10 พ.ค.63-พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงภาพรวมการดำเนินการของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง หรือ ศปม.หลังมีการผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางประเภทว่า จากการรวบรวมสถิติเปรียบเทียบ 7 วันก่อนหน้านี้ที่มีการผ่อนคลาย และหลัง 7 วัน ไม่ว่าจะเป็นการนอกเคหะสถานในช่วงเคอร์ฟิว หรือการรวมกลุ่ม มั่วสุ่ม ลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ทั้งสองส่วนปรากฎว่าหลังจากมีการผ่อนคลาย ภาพรวมกระทำผิดสูงขึ้นนิดหน่อยไม่มาก จากเดิม 7 วันก่อนหน้านี้ประมาณ 4,407 คดี แต่หลังวันที่ 3 พ.ค. จนถึงวันที่10 พ.ค. จำนวน5,363 คดี เพิ่มขึ้นประมาณ 900 กว่าคดี หรือร้อยละ 21 นอกจากนี้ หากแยกในรายละเอียดความผิดออกนอกเคหะสถาน เพิ่มขึ้น 827 คดี ส่วนใหญ่ยังมีประชาชนบางส่วนไม่สามาถปรับการใช้ชีวิตประจำวัน ยังคงออกจากบ้านโดยไม่มีเหตุอันควร เช่น การไปเที่ยวบ้านเพื่อน ร้อนออกมาทำธุระ ซึ่งมันไม่ใช่
ส่วนการเล่นการพนันจากเดิม 664 คดี เป็น 704 คดี เพิ่ม 40 คดี แต่ที่น่าสนใจคือ หลังวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ความปิดเรื่องการมั่วสุม โดยการดื่มสุราสูงขึ้น เช่น 300 เป็น 600 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองเราไม่อยากจับกุมดำเนินคดี เราอยากตักเตือนแต่เหลือทนจริงๆ ประเภทเตือนแล้วครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ไปยังเจออีก หรือมั่วสุ่ม ดื่มสุรา ส่งเสียงรบกวนประชาชนโทรศัพท์แจ้งเราพบบ่อยมาก นอกจากนี้ ที่ยังจับกุมได้อยู่ตลอด คือ การเล่นการพนัน จำนวนรายลดลงก็จริง จากเดิมเล่น 2-3 คน แต่ระยะหลังพบว่ามีผู้เล่นสูงขึ้น 10-20 คน และมีการมั่วสุ่มในเรื่องสุรา ประกอบกัน ซึ่ง ผบ.ทสส และผบ.ตร ย้ำเสมอว่าตรงจุดนี้เป็นสิ่งที่เราตักเตือนมาพอสมควร ในความผิดประเภทซ้ำซ้อน จากนี้ต้องดำเนินการเข้มงวด
ถามว่า มีภาพหลังจับกุมบ่อนการพนันพอผู้สื่อข่าวไปสอบถามการรวมกลุ่มไม่กลัวโควิดหรือ พบทั้งหมดบอกมีเจลล้างมือ และใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ตรงนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไปทำความเข้าใจหรือไม่ว่าการเข้าไปจับกุมไม่ใช่เฉพาะเรื่องการทำความผิดอย่างเดียวเท่านั้น พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ต้องแยกให้ออกเรามีกฎหมายพิเศษพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ละจังหวัดมีพ.ร.บ.โรคติดต่อ ซึ่งจะออกข้อกำหนดตามพ.ร.บ .โรคติดต่อ แต่ละจังหวัด หลักใหญ่ 3 หลัก ที่ยังมีอยู่คือเรื่องหน้ากาก การล้างมือ แต่ที่บกพร่องบ่อยครั้ง คือ การรักษาระยะห่าง การรวมกลุ่มแบบนั้นเสี่ยงแพร่เชื้อโรค โดยปกติเจ้าหน้าที่สายตรวจชุดเคลื่อนที่เร็วดูครอบคลุมหลายส่วน ทั้งนี้ สถานประกอบการหลายแห่งทำดี เราต้องชม บางส่วนยังต้องปรับปรุง เราดำเนินการ รวมถึงการกวดขัน จับกุม มั่วสุ่ม ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่โรคอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเล่นการพนัน ตั้งวงดื่มสุรา นั่งใกล้กันใส่หน้ากากก็จริง แต่ไม่ตลอดเวลา เพราะมีการพูดคุย เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ เราควบคุมตัวเลขได้อย่างดี แต่ยังมีบางส่วนบกพร่องอยู่
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ปกครอง และสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจสถานที่ประกอบการหลายแห่งที่มีการผ่อนคลาย พบว่าน่าสนใจในช่วง 3-4 วันนี้มีผู้ฝ่าฝืน จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ จากการไปลงพื้นที่ตรวจ 6,000 กว่า ปฏิบัติตามมาตรการประมาณ 6,001 ไม่ปฏิบัติตามประมาณ1-2 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อคืนวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ตัวเลขน่าชื่นใจตัวเลขเกือบจะศูนย์แล้ว พอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ปกครอง เขต ท้องถิ่น และสาธารณสุขไปตรวจตรวจตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตามร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และตลาดตัวเลขลดลงไปเยอะพอสมควร ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ร้านอาหารหลายร้านเป็นตัวอย่างที่ดีให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ถ้าต้องนั่ง 2 คนก็มีฉากกั้น อย่างไรก็ตาม ทั่วประเทศให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีทั้งจากผู้ประกอบการและผู้ที่ไปจับจ่ายใช้สอยในซูเปอร์มาร์เก็ต อยากให้คงแบบนี้ต่อเนื่องต่อไป
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |