'โอบามา'จวกผลงานรับมือโควิด'ทรัมป์'เข้าขั้นหายนะ


เพิ่มเพื่อน    

อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าววิจารณ์ผลงานการจัดการโรคระบาดโควิด-19 ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเป็น "ความหายนะที่ยุ่งเหยิงอย่างแท้จริง" พร้อมเรียกร้องลูกน้องเก่าในรัฐบาลของเขาสนับสนุน "โจ ไบเดน" โค่นเก้าอี้ทรัมป์

ภาพนิ่งจากวิดีโอเมื่อวันที่ 14 เมษายน ที่อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประกาศสนับสนุนโจ ไบเดน เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐ

    รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันอาทิตย์กล่าวว่า ที่ผ่านมาอดีตประธานาธิบดีโอบามาไม่ค่อยลงมาร่วมวงทะเลาะด้วย ถึงแม้ทรัมป์จะกล่าวโทษตัวเขาและรัฐบาลพรรคเดโมแครตของเขาว่าเป็นสาเหตุของปัญหาต่างๆ นานาที่เกี่ยวข้องกับการขาดแคลนทรัพยากรในการต่อสู้กับโรคระบาดโควิด-19 แต่ในการประชุมทางไกลกับสมาชิกสมาคมศิษย์เก่าโอบามา ที่มีสมาชิกเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลโอบามาราว 3,000 คน โอบามาได้กล่าววิจารณ์ผลการทำงานของทรัมป์อย่างเผ็ดร้อน

    บันทึกเสียงที่เล็ดลอดออกมาจากการประชุมเมื่อวันศุกร์ ซึ่งยาฮูนิวส์รายงานเป็นเจ้าแรก เปิดเผยว่า โอบามาเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนเขาร่วมมือกับเขาหนุนหลังอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแคร ที่จะชิงชัยกับทรัมป์ในการเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้

    โอบามากล่าวว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการต่อสู้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือพรรคการเมืองใดเป็นการเฉพาะ แต่เป็นการต่อสู้กับสิ่งที่เป็นแนวโน้มระยะยาวที่ความเห็นแก่ตัว, การถือเผ่าพันธุ์, การแบ่งแยก และการมองคนอื่นเป็นศัตรู ได้กลายเป็นแรงกระตุ้นที่แข็งแรงขึ้นในชีวิตของคนอเมริกัน นี่คือเหตุผลหนึ่งเดียวที่ทำไมการตอบสนองต่อวิกฤติโลกครั้งนี้จึงไร้พลังและไม่คงเส้นคงวา

    โอบามากล่าวว่า สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องแย่แม้แต่กับรัฐบาลที่ดีที่สุด และมันกลายเป็นความหายนะที่ยุ่งเหยิงอย่างแท้จริงเมื่อกระบวนความคิดแบบนี้ดำเนินการโดยรัฐบาลของเราเอง และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมตัวเขาจึงจะทุ่มเทเวลาเพื่อช่วยหาเสียงให้ได้มากที่สุดเพื่อโจ ไบเดน

    ประธานาธิบดีทรัมป์ถูกวิจารณ์ว่าไม่แสดงบทบาทผู้นำในการนำพาสหรัฐผ่านวิกฤติครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในรอบศตวรรษ โดยปล่อยให้มลรัฐต่างๆ จัดการกับโรคระบาดนี้เองและแข่งขันแย่งชิงกันจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นในตลาดเสรีหรือในต่างประเทศ

    นักวิจารณ์กล่าวกันว่า ทรัมป์ ซึ่งดูเบาภัยคุกคามจากไวรัสนี้ในตอนแรก ทำให้สหรัฐสูญเวลาอันมีค่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์เมื่อไวรัสนี้แพร่เข้าสู่อเมริกา และรัฐบาลของเขาไม่รีบดำเนินการกักตุนอุปกรณ์การทดสอบเชื้อและอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ หรือพัฒนายุทธศาสตร์ระดับชาติที่มีความสอดประสานกัน

    ความต้องการคะแนนเสียง ยังทำให้ทรัมป์เห็นแก่ผลประโยชน์ทางการเมืองของเขาก่อนการรักษาชีวิตมนุษย์ ด้วยการผลักดันอย่างก้าวร้าวให้มลรัฐต่างๆ เปิดเศรษฐกิจที่ย่อยยับเพราะผลกระทบของการล็อกดาวน์ โดยที่ไม่มีพิมพ์เขียวที่ชัดเจนว่าจะจัดการอย่างไรให้มีความปลอดภัย

    ด้านเคย์ลีห์ แม็กอีแนนี โฆษกทำเนียบขาว แก้ต่างว่า การตอบสนองของทรัมป์ต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนานั้น "ไม่เคยมีแบบอย่างมาก่อน" และรักษาชีวิตชาวอเมริกันไว้ได้

    เธอย้อนด้วยว่า ในขณะที่สมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรไล่บี้ทรัมป์ด้วยการสอบสวนเรื่องยูเครนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนำไปสู่การกล่าวโทษเพื่อถอดถอนทรัมป์ ก่อนที่วุฒิสภาที่รีพับลิกันกุมเสียงข้างมากจะลงมติเมื่อต้นปีนี้ว่าทรัมป์ไม่ผิด ในเวลาที่เดโมแครตกำลังตามล่าประธานาธิบดีทรัมป์นั้นเอง ทรัมป์ได้สั่งห้ามการเดินทางจากจีน และในขณะที่เดโมแครตส่งเสริมให้คนมารวมตัวกันมากๆ ทรัมป์กำลังจัดส่งชุดป้องกันเชื้อโรค, เครื่องช่วยหายใจ และชุดทดสอบไปทั่วประเทศ

    ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์เมื่อวันอาทิตย์ สหรัฐมีผู้ติดเชื้อแล้ว 1,309,541 ราย เสียชีวิต 78,794 ราย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"