9 พ.ค.63 - นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาดังนี้

ขอเสนอผ่าทางตัน การบินไทย #ลงทุนน้อย# เพื่อไม่ให้เป็นภาระภาษีของประชาชนไม่รู้จบ จนมากเกินไป และเหมาะสมกับสภาพธุรกิจการบินปัจจุบันที่ยังกำไรยากมาก  ที่ทำให้คงอยู่เพราะ ประเทศไทยต้องมีสายการบินแห่งชาติ ดังนี้  1.ตั้ง บริษัท การบินแห่งประเทศไทย จำกัด ใหม่ รัฐถือหุ้น 100% ลงทุน 20,000 ล้านบาท    

2.เช่าเครื่องบิน เฉพาะ บินภายในประเทศ -ต่างประเทศ  จาก บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เดิม สัก ไม่เกิน 30 ลำ เล่นเฉพาะเส้นทางที่กำไร         

3.รับ นักบริหาร นักบิน แอร์ พนักงานส่วนต่างๆ เท่าที่จำเป็น เงินเดือนคงไม่เท่าเดิมที่เคยได้  ไม่เกิน 3,000 คน จาก การบินไทยเดิม           
ปล:ถ้าทำแบบนี้ งบดุล อย่างต่ำเท่าทุน อนาคตกำไรแต่ไม่มาก   การบินไทยเดิม ดำเนินการ  ดังนี้  1.ชดเชยเงินให้ นักบิน แอร์ พนักงานอื่นๆ กว่า 19,000 คน ตามหลักเกณฑ์ของพนักงานรัฐวิสาหกิจ

2.เครื่องบินที่เหลืออีก 74 ลำ ปล่อยเช่า และ ขายทรัพย์สินทิ้ง ใช้หนี้เก่า กว่า 240,000 ล้านบาท กับ เงินชดเชยพนักงานเก่าตามกฏหมาย                                                                         

การขาดทุนของ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ปี62 ขาดทุนร่วม 11,000 ล้านบาท ก่อนมีโควิด-19  เกิดจาก1.การทุจริตการจัดซื้อเครื่องบินโดยไม่คิด  ทุกยุค อาทิ ปี 46-48 เกินความจำเป็น2.การขายตั๋วผ่านตัวแทน เพราะมีส่วนต่าง3.การซ่อมบำรุง การจัดซื้ออะไหล่ ที่มีส่วนต่าง                                                 

4.จำนวนพนักงานที่มากถึง 22,300 คน เกินความจำเป็นของเนื้องาน กับ สภาพธุรกิจปัจจุบัน 5.เงินเดือนที่จ่ายให้ฝ่ายบริหารอัตราสูงเกินความจำเป็น6.มีการแข่งขันในธุรกิจการบินสูง 7.หนี้สินเก่ากว่า 240,000 ล้านบาท รวมภาระดอกเบี้ย                      

เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปี 63 ของ บริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) ถ้ารัฐไปแบกรับต่อ   
1.โควิด-19 ยังอยู่กับเราเลยสิ้นปี 63    2.รายจ่ายประจำคงตัวอยู่ประมาณเดือนละ 10,000 ล้านบาท หัก ค่าเชื้อเพลิงเครื่องค่าบินของนักบิน-แอร์-อื่นๆ เพราะหยุดบิน โดยแทบไม่มีรายได้เลย แสดงว่า ปีนี้น่าจะติดลบร่วม 100,000 ล้านบาท ทันที 3.ต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปี กว่าจะบินได้เต็ม 100% ลูกค้าคงต่ำลงกว่า 55%  4.ถ้ารอ อีก 2-3 ปี ผลขาดทุนจะเพิ่มขึ้นอีกถึง 200,000 ล้านบาท ไม่รวมหนี้สินเก่า 240,000 ล้านบาท ภาษีประชาชนคงรับไม่ไหว สู้เอาเงินภาษีประชาชนไปช่วยคนไทยได้มากกว่า 13 ล้านคน