ดีเดย์14พ.ค.ประเดิมขายบอนด์”เราไม่ทิ้งกัน”หวังระดมเงินแจก 5,000 บาทให้ประชาชน


เพิ่มเพื่อน    

 

นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง เปิดเผยว่า คลังเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “เราไม่ทิ้งกัน” ในปีงบประมาณ 2563 แบบไร้ใบตราสาร (Scripless) โดยมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อบรรเทาผลกระทบ และแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามแผนงานโครงการของรัฐบาล ภายใต้ พ.ร.ก. กู้เงินวงเงินไม่เกิน  1 ล้านล้านบาท

โดยจะเริ่มจำหน่ายในวันที่ 14 พ.ค.2563 เวลา 8.30 น. วงเงินไม่เกิน 5 หมื่นล้านบาท อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได รุ่นอายุ 5 ปี เฉลี่ย 2.40% และรุ่นอายุ 10 ปี เฉลี่ย 3.00% ต่อปี โดยคาดว่าจะขายหมดก่อนวันที่ 14 พ.ค. และกระทรวงการคลังพร้อมที่จะเปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ “เราไม่ทิ้งกัน” รุ่น 2 ในช่วงที่เวลาที่เหมาะสม

นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.)  เปิดเผยว่า พันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “เราไม่ทิ้งกัน” จะจำหน่ายขั้นต่ำหน่วยละ 1 พันบาท แบ่งออกเป็น 3 ช่วง โดยสัปดาห์ที่ 1 จำหน่ายให้ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป แบบจำกัดวงเงิน 2 ล้านบาทต่อคนต่อธนาคาร สัปดาห์ที่ 2 จำหน่ายให้ประชาชนรายย่อย และสัปดาห์ที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.เป็นต้นไป เปิดให้ประชาชนทั่วไปและนิติบุคคลที่ไม่แสวงหาผลกำไรเข้าซื้อได้แบบไม่จำกัดวงเงิน

โดยซื้อผ่าน BOND DIRECT Application และช่องทางของธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทยธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ สรุปเงื่อนไขการจำหน่ายได้ ดังนี้

สำหรับพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “เราไม่ทิ้งกัน” วงเงินจำหน่าย วงเงินไม่เกิน 5 หมื่นล้านบาท สามารถออกเพิ่มเติมได้วงเงินตาม พ.ร.ก. กู้เงินโควิด-19 ไม่เกิน 2 แสนล้านบาท รุ่นอายุ 5 ปี และ 10 ปี มีอัตราดอกเบี้ย  รุ่นอายุ 5 ปี  อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได  ปีที่ 1 ที่ 2.00% ต่อปี ปีที่ 2-3 ที่ 2.25% ต่อปี ปีที่ 4 ที่ 2.50% ต่อปี ปีที่ 5 ที่ 3.00% ต่อปี รวมอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย  2.40%ต่อปี

ส่วนรุ่นอายุ 10ปี  อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได  ปีที่ 1 – 3 อัตราดอกเบี้ย ที่ 2.50% ต่อปี ปีที่ 4–8 ที่ 3.00% ต่อปี ปีที่ 9 ที่ 3.50% ต่อปี และปีที่ 10 ที่ 4.00% ต่อปี รวมอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3.00% ต่อปี โดยทั้ง 2 รุ่นมีระยะเวลาการจำหน่าย 14 พ.ค.–10 มิ.ย.2563

สำหรับวันที่จำหน่าย ผู้มีสิทธิ์ซื้อ และวงเงินซื้อขั้นต่ำ-ขั้นสูง แบ่งเป็น 3 ช่วง ช่วงที่ 1 วันที่ 14 – 20 พ.ค. 2563 ขายบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ ในประเทศไทยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ขายหน่วยละ 1 พันบาท ซื้อขั้นต่ำได้ 1 หน่วย แต่ไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อราย รวมทุกรุ่น ต่อธนาคาร, ช่วงที่ 2 วันที่ 21 – 27 พ.ค.ขายให้บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย และ ช่วงที่ 3 วันที่ 28 พ.ค. –10 มิ.ย.2563  ขายให้บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย และนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร ได้แก่ สภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ และนิติบุคคลอื่น

การจ่ายดอกเบี้ย จะจ่ายปีละ 2 งวด ได้แก่ วันที่ 14 พ.ย.และวันที่ 14 พ.ค.ของทุกปีวันครบอายุไถ่ถอน 14 พ.ค. 2568 และ 14 พ.ค.2573 ช่องทางการจำหน่ายผ่าน BOND DIRECT Application : ชำระเงินผ่าน Mobile Application และ เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย ATM/Counter/Internet Banking/Mobile Application ของธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย กสิกรไทย และไทยพาณิชย์

“คาดว่าจะขายได้หมด 5 หมื่นล้านบาทก่อนวันที่ 10 มิ.ย.2563 โดยเฉพาะกลุ่มสูงอายุที่อาจจะซื้อไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของวงเงิน เนื่องจากให้ผลตอบแทนสูงตั้งแต่จาก 2558 ที่ขายพันธบัตรออมทรัพย์รุ่น สุขกันเถอะเรา โดยเงินกู้ส่วนนี้จะนำไปใช้ในการแจกเงินตามมาตรการเยียวยาเราไม่ทิ้งกันในเดือน มิ.ย. และแจกเงินให้เกษตรกรขึ้นอยู่กับความต้องการใช้เงิน  เมื่อรวมก่อนหน้านี้ที่คลังได้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินกู้จากธนาคารไปแล้ว 2 ครั้ง รอบแรก 7 หมื่นล้านบาท และ รอบที่ 2 อีก 5 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมกับการออกพันธบัตรทำให้คลังกู้จาก พ.ร.ก.ไปแล้ว 1.7 แสนล้านบาท” นายแพตริเซีย กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"