หนุ่มอุบลฯทิ้งเงินเดือน 8 หมื่น หันทำฟาร์มเลี้ยงหนูนาสร้างรายได้งามเดือนละ 2-3 แสนบาท


เพิ่มเพื่อน    

10 พ.ค.63 - ที่ฟาร์มหนูพุกใหญ่น้องเตชินท์ บ้านแก้ง ตำบลแก้ง อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นฟาร์มเลี้ยงหนูพุก หรือหนูนา ของนายวีระยุทธ ศรีคำ อายุเพียงแค่ 27 ปี ซึ่งฟาร์มนี้เป็นลูกฟาร์มของนายไพ เนียมกลิ่ม อายุ 39 ปี ปัจจุบันเป็นเจ้าของฟาร์มและแม่ข่ายฟาร์มหนูพุกใหญ่ ที่มีลูกฟาร์มทั่วประเทศ มากกว่า 50 ฟาร์ม

นายไพ เนียมกลิ่น เจ้าของฟาร์มหนูพุกใหญ่ชัยภูมิฟาร์ม กล่าวว่าก่อนหน้านี้ตนและภรรยาทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ กว่า 20 ปี มีเงินเดือนประจำ ล่าสุดก่อนที่จะลาออกอยู่ที่เดือนละ 80,000 บาท มีชีวิตที่ดีเลี้ยงครอบครัวได้ แต่พอไปถึงจุดหนึ่งรู้สึกว่าเราต้องการชีวิตที่อยู่กับธรรมชาติ อยู่ตามทุ่งนา เป็นเจ้านายตัวเอง จึงเป็นโอกาสให้เราได้ตัดสินใจสมัครใจลาออกมา

นายไพ กล่าวต่อว่าช่วงแรกที่ลาออก ก็ได้ใช้เงินจำนวนหนึ่งที่ได้จากบริษัท มาลงทุนเลี้ยงปูนาเป็นอาชีพหลัก และเลี้ยงหนูพุกใหญ่ เป็นอาชีพรอง แต่มีเจออุปสรรคในการขนส่งปูนา จึงทำให้ขาดทุน แต่สำหรับการเลี้ยงหนูพุกใหญ่ กลับได้กำไร ตนจึงได้ตัดสินใจหันมาเลี้ยงหนูพุกใหญ่อย่างเต็มตัว ช่วงแรกทางบ้านก็ตำหนิ และดูถูกว่าเราเป็นคนบ้า เพราะมาเลี้ยงหนู ซึ่งเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยมีคนนิยมรับประทาน อีกทั้งชาวบ้านก็สามารถจับหนูนาได้ตามทุ่งนาอยู่แล้ว มันจะสามารถขายได้อย่างไร ซึ่งทางบ้านก็ไม่สนับสนุน

แต่ตนกลับมองอีกมุมว่า การเลี้ยงหนูพุกใหญ่น่าจะได้รับความสนใจจากคนที่มีเงิน ก็ยังตัดสินใจที่จะเลี้ยงต่อ จนเมื่อเลี้ยงได้ประมาณ 5 เดือน ตนก็เริ่มขายหนูได้ในหลักพันต่อวัน ต่อมาก็หลักหมื่นต่อวัน จนปัจจุบันตนสามารถขายหนูได้เดือนละ 200,000-300,000 บาท ซึ่งขายหนูเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์คู่ละ 800 บาท ปัจจุบันมียอดจองหนูจากเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม มากกว่า 3,000 ตัว ตัวละ 400 บาท

ขณะที่นายวีระยุทธ ศรีคำ อายุ 27 ปี เจ้าของฟาร์มหนูพุกใหญ่น้องเตชินท์ กล่าวว่าตนก็พึ่งเริ่มหันมาเลี้ยงหนูพุกใหญ่ เมื่อประมาณ 5 เดือนที่แล้ว ลาออกจากงานประจำที่ได้เงินเดือน 12,000 บาท โดยใช้เงินลงทุนโรงเรือนและซื้อพ่อแม่พันธุ์มาเลี้ยง ซึ่งเลี้ยงได้สัก 3 เดือน ตนก็ได้เงินทุนค่าพ่อแม่พันธุ์ประมาณ 30,000 บาทแล้ว และก็ได้เพิ่มบ่อเลี้ยงเป็น 43 บ่อ ซึ่งหนูที่มีอยู่ประมาณ 200 ตัว ก็ถูกจองไว้หมดแล้ว และหนูไม่พอขาย จึงจำเป็นต้องขยายบ่อเลี้ยงให้มากขึ้น

สำหรับการเลี้ยงหนู ตอนแรกตนก็ไม่มั่นใจว่าจะขายได้ตลอด แต่พอเลี้ยงและมีนายไพ ซึ่งเป็นแม่ฟาร์มได้ช่วยหาตลาด และช่วยแนะนำวิธีการเลี้ยง จนสามารถขายได้ตลอด จนหนูไม่เพียงพอ ก็ถือว่าเป็นธุรกิจใหม่ สำหรับกลุ่มคนที่ไม่อยากจะเป็นลูกจ้างประจำ หันมาเป็นเจ้าของฟาร์มเองได้


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"