มท.ผวาโควิดระบาดซ้ำ! สั่งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดเข้มกักตัวผู้ที่เดินทางจากภูเก็ต พบออกจากด่านท่าฉัตรไชยแล้ว 1.6 หมื่นคน ขณะที่ภูเก็ตอั้นไม่อยู่ติดเชื้อเพิ่ม 4 ราย หลังไม่พบรายใหม่มา 1 สัปดาห์ ทั่วไทยตั้งตู้ปันสุขส่งต่อน้ำใจเยียวยาคนเดือดร้อน
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ลงวันที่ 9 พ.ค.2563 ระบุว่า ตามโทรสารในราชการกระทรวงมหาดไทยด่วนที่สุด ที่ มท 0230/ว 2565 ลงวันที่ 2 พ.ค.2563 แจ้งว่า จังหวัดภูเก็ตอนุญาตให้ประชาชนซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากสภาวะการตกงานในจังหวัดภูเก็ตเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยให้จังหวัดที่เป็นเส้นทางผ่านพิจารณาอำนวยความสะดวกตามความเหมาะสม สำหรับจังหวัดปลายทางซึ่งเป็นจังหวัดภูมิลำเนาให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรค หากมีกรณีสงสัยให้พิจารณานำเข้าสู่กระบวนการกักกันตัวนั้น
เนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันที่ 9 พ.ค.63 พบผู้ติดเชื้อซึ่งเป็นผู้เดินทางจากจังหวัดภูเก็ตที่เดินทางกลับจังหวัดภูมิลำเนา ฉะนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) พิจารณาแล้ว ให้ทุกจังหวัดยังคงดำรงความสำคัญในการปฏิบัติในเรื่องของการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยการกักกันตัวเพื่อสังเกตอาการ ณ จังหวัดภูมิลำเนา หรือจังหวัดปลายทางในการเดินทางตามแนวปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุข
ที่ จ.ภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับนายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และนายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 4 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 224 ราย
สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่ 4 ราย ทั้งหมดมีประวัติสัมผัสกับพื้นที่เสี่ยง มีรายละเอียดดังนี้ รายที่ 221 หญิงไทย อายุ 23 ปี อาชีพผู้ช่วยเลขานุการ อาศัยอยู่ในพื้นที่ซอยป่าสัก 4 ม.4 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง, รายที่ 222 หญิงไทย อายุ 29 ปี อาชีพผู้ช่วยผู้จัดการร้านสะดวกซื้อ อาศัยอยู่ในพื้นที่ซอยนาเสือ ม.4 ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก ต.วิชิต อ.เมืองฯ, รายที่ 223 ชายไทย อายุ 19 ปี อาชีพนักศึกษา อาศัยอยู่ในพื้นที่ ม.3 ต.วิชิต อ.เมืองฯ และรายที่ 224 ชายไทย อายุ 29 ปี อาชีพรับราชการ อาศัยอยู่ในพื้นที่ บ้านพัก ต.ป่าตอง อ.กะทู้
ส่วนข้อมูลว่ามีผู้เดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตไปที่จังหวัดปราจีนบุรี ตรวจพบว่าติดเชื้อนั้น เป็นหญิงไทย อายุ 28 ปี เป็นพนักงานของห้างแห่งหนึ่งในป่าตอง พักอยู่ที่ป่าตอง เดินทางออกจากภูเก็ตทางด่านท่าฉัตรไชยด้วยรถตู้ ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองทุกคนในรถตู้คันดังกล่าว เป็นผู้ที่ไม่มีอาการป่วย แต่ตรวจพบว่ามีเชื้อโควิด-19 ที่จังหวัดปราจีนบุรี สสจ.ภูเก็ต ได้ประสานไปยังสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค และประสานไปที่ สสจ.จังหวัดปราจีนบุรีอย่างใกล้ชิด ในการดำเนินการตามมาตรฐานการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัดทุกราย
สำหรับข้อมูลผู้เดินทางออกจากด่านท่าฉัตรไชย ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.ถึงปัจจุบัน จำนวน 16,436 คน ซึ่งผู้เดินทางกลับภูมิลำเนายังคงเดินทางต่อเนื่องทุกวัน
นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้เปิดเส้นทางเข้า-ออก หมู่ที่ 2 หมู่บ้านชุมชนประชาสามัคคี ต.เกาะแก้ว อ.เมืองฯ หลังจากที่มีการสั่งปิดเพื่อเฝ้าระวังควบคุมโรคและจะครบกำหนด 14 วันของการควบคุมโรค ในวันที่ 11 พ.ค. ซึ่งไม่พบการระบาดเพิ่มนั้น แต่ยังคงต้องมีมาตรการป้องกันควบคุมโรคเข้มข้นและเคร่งครัด
รวมทั้งเห็นชอบให้องค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาวดำเนินการต่อไปในกิจกรรมอุโมงค์ฆ่าเชื้อเพื่อให้คนลอดและอุโมงค์ฆ่าเชื้อเพื่อให้รถลอดเข้ามาที่ด่านท่าฉัตรไชย เพื่อเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ภูเก็ตไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มติดต่อกัน 7 วัน จนถึงเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา
ที่บริเวณด้านหน้ามูลนิธิกวนอิมเมตตาธรรม สว่างเบตงธรรมสถาน นายใช้ วงศ์นิตยลัภย์ ผู้อำนวยการกองช่าง รักษาราชการแทนปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองเบตง พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และกลุ่มผู้มีจิตศรัทธา ทั้งชาวไทยในอำเภอเบตง ได้ร่วมกันมอบข้าวกล่องปรุงสุก น้ำดื่ม และอาหารแห้ง หลายรายการ รวมทั้งเงินสด ให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ตามโครงการศูนย์รวมใจชาวเบตง สู้ภัยโควิด-19 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของโครงการที่ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยวันนี้มีประชาชนเดินทางมารอตรวจคัดกรองโรค รับบัตรคิว เพื่อรอรับอาหารจำนวนกว่า 800 คน
ที่บริเวณศาลารอรถหน้าศูนย์อีซูซุเก่า แยกต้นมะม่วง ต.ต้นมะม่วง อ.เมืองฯ จ.เพชรบุรี นายธีรวัฒน์ รัตนสิงห์, นายวสันต์ อาทร (หมูแผ่นดินไทย), นายธีพงศ์ ครึกครื้น ชาวจังหวัดเพชรบุรี และกลุ่มเพื่อนๆ ได้นำตู้แช่เก่าที่ไม่ได้ใช้งานปรับเปลี่ยนติดสติกเกอร์ ทำเป็น “ตู้ปันสุข สู้ภัยโควิด-19” มาตั้งไว้ โดยภายในมีสิ่งของเครื่องใช้ อาทิ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน น้ำดื่ม ข้าวสาร แป้งกระป๋อง ปลากระป๋อง มาม่า และขนมสำหรับเด็กๆ ที่มีผู้ใจบุญร่วมบริจาคจำนวนมากมาใส่ไว้เต็มตู้ เพื่อให้ผู้ที่เดือดร้อนมาเปิดหยิบของในตู้ไปใช้กินและใช้ในครอบครัวได้เลย โดยขอให้หยิบไปแต่พอดี เผื่อแผ่คนข้างหลังด้วย
นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วยนางสายชล บุญอรณะ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเพชรบุรี และสมาชิก ร่วมโครงการสร้างต้นแบบของครอบครัวมหาดไทย จัดทำที่ว่างสร้างอาหาร สู้สถานการณ์โควิด 19 ณ บ้านพัก โดยนางสายชลเปิดเผยว่า แม่บ้านมหาดไทยเพชรบุรี ผนึกพลัง รวมพลสมาชิกแม่บ้านมหาดไทย ใช้เวลาว่างจากภารกิจ หันมาปลูกผักสวนครัว ในสภาวะที่ต้องต่อสู้กับสถานการณ์โควิด-19 นอกจากช่วยลดรายจ่ายแล้ว ยังเพิ่มรายได้เพิ่มเงินในกระเป๋าอีกด้วย
ที่บริเวณริมถนนมิตรภาพ สายขอนแก่น-นครราชสีมา ด้านหน้าศูนย์บริการโตโยต้าชัวร์ สาขาขอนแก่น ในพื้นที่ ต.ศิลา อ.เมืองฯ จ.ขอนแก่น พบว่ามีการตั้งตู้กับข้าวพร้อมกับมีป้ายติดไว้ระบุว่า “ตู้ปันสุข เชิญหยิบฟรี หยิบไปแต่พอดี ถ้าท่านมีใส่ของตู้แบ่งปัน” โดยมีประชาชนนำสิ่งของมาใส่ตู้กับข้าวแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง โดยสิ่งของที่นำมา ส่วนใหญ่เป็นน้ำดื่ม, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ไข่ไก่, ปลากระป๋อง, ยารักษาโรค และขนมต่างๆ ซึ่งพบว่ามีประชาชนนำสิ่งของมาให้ใส่ตู้ปันสุขมากกว่าผู้มารับ ทำให้สิ่งของตู้นี้มีของเกือบเต็มตลอดเวลา
ที่ จ.พิษณุโลก หลังจากมีกลุ่มประชาชนคนพิษณุโลกรวมตัวกันทางโซเชียลผุดโครงการ ตู้ส่งต่อ พิษณุโลก ตู้ปันน้ำใจ ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เริ่มนำร่องตั้งตู้บริการหลายแห่งในเขตอำเภอเมืองพิษณุโลก โดยจะใช้ตู้กับข้าวตั้งไว้หน้าร้านค้า หน้าสำนักงาน นำเครื่องอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นการต่อการดำรงชีพ พร้อมกับเขียนป้ายให้ผู้รับ “หยิบไปแต่พอดี เหลือมาแบ่งปัน” นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้สำรวจสถานที่ตั้งตู้ส่งต่อพิษณุโลก ตู้ปันน้ำใจหลายจุดในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก พบว่ามีชาวพิษณุโลกจำนวนหลายรายได้นำเครื่องอุปโภคบริโภค อาทิ ปลากระป๋อง บะหมี่สำเร็จรูป ข้าวสาร มาเติมใส่ตู้ส่งต่อและตู้ปันน้ำใจหลายจุด ตามที่ได้รับทราบข่าวสารจากโซเชียลมีเดียอย่างไม่ขาดสาย เช่นเดียวกันที่หน้าร้านพฤกษาชาติ 1 ใกล้โรงแรมท็อปแลนด์ ก็มีประชาชนนำสิ่งของมาเติมใส่ตู้เช่นกัน ณ จุดนี้ได้จัดเตรียมกระดาษไว้ให้สำหรับผู้มารับของได้เขียนขอบคุณผู้ให้ด้วย
ที่ร้าน Firstwater ตั้งอยู่บริเวณหลังวัดเสม็ด หมู่ 2 ต.เสม็ด อ.เมืองฯ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายน้ำดื่มและน้ำแข็งหลอด โดยมี น.ส.ณัฏฐ์ชาลา มากศรทรง อายุ 38 ปี เป็นเจ้าของ ได้มีการนำตู้กับข้าวมาตั้งบริเวณหน้าร้าน พร้อมทั้งมีการนำบะหมี่สำเร็จรูป ไข่ไก่ ปลากระป๋อง และน้ำดื่มมาบรรจุไว้ โดยมีชาวบ้านบริเวณข้างเคียงได้เดินมาหยิบเอาไปรับประทาน โดยไม่ต้องจ่ายเงิน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยโควิด-19.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |