สตช.ร่วมมือฝ่าวิกฤติไวรัสโควิด ผุด“อารหารฟรีครับ”ทั่วประเทศ


เพิ่มเพื่อน    

      เป็นที่น่ายินดียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของไทยต่ำสิบอย่างต่อเนื่องมาหลายวัน เพราะด้วยมาตรการต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ภาครัฐกำหนดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกคน แต่ยังต้องยกการ์ดสูงอยู่ตลอด ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะมีการผ่อนปรนกิจการห้างร้าน สถานบริการ  อาทิ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านค้าปลีก ค้าส่งขนาดย่อม ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย สนามกอล์ฟ สนามกีฬา สวนสาธารณะ ร้านดูแลรักษาสัตว์ กลับมาเปิดให้บริการได้แล้ว แต่ยังต้องมีมาตรการรองรับเพื่อไม่ให้เชื้อไวรัสกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง

                แผนรองรับมาตรการคลายล็อกดาวน์ เจ้าหน้าที่ได้มีการปรับแผนเชิงรุกจัดชุดสายตรวจร่วมตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ออกสุ่มตรวจห้างร้านสถานประกอบการ ต้องรักษาความสะอาด เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ตรวจวัดอุณหภูมิ หากไม่ปฏิบัติตามมีทั้งว่ากล่าวตักเตือนไปจนถึงดำเนินคดีตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด เพราะถือเป็นอันตรายต่อการป้องกันการแพร่ระบาด หากยังฝ่าฝืนใช้กฎหมายสั่งปิดทันที

                ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เตรียมประกาศคลายล็อกเฟส 2 เปิดสถานประกอบการขนาดใหญ่คือห้างสรรพสินค้า โดยจะเริ่มเปิดให้บริการวันที่ 15 พ.ค.นี้ เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าไปได้ นับจากนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐเป็นผู้กำหนด แต่จะเป็นผู้ประกอบการ ประชาชนที่ต้องร่วมมือกันปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด หยุดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ไม่ให้กลับมาระบาดรอบสองอย่างหลายประเทศที่กำลังประสบปัญหาอยู่ ถ้าเป็นเช่นนั้นสรรพกำลังงบประมาณที่ทุ่มลงไปจะสูญเปล่าทันที ต้องกลับมานับหนึ่งใหม่หมด

                พิษร้ายไวรัสโควิด-19 ทำลายเศรษฐกิจย่อยยับแบบไม่ทันตั้งตัว สถานประกอบการ ห้างร้าน โรงแรม อุตสาหกรรมต้านไม่ไหวต้องปิดตัวลงกันระนาว ลูกจ้างถูกเลิกจ้าง ถูกพักงาน ถูกลดเงินเดือน ชะลอการจ่ายค่าจ้าง ได้รับความเดือดร้อนไปทั่วทุกหนทุกแห่ง โครงสร้างเศรษฐกิจพื้นฐานหยุดชะงัก ถึงแม้หลายคนจะเสียน้ำตา หลายคนหนักถึงขั้นต้องสังเวยชีวิตให้กับพิษเศรษฐกิจ แต่เมื่อมองอีกด้านทุกเหตุการณ์วิกฤติที่เกิดขึ้นคนไทยไม่เคยทิ้งกัน  “น้ำใจคนไทย” นั้นประเสริฐเหนือชนชาติอื่นทั่วโลก เมื่อมีผู้ตกทุกข์ได้ยาก ผู้ที่พอมีกำลังก็จะเข้าไปช่วยเหลือ ไม่แบ่งแยกฝ่ายใด สีใด

                ทุกส่วนร่วมมือร่วมใจทั้งภาครัฐภาคเอกชน แม้กระทั่งวัดที่พอมีกำลังนำข้าวสาร อาหารสด อาหารแห้ง น้ำดื่ม สิ่งของจำเป็นในการดำรงชีพมาแจกจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิดเป็นภาพที่น่าประทับใจคนไทยไม่ทิ้งกันเมื่อยามชาติวิกฤติ ให้กำลังใจซึ่งกันและกันเพื่อฝ่าฟันมรสุมครั้งนี้ไปให้ได้ เช่นเดียวกันกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ตร. เป็นกำลังหลักอีกหน่วยงานในการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด และป้องกันปราบปรามอาชญากรรมดูแลทรัพย์สินของประชาชน ปฏิบัติตามคำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ร่วมกับทหาร ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข เฝ้าระวังการแพร่ระบาดและบังคับใช้กฎหมาย 24 ชม.แล้ว

                “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่กำลังประสบความเดือดร้อน ซึ่งบางส่วนขาดแคลนอาหารและเครื่องอุปโภคบริโภค ตำรวจในฐานะที่อยู่ในพื้นที่เป็นหน่วยงานที่มีศักยภาพในการประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนได้อย่างทั่วถึง จึงได้ริเริ่มโครงการ “รับอาหารฟรีครับ” จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

                โดยสั่งการให้ตำรวจทุกจังหวัดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศดำเนินกิจกรรมในลักษณะของการตั้งเป็นโรงทานในพื้นที่เหมาะสมและเข้าถึงประชาชนที่เดือดร้อนได้โดยง่าย เพื่อแจกจ่าย อาหาร น้ำดื่ม และสิ่งจำเป็นในการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งการขับเคลื่อนโครงการ “รับอาหารฟรีครับ” จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้มอบเงินริเริ่มโครงการให้กับหน่วยต่างๆ ประกอบด้วย กองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 และตำรวจภูธรจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ จำนวนหน่วยละ 50,000 บาท และให้ทุกหน่วยไปสานต่อโครงการในพื้นที่ของตนเอง โดยแสวงหาความร่วมมือกับผู้มีจิตศรัทธาในพื้นที่เข้ามาสนับสนุนโครงการเพิ่มเติมตามกำลังศรัทธาดำเนินการต่อจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

                สถานที่แจกจ่ายต้องเป็นไปตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข “ผบ.ตร.” ต้องมีการจัดระยะห่างที่เหมาะสม การตรวจวัดไข้ การบริการล้างมือโดยแอลกอฮอล์ โครงการ “รับอาหารฟรีครับ” จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถเข้าถึงประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทั่วทุกพื้นที่  พร้อมจัดชุดเดลิเวอรีส่งมอบความช่วยเหลือถึงบ้าน

                นับตั้งแต่เริ่มโครงการวันที่ 5 พ.ค.เป็นต้นมา จากน้ำตากลายเป็นรอยยิ้มความสุขของการแบ่งปัน ตำรวจแต่ละกองบัญชาการ กองบังคับการตำรวจภูธรแต่ละจังหวัด หรือแต่ละสถานีได้ร่วมกับผู้มีจิตอาสาในแต่ละพื้นที่แจกจ่ายข้าวสาร อาหารแห้ง สิ่งของจำเป็นถึงประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้าทั่วถึงบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน   ขณะที่บางโรงพักจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องครัว ปรุงอาหารกันแบบสดใหม่ถูกหลักอนามัยก่อนนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน

            “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ในฐานะผู้นำองค์กร นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่และให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชาทั่วประเทศทั้งกลางวันและกลางคืนอยู่ตลอด พร้อมกับมีหนังสือด่วนขอบคุณข้าราชการตำรวจทุกนายทั่วประเทศ 

                “นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากข้าราชการตำรวจทุกหน่วยงาน ในการปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่ซ้ำเติมประชาชน การให้บริการ การช่วยเหลือแจกจ่ายอาหารและสิ่งของให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย ทำให้ภารกิจในห้วงที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเกิดจากความทุ่มเทเสียสละ และอุทิศตนของข้าราชการตำวจทุกนายทุกระดับชั้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ยังคงมีอยู่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือร่วมใจเป็นอย่างดีจากข้าราชการตำรวจทุกนาย ในอันที่จะมุ่งปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อไม่ให้สถานการณ์กลับมาแพร่ระบาดรุนแรงขึ้นอีก จึงขอขอบคุณผู้บังคับบัญชาและข้าราชการตำวจทุกนายมา ณ โอกาสนี้”

                จากใจผู้เป็นนายสื่อถึงลูกน้อง เป็นขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศในการช่วยเหลือประชาชนให้รอดพ้นจากวิกฤติความทุกข์ยากจากการระบาดไวรัสโควิด-19 ไปด้วยกัน ไม่มีใครเป็นฮีโร่ แต่ประชาชนคือฮีโร่ร่วมกันสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดให้หายไปจากแผ่นดินไทย.    

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"