8 พ.ค. 63 - นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาดังนี้
#การบินไทยต้องปรับสู่ New Normal
ผมเห็นด้วยกับกับการฟื้นฟูการบินไทยให้เป็น‘บริษัทชั้นนำ’ ของประเทศ
แต่หากจำเป็นต้องอุ้มด้วยเงินภาษีข้อแลกเปลี่ยนคือ
1. การบินไทยต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
2. ผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้เดิมต้องแบ่งรับภาระความเสียหายเงินภาษีที่จะใช้ต้องมีสิทธิเหนือเงินส่วนอื่นทั้งหมดในบริษัท
ก่อนโควิดการบินไทยก็มีสถานะทางการเงินที่ร่อแร่อยู่แล้วขาดทุนปีละกว่าหมื่นล้านทั้งๆที่ตั๋วโดยสารแพงกว่าคนอื่นแถมอัตราผู้โดยสารก็อยู่ในเกณฑ์ดีส่วนหนึ่งเป็นเพราะมาตรฐานบริการที่ดี
แต่เมื่อโลกมีวิกฤตเราต้องวิเคราะห์กันต่อว่าหลังโควิดจะเป็นอย่างไร?
จำนวนผู้โดยสารจะลดลงเท่าไรและบริษัทจะต้องปรับลดค่าใช้จ่ายอย่างไรถึงจะอยู่รอด
ลำพังเพียงการบริการที่ดีไม่สามารถช่วยบริษัทได้แต่ต้องมีระบบบริหารที่มีประสิทธิภาพด้วย
ความเป็นจริงทางการเงินสถานะวันนี้ของการบินไทยจะเรียกว่า‘เจ๊ง’ ก็ไม่ผิดครับเพราะทุนติดลบเงินสดก็ติดลบ(ซึ่งแม้รวมวงเงินกู้ทั้งหมดที่มีก็ยังไม่พอใช้เกินสิ้นเดือนหน้า) ดังนั้นตามปกติหากใครจะใส่เงินเข้าบริษัทเพิ่มเติมเขาต้องตั้งคำถามกับผู้บริหารผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้เดิมว่า‘แล้วพวกคุณจะช่วยรับภาระอย่างไร?’
คงไม่มีใครให้เงินเฉยๆไม่ว่าจะเป็นในรูปของหุ้นเงินกู้หรือการค้ำประกันเงินกู้(โดยเฉพาะถ้าเงินนั้นเป็นเงินภาษีประชาชน)
ทางIATA ประมาณการณ์ว่ารายได้ธุรกิจการบินทั่วโลกจะลดลง55% ในปี2020 และจะใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะฟื้นและล่าสุดสายการบินBritish Airways ประกาศลดพนักงาน12,000 คนหรือ30% ของพนักงานทั้งหมดส่วนSAS มีแผนลดพนักงาน5,000 คน
ท่านนายกฯบอกว่าการอุ้มครั้งนี้‘เป็นครั้งสุดท้าย’ ผมมองน่าจะเป็นเพราะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์แนวคิดที่จะคำ้ประกันเงินกู้50,000 ล้านอย่างกว้างขวาง
ซึ่งหากท่านนายกฯจะช่วยจริงท่านควรต้องยืนยันชัดๆให้ผู้บริหารผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ทุกคนมีส่วนช่วยลดภาระของบริษัทลงด้วย
ผมขอยกตัวอย่างกรณีที่Norway รัฐบาลเขาได้กำหนดสัดส่วนทุนต่อหนี้ขั้นต่ำไว้ที่8% เป็นเงื่อนไขก่อนที่รัฐจะยอมค้ำประกันหนี้ใหม่ให้เจ้าหนี้เดิมจึงต้องยอมแปลงหนี้เป็นทุนและนอกจากนั้นยังมีเงื่อนไขให้ผู้ถือหุ้นเดิมเพิ่มทุนก่อนด้วย
ทั้งหมดนี้เพื่อให้มีการแบ่งรับภาระไม่ใช่ได้เงินภาษีไปโดยไม่ต้องร่วมรับผิดชอบซึ่งนี่คือหลักการที่ไม่ถูกต้องนัก
ท่านนายกฯคงทราบดีว่าปัจจุบันการบินไทยมีค่าใช้จ่ายอยู่เดือนละกว่า1 หมื่นล้าน(โดยไม่มีรายได้) ดังนั้นหากไม่สามารถกลับมาสร้างรายได้โดยเร็วหากไม่มีการปรับโครงสร้างทุนและหนี้สินของบริษัทวงเงิน50,000 ล้านนี้ไม่นานก็หมดซึ่งก็จะกลายเป็นการสูญเสียเพิ่มเติมของรัฐอย่างสูญเปล่า
ท่านนายกฯได้รับรู้ปัญหาการบินไทยมา5 ปีแล้ว
ท่านได้ตั้งคณะกรรมการซูเปอร์บอร์ดขึ้นมาเพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูการบินไทยและรัฐวิสาหกิจอื่นๆ แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นคณะนี้ยังแทบไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถเลยด้วยซ้ำไป
‘ครั้งสุดท้าย’ นี้จะมีอะไรแตกต่างอย่างไรครับ?
คนไทยมีสิทธิได้รับคำชี้แจงว่าท่านนายกฯมีแผนอะไรที่จะทำให้การบินไทยดีขึ้นได้จริง
เราทุกคนเฝ้ารอเพื่อเอาใจช่วย“การบินไทย” ในฐานะลูกค้าที่ซื่อสัตย์
แต่ในฐานะผู้เสียภาษีหากไม่มีความชัดเจนว่าการบินไทยจะฟื้นฟูอย่างไรรัฐบาลก็ไม่ควรเข้าไปแบกภาระเพิ่มเติม
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |