"โควิด" ขาลง ผู้ป่วยในหลายจังหวัดหายดี ทยอยกลับบ้านกันเป็นทิวแถว เช่นเดียวกับผู้กักตัวครบ 14 วัน ถึงบ้านเรียบร้อย พระสงฆ์ 103 รูปจากอินเดียพ้นระยะกักตัวกลับไปจำวัดเรียบร้อยแล้ว ไม่ติดเชื้อแม้แต่รูปเดียว
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ที่สถานควบคุมโรคของรัฐสําหรับพระสงฆ์ (State Quarantine) เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดยานนาวา พร้อมด้วยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายณัฏฐชัย ศรีรุ่งสุขพินิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และร่วมส่งคณะสงฆ์ที่เดินทางกลับจากประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อวันที่ 8 พ.ค. เป็นวันครบกำหนดการกักตัว 14 วัน ตามมาตรการของภาครัฐ
โดยช่วงเช้า มีคณะสงฆ์ทยอยเดินทางกลับไปจำวัดจำนวน 103 รูป ด้วยการอำนวยความสะดวกของกระทรวงมหาดไทย ที่จัดเตรียมยานพาหนะเพื่อไปส่งคณะสงฆ์ถึงที่หมาย โอกาสนี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้นำเครื่องกัปปิยภัณฑ์มาถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย, เจลแอลกอฮอล์ และยาหม่อง โดยจัดเตรียมจุดรับกัปปิยภัณฑ์สำหรับถวายพระภิกษุสงฆ์รับก่อนออกเดินทาง
นายเทวัญเผยว่า ได้เดินทางไปรับคณะสงฆ์เดินทางกลับจากประเทศอินเดียด้วยตัวเองเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยคณะสงฆ์และผู้ปฏิบัติธรรมที่เดินทางมาถึงจะต้องเข้ากระบวนการตรวจคัดกรองตามมาตรฐานที่รัฐกำหนดโดยไม่มีข้อยกเว้น จากนั้นจะต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค โดยการกักตัว 14 วัน ในพื้นที่กักตัวของรัฐ จนกระทั่งวันนี้คณะสงฆ์สามารถเดินทางกลับไปจำวัดตามปกติได้แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาไม่พบจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ทางมหาเถรสมาคมก็มีการกำชับทางคณะสงฆ์ให้ดูแลตนเอง ส่วนทางวัดให้งดเว้นการจัดกิจกรรมทางศาสนาที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ที่หน้าอาคารสมเด็จพุฒาจารย์ รพ.ขอนแก่น นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น นำทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ นำดอกไม้มารอให้กำลังใจ ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 5 และรายที่ 6 คือหญิงอายุ 63 ปี และชายอายุ 65 ปี สองสามีภรรยาชาวบ้าน บ.กุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งวันนี้คณะแพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้หลังจากที่รักษาจนหายเป็นปกติ
โดยทันทีที่ลงมาจากชั้น 2 ของอาคาร ทีมแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ ได้นำดอกไม้มามอบให้กับผู้ป่วยทั้ง 2 รายเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น จนทำให้ผู้ป่วยรายที่ 5 ซึ่งเป็นคุณยายวัย 63 ปีกลั้นน้ำตาไม่อยู่ร้องไห้ด้วยความดีใจตลอดเวลา จากนั้นทั้งหมดได้ไปส่งตายายขึ้นรถพยาบาลเพื่อส่งตัวกลับบ้านที่อำเภอน้ำพองต่อไป
นพ.ชาญชัยกล่าวว่า ดีใจที่ผู้ป่วยทั้ง 2 รายหายเป็นปกติและกลับบ้านได้แล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วคุณยายหายนานแล้ว แต่เนื่องจากมีอาการปวดที่เข้าจึงพักรักษาตัวต่อ เพราะกลับไปต้องไปอยู่แยกตัวจากบุคคลอื่น ต้องใช้ชีวิตด้วยตนเอง จึงต้องรักษาร่างกายให้แข็งแรงที่สุด โดยได้ทำการรักษานาน 26 วัน เนื่องจากตาและยายมีโรคประจำตัวและยังเป็นผู้สูงอายุ
ที่นครพนมก็กลับบ้าน
"คุณยายวัย 63 ปีที่ติดเชื้อมาจากลูกชายอาการค่อนข้างหนัก เนื่องจากติดเชื้อและปอดถูกทำลายไปจำนวนมาก ทีมแพทย์จึงทำการรักษาตามหลักการสาธารณสุขจนหายจากการติดเชื้อ จากนี้ไปได้กำชับให้ทั้งสองคนใช้ชีวิตให้อยู่ห่างจากคนอื่นเป็นเวลา 30 วัน"
ผอ.รพ.ขอนแก่นกล่าวอีกว่า ผู้ป่วยรายที่ 5 ได้เข้ารับการรักษาตัวใน รพ.ขอนแก่นมาตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่คนใกล้ชิดเป็นลูกของผู้ติดเชื้อ ได้นำตัวไปตรวจร่างกาย แต่ไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด ขณะที่สามีได้เข้ารับการตรวจในวันที่ 15 เม.ย. ตรวจพบการติดเชื้อ จึงเข้ารับการรักษาตามขั้นตอนและวันนี้อาการหายจากโรค ทีมแพทย์จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้
ที่โรงพยาบาลศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม นายปรัชญา เสริฐลือชา นายอำเภอศรีสงคราม, นพ.วรกาล ธิปกะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสงคราม, นายกามนิต มงคลเกตุ สาธารณสุขอำเภอ และทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุขอำเภอศรีสงคราม ได้แสดงความยินดีมอบดอกไม้ให้กับผู้ป่วยหญิงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายที่ 2 ของ จ.นครพนม ซึ่งติดเชื้อจากการทำงานเป็นพริตตี้ใน จ.ภูเก็ต ที่ได้รับการรักษาหายแล้วและส่งกลับบ้าน ที่บ้านดอนถ่อน หมู่ที่ 12 ต.บ้านเอื้อง อ.ศรีสงคราม
ทันทีที่ถึงบ้าน ได้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจาก รพ.สต.เซียงเซา ผู้นำชุมชน อสม.และญาติพี่น้องชาวบ้านดอนถ่อนให้การต้อนรับด้วยความอบอุ่น
นพ.วรกาลเปิดเผยว่า การรักษาผู้ป่วยรายนี้ ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลได้ให้ยาต้านเชื้อรักษาตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดทุกประการ พร้อมทั้งมีการปรึกษากับผู้ทรงคุณวุฒิของกระทรวงสาธารณสุขในส่วนการรักษาว่าต้องเพิ่มเติมส่วนใดอีกหรือไม่ ซึ่งได้รับการยืนยันแล้วว่าสภาพผู้ป่วยได้รับการรักษาหายจนขาดและกักตัวเฝ้าดูอาการครบ 14 วันแล้ว ในวันที่ 25 เม.ย.
“หลังรักษาหายแล้ว ผู้ป่วยต้องกลับบ้านได้และกักตัวดูอาการอีก 14 วัน แต่ทางโรงพยาบาลพิจารณาแล้วว่าอาจจะเกิดปัญหาทำให้ชาวบ้านวิตกกังวล จึงให้พักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลแทน เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และให้ผู้ป่วยมีขวัญกำลังใจดีขึ้น โดยผู้ป่วยมีร่างกายแข็งแรง ออกกำลังกายได้เช่นคนปกติ จึงอนุญาตให้เดินทางกลับไปพักฟื้นอยู่บ้านได้” นพ.วรกาลกล่าว
สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หญิงรายนี้ เป็นผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 2 ของ จ.นครพนม ทำงานเป็นพริตตี้สาวในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่ จ.ภูเก็ต หลังสถานบันเทิงได้หยุดพักงาน เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพียงคนเดียว เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 เพื่อกลับภูมิลำเนา บ้านดอนถ่อน หมู่ 12 ต.บ้านเอื้อง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม จนกระทั่งมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ก็ได้รับยาต้านเชื้อโควิดจนครบและหายเป็นปกติ
ผ่านกักตัว 14 วันกลับบ้านได้
ที่ศูนย์พัฒนาการสาธารณสุขมูลฐานภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นสถานที่กักกันตัวของจังหวัดนครศรีธรรมราช(Local Quarantine) นายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการสาธารณสุขมูลฐานภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้แทนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช ได้มอบหนังสือรับรองให้แก่ผู้ผ่านกระบวนการกักกันตัว สำหรับผู้มีสัญชาติไทยที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรและเข้ามาพักอาศัยในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช ครบ 14 วัน จำนวน 5 ราย เพื่อนำเอกสารดังกล่าวไปใช้แสดงต่อนายจ้าง กำนันผู้ใหญ่บ้าน หรือครอบครัว ว่าผ่านกระบวนการกักกันตัวครบ 14 วันตามหลักการแล้ว เป็นผู้ที่ปลอดเชื้อปลอดโรคปลอดภัย อีกทั้งสร้างความมั่นใจต่อเพื่อนบ้านด้วย
รอง ผวจ.นครศรีธรรมราช และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้กล่าวแสดงความขอบคุณที่ทั้ง 5 คนได้ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตนตามมาตรการต่างๆ ที่ทางราชการกำหนด หลังจากนี้เมื่อกลับไปอยู่ที่บ้านกับครอบครัวแล้วตามปกติภายใต้วิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ก็ขอให้ปฏิบัติตนเหมือนกับที่อยู่ในศูนย์กักกัน เพื่อความไม่ประมาท ต้องสวมหน้ากากกอนามัยหรือหน้ากากผ้า ล้างมือบ่อยๆ กินร้อน ช้อนส่วนตัว เว้นระยะห่างทางสังคม ไม่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวช่วงเวลา 22.00-04.00 น. ในส่วนการออกกำลังกายด้วยวิธีการเดิน ถือว่าเหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ที่ผ่านการกักกันตัวทั้ง 5 คน เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากทำงานเป็นพนักงานขับรถแบ็กโฮที่เมืองทวายประเทศเมียนมาร์ ซึ่งทั้งหมดมีภูมิลำเนาในจังหวัดนครศรีธรรมราช
ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปราจีนบุรี แจ้งว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 9 เป็นหญิง อายุ 28 ปี เดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต กลับบ้านที่อำเภอศรีมหาโพธิ หลังจากที่ จ.ปราจีนบุรีไม่พบผู้ป่วยมาระยะเวลา 29 วัน ข้อมูลล่าสุดทำให้ จ.ปราจีนบุรี มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 208 คน ไม่พบเชื้อ 203 คน รอผล 5 คน ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อ รวม 9 ราย รักษากลับบ้านแล้ว 7 ราย เสียชีวิต 1 ราย ขณะนี้กำลังรักษาอยู่ โรงพยาบาล 1 ราย (รายที่ 9)
สำหรับไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายที่ 9 นี้ วันที่ 4 พ.ค. เวลา 07.00 น.เดินทางออกจาก อ.ป่าตอง โดยรถตู้รับจ้างมีผู้โดยสารรวม 6 คน เวลาช่วงพลบค่ำ เดินทางถึง จ.นนทบุรี และเดินทางเข้าพักที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี
วันที่ 5 พ.ค.63 เวลา 10.00 น. เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จากคอนโดมิเนียมไปที่โรงพยาบาลศรีมหาโพธิ โดยได้โทร.นัดหมายกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลไว้แล้ว เวลา 13.00 น. เข้ารับการตรวจสุขภาพ พบว่ามีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีอาการป่วยใดๆ และรอรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เวลา 15.30 น. เก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และกักตัวที่โรงพยาบาลศรีมหาโพธิ
วันที่ 6 พ.ค.63 เวลา 10.00 น. ผลตรวจพบติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
วันที่ 7 พ.ค.63 ผลตรวจยืนยันพบติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ยืนยันจาก 2 แหล่ง) ผู้ป่วยยังไม่มีอาการ
ส่วนเพื่อนร่วมหอพักเดียวกัน 2 ราย เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่โรงพยาบาลป่าตองแล้ว สำหรับผู้ร่วมเดินทาง 5 คน อยู่ระหว่างติดตามเพื่อส่งตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และกักตัวคนขับรถตู้แล้ว ประสานคอนโดมิเนียมเฝ้าระวังและติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |