ฮั่นของจีน แต่จะผ่อนคลายข้อจำกัดในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศที่ความเสี่ยงต่ำ
ถนนด้านนอกห้างสรรพสินค้า มอลล์ออฟเอเชีย ในกรุงมะนิลาร้างรถยนต์และผู้คนสัญจรระหว่างการล็อกดาวน์
คำประกาศของรัฐบาลฟิลิปปินส์เมื่อวันอังคารที่ 12 พฤษภาคม 2563 สวนทางกับแนวโน้มของหลายประเทศทั่วโลก ที่กำลังผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ เพื่อรักษาสมดุลระหว่างการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 กับการกลับสู่ภาวะปกติเพื่อจำกัดความเสียหายทางเศรษฐกิจ
รายงานของรอยเตอร์กล่าวว่า ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต กล่าวถึงการขยายเวลาล็อกดาวน์ "บางพื้นที่" ระหว่างการประชุมคณะทำงานโควิด-19 ที่เผยแพร่ทางโทรทัศน์เมื่อช่วงเช้าวันอังคาร แต่เขาไม่ได้ระบุว่าจะขยายการบังคับใช้ที่ใดบ้าง หรือนานเท่าใด
ต่อมา แฮร์รี โรเก โฆษกของดูเตร์เต ชี้แจงว่า มาตรการนี้จะบังคับต่อไปอีก 2 สัปดาห์ ที่เมืองใหญ่สุดของฟิลิปปินส์คือ กรุงมะนิลา และเมืองเซบู
การขยายเวลานี้จะทำให้เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อราว 2 ใน 3 ของประเทศ และมีผู้เสียชีวิตถึง 72% ของทั้งประเทศ อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ยาวนาน 11 สัปดาห์ หรือ 80 วัน นานกว่าการล็อกดาวน์เมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางการแพร่เชื้อของจีน ที่ล็อกดาวน์นาน 76 วัน
โรเกกล่าวว่า รัฐบาลจะผ่อนคลายข้อบังคับในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จำเป็นบางอย่างในกรุงมะนิลาจะได้รับอนุญาตให้เปิดได้ เพื่อเริ่มพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่กำลังรุดสู่ภาวะถดถอยเพราะการบริโภคภายในประเทศลดลงอย่างมาก
ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้วมากกว่า 11,000 คน เสียชีวิตอย่างน้อย 726 คนจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่คงที่ระหว่าง 150-300 คนมานานหลายสัปดาห์แล้ว
ดูเตร์เตกล่าวเตือนด้วยว่า แม้บางพื้นที่จะผ่อนคลายมาตรการแล้ว แต่ประชาชนยังต้องระมัดระวังและต้องสวมหน้ากากอนามัย "จำไว้ว่าการผ่อนคลายข้อจำกัดไม่ได้หมายถึงไม่มีโควิดอีกแล้ว" เขากล่าว "เราไม่อาจปล่อยให้มีการระบาดระลอกที่ 2 หรือ 3 ขึ้นอีก"
ฟิลิปปินส์เป็นประเทศแรกๆ ในโลกที่สั่งห้ามเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกจากจีน ภายหลังพบนักท่องเที่ยวชาวจีน 3 รายติดเชื้อไวรัส และยังเป็นประเทศที่ 3 ในโลกที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์กักกันประชาชนไว้ในเคหสถาน
ส่วนมาตรการล็อกดาวน์กรุงมะนิลาที่ใช้มาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม กำหนดห้ามประชาชนออกจากเคหสถาน โดยอนุญาตให้สมาชิกผู้ใหญ่ครัวเรือนละ 1 รายออกไปซื้ออาหาร ยา หรือพบแพทย์ได้, สั่งจำกัดการเคลื่อนย้าย การอพยพและการทำกิจกรรมนอกบ้าน และให้เว้นระยะห่างทางสังคม แต่ยังอนุญาตให้ธุรกิจที่มีความจำเป็นดำเนินกิจการได้อย่างจำกัด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |