10 พ.ค. 63 - นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "สิ่งที่รัฐบาลควรทำในภาวะวิกฤตคือการลดรายจ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น การซื้ออาวุธยุทธภัณฑ์ รวมถึงการอุ้มการบินไทยซึ่งแม้จะเป็นรัฐวิสาหกิจแต่ก็เป็นองค์กรทางธุรกิจเพื่อแสวงหากำไรมิได้เป็นองค์กรเพื่อประโยชน์สาธารณะ

การอุ้มการบินไทยต้องใช้เงินเกินกว่า 100,000 ล้านบาท ถึงแม้การบินไทยจะผู้กู้แต่การที่กระทรวงการคลังต้องค้ำประกันจะทำให้กลายเป็นหนี้สาธารณะหรือเป็นหนี้ของประชาชน รัฐบาลจึงต้องสำนึกว่าในภาวะวิกฤตจะต้องใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน การที่รัฐบาลต้องมาแบกหนี้ให้กับการบินไทยก็คือการทำให้โอกาสของประชาชนเสียไปเท่ากับจำนวนเงินหนี้ที่รัฐบาลต้องค้ำประกัน

การบินไทยอ้างรัฐบาลทักษิณเปิดเสรีทางการบินทำให้ขาดทุน ผมจึงเอาผลประกอบการปี 2546-2550 มาแสดงแทนคำตอบ ความจริงคือไทยเป็นสมาชิกของ WTO จึงต้องเปิดให้มีการแข่งขันแต่การบินไทยกลับทำตัวเป็นองค์กรการกุศลรับฝากเด็กเส้นเข้ามามากมาย พอขาดทุนก็ไม่ลดคนแต่ไปลดรายจ่ายที่เป็นความเข้มแข็ง จนบัดนี้พนักงานการบินไทยยังมีจำนวนมากกว่าสิงคโปร์แอร์ไลน์แต่มีเครื่องบินน้อยกว่า ถ้าไม่เจ๊งวันนี้จะไปเจ๊งวันไหน ส่วนพนักงานที่ล้นเกินนั้นไม่มีคนในตระกูลชินวัตรหรือเครือข่ายของพรรคเพื่อไทย เพราะพวกผมไม่มีเส้นและไม่ใช่เหลือบ

สถานการณ์หลังโควิด-19 สายการบินหลายสายต้องยอมเข้าสู่กระบวนการล้มละลายเพื่อปรับโครงสร้างทางธุรกิจขององค์กรใหม่ การบินไทยก็ควรยอมรับกติกาทางธุรกิจเพื่อเข้าสู่การแข่งขันที่เสรีเหมือนสายการบินทั่วไป เลิกโทษคนอื่นหันมาดูตัวเอง การอ้างทักษิณที่ถูกยึดอำนาจตั้งแต่ปี 2549 จนบัดนี้รวม 14 ปี ถ้าการบินไทยยังแก้ปัญหาไม่ได้ก็สมควรยุบทิ้งไป เลิกอ้างการเป็นสายการบินแห่งชาติเพื่อจะเอาเงินภาษีประชาชนไปใช้ เพราะการใช้เงินของประชาชนจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน หากจะทวงบุญคุณก็ต้องไปทวงกับพลเอกประยุทธ์และกลุ่มคนที่สมคบกันยึดอำนาจ แต่ไม่มีสิทธิเอาเงินของประชาชนไปใช้ นี่คือหลักการครับ 

เตรียมเงินไว้ใช้กับประชาชน ความลำบากเพิ่งเริ่มต้นยังเหลือเส้นทางอีกยาวไกล".