10 พ.ค.63-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในไลน์กลุ่มสื่อ-นักศึกษา-กลุ่มกิจกรรม ที่ใช้ประชาสัมพันธ์กิจกรรมของขบวนการฝ่ายประชาธิปไตยและแฟลชม็อบนิสิตนักศึกษา นายฟรานซิส บุญเกื้อหนุน เป้าทอง ประธานร่วมภาคีนักศึกษาศาลายา ได้ส่งข้อความแจ้งการลาออก มีเนื้อหาระบุว่า ถึงเวลาที่ต้องจากลา..สวัสดีทุกคนครับ ตอนนี้ถึงจุดเปลื่ยนที่ผมเองไม่สามารถบอกได้ว่าอนาคตภายภาคหน้าจะเป็นอย่างไร สิ่งที่ผมสามารถบอกได้นั้นก็คือ อะไรคือหนทางต่อจากนี้ ของแกนนำแฟลชม็อบมหิดล ผมกับเพื่อนอีกหลาย ๆ คนได้ทำในสิ่งที่หลายคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้มาแล้ว การที่นักศึกษาและประชาชนร่วมสามพันกว่าชีวิตได้ออกมาร่วมแสดงพลังกับพวกเราในคืนนั้นแทบจะเป็นจุดสูงสุดของชีวิตผมและเพื่อนหลาย ๆ คนแล้ว
แน่นอนว่าการเดินทางต่อในสายทางนั้นย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปตามตรรกะและเหตุผลของมัน และนั่นคือสิ่งที่ผมได้ทำมาเป็นเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม การที่เราได้เดินทางมาถึงจุดนี้ ทำให้ผมได้เห็นด้านที่หลาย ๆ คนไม่เคยเห็นมาก่อน เชื่อหรือไม่ว่า ภายใต้ขบวนการนักศึกษาที่ดูเหมือนแน่นแฟ้นกัน จะมีความแตกแยกและความสับสนอยู่หลายอย่างมาก แน่นอนว่าผมไม่ได้ว่าพวกเราอ่อนแอแม้แต่เพียงใด แต่มันคงจะดีกว่านี้ ถ้าพวกเราไม่มาสู้กันเอง มันคงจะดีกว่านี้ ถ้าเราร่วมมือกัน...
เพราะแน่นอนว่าเป้าหมายเรามีเรื่องที่ใหญ่กว่านี้เสียด้วยซ้ำไป เป้าหมายในการสร้างประชาธิปไตย พร้อมไปด้วยเสรีภาพ และความเสมอภาค ที่คนไทยสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีองค์กรใดเพอร์เฟค แม้แต่ผมเองก็ไม่ได้เพอร์เฟค แต่เราสามารถหาอย่างอื่นมาแทนความเพอร์เฟคตรงนั้นได้ สององค์กรในขบวนการนักศึกษามีอะไรที่เหมือน ๆ กันมากกว่าแตกต่างกัน และหวังว่าสักวันหนึ่งพวกเขาจะร่วมมือกันสร้างสังคมที่ดีกว่านี้ได้
สำหรับตัวผมแล้ว ผมไม่สามารถมองเห็นตัวเองในอนาคตที่ผมอยากให้เป็น และมันถึงเวลาแล้วที่คนอย่างผมต้องกลับไปทำในสิ่งที่ผมรักจริง ๆ เพราะสุดท้ายแล้ว การให้พื้นที่คนได้ออกมา ก็คือว่าเป็นหน้าที่ที่ผมได้ทำโดยเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ผม ฟรานซิส บุญเกื้อหนุน เป้าทอง คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องให้คนอื่นทำงานต่อเพื่อเป้าหมายเหล่านั้น ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะได้เจอกันอีกในฐานะอื่น ๆ แต่สำหรับประวัติศาสตร์หน้าการเคลื่อนไหวทางการเมือง ผมคงไม่สามารถไปต่อได้หลังจากนี้แล้ว ผมหวังว่าเพื่อน ๆ ทุกคนในขบวนการนักศึกษาจะเปิดใจซึ่งกันและกัน และร่วมมือกันทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น และพบกันใหม่อีกครั้งหนึ่ง ถ้าเราต้องได้เจอกันอีกครับ
โดยภายหลังส่งข้อความนี้ นายบุญเกื้อหนุนได้ออกจากกลุ่มไลน์ จากนั้น น.ส.วัชรินทร์ภรณ์ บำรุงพืช เลขานุการภาคีนักศึกษาศาลายา ได้ส่งข้อความระบุว่า ในนามภาคีนักศึกษาศาลายา ไม่มีใครร่วมรู้เห็นกับการกระทำและออกความคิดเห็นส่วนตัวของนายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง เป็นการใส่ความรู้สึกส่วนบุคคลเท่านั้น ขอยืนยันว่าการกระทำนี้เป็นเพียงการกระทำของบุคคลหนึ่งโดยไม่มีมติร่วมของภาคีนักศึกษาศาลายาใดๆ ทั้งสิ้น ทางภาคีศาลายายังคงเป็นมิตรและร่วมมือกับกลุ่มนักศึกษาทุกกลุ่มได้อย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ จะมีการร่วมประชุมพิจารณากับการกระทำของ นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง กันภายในภาคีกันอีกครั้งถึงการกระทำดังกล่าว
ขณะที่นายณวิบูล ชมภู่ ประธานร่วมภาคีนักศึกษาศาลายา ได้ส่งข้อความเสริมว่า ผม นาย ณวิบูล ชมภู่ ประธานร่วมภาคีนักศึกษาศาลายา ขอย้ำอีกครั้งว่าการบอกกล่าวของนายบุญเกื้อหนุน เป้าทองเป็นการใส่ความเห็นโดยส่วนตัวโดยไม่ได้ผ่านมติ กระผมในฐานะประธานร่วมภาคีนักศึกษาศาลายาขออภัย เครือข่ายนักเรียนนิสิตนักศึกษาเคียงข้างประชาชนเพื่อประชาชนและทุกคนในกลุ่มอย่างสูง กับการกระทำโดยไม่ยั้งคิดของนายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |