0 ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net หายใจโล่งไปตามๆ กัน หลังผลตรวจรอบ 3 จากห้องแล็บกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์การันตี 40 รายที่ยะลาปลอดเชื้อโควิด ศบค.ค่อยกล้าขยับคลายล็อกเฟส 2 สมช.แจงไทม์ไลน์ต่อที่ประชุมชุดใหญ่ที่มี "บิ๊กตู่" ในฐานะ ผอ.ศูนย์นั่งหัวโต๊ะ เริ่มจาก 8-12 พ.ค. รับฟังความคิดเห็น ดูชุดข้อมูล สถิติ สถานการณ์ และความเห็นต่างๆ จากส่วนราชการ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง จากนั้นวันที่ 13 พ.ค.จะมีการซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการ วันที่ 14 พ.ค.จะมีการยกร่างมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 เสนอนายกฯ ก่อนจะคลายล็อกในวันที่ 17 พ.ค. โฆษก ศบค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ย้ำชัด "ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไร ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ไม่ทะลุขึ้นแบบผิดปกติในนั้น ในวันที่ 17 พ.ค.จะเริ่มออกมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 แต่กว่าจะวันที่ 17 พ.ค. เราต้องช่วยกัน เพื่อให้อีกสิบวันข้างหน้าเราจะได้เข้าสู่มาตรการระยะที่ 2 จะเป็นการผ่อนปรนกิจการขนาดใหญ่ และกิจการที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต ดังนั้นเมื่อผ่อนปรนระยะที่ 1 แล้วไม่ทำให้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ระยะที่ 2 ต้องเกิดขึ้นแน่นอน จึงต้องทำวันนี้ให้ดี ซึ่งขึ้นอยู่กับทุกคน" ฟังแบบนี้ภาคเอกชนค่อยใจชื้น โดยเฉพาะบรรดาห้างสรรพสินค้าต่างๆ เตรียมตัวเปิดกิจการอีกครั้ง หลังจากหยุดยาวไปแล้วเดือนกว่าตั้งแต่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา

            ๐ เยียวยา 5 พันบาท ในโครงการเราไม่ทิ้งกัน จ่ายแล้ว 11 ล้านคน จากผู้ลงทะเบียนแล้วผ่านเกณฑ์จำนวน 13.4 ล้านคน โฆษกคลัง "ลวรณ แสงสนิท" อัพเดตสถานการณ์ล่าสุดที่ทำเนียบรัฐบาล ดูเหมือนมีความคืบหน้าเป็นไปอย่างราบรื่น ช่างสวนทางกับสถานการณ์ที่กระทรวงการคลัง ภาพประชาชนแห่กันมาร้องเรียนชวดเงิน 5 พันแน่นขนัด ท่ามกลางมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ถึงแม้จะเปลี่ยนสถานที่รับเรื่องร้องเรียนมาที่กรมประชาสัมพันธ์ ปรากฏว่าหางแถวประชาชนที่แห่กันมาตั้งแต่ตี 4 ก็ทะลักยาวมาถึงหน้าประตู 5 ของกระทรวง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาจัดระเบียบแจกบัตรคิวนับพันใบ สุดท้ายเจ้ากระทรวงต้องยอมเลื่อนเส้นตายจากเดิมที่จะปิดรับคำร้องเรียนในวันศุกร์นี้ไปเป็นวันศุกร์หน้าแทน นี่คือหนังตัวอย่างจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน หวังว่าภาครัฐคงไม่ปล่อยให้บทเรียนสูญเปล่า อย่าให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับการเยียวยาเกษตรกร 10 ล้านคนที่เพิ่งเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com ประเดิมจ่ายเงินงวดแรก 15 พ.ค.นี้

            ๐ เป็นอย่างที่คนมักพูดกัน การเมือง ใครเข้ามาแล้ว หากไม่มีเรื่องให้ช้ำใจ ต้องออกจากการเมืองแบบเจ็บช้ำ ส่วนใหญ่มักติดใจทุกราย เข้าแล้วออกยาก ยิ่งรายไหนเข้ามาแล้ว มีอำนาจ ได้ชื่อเสียง เป็นที่สนใจของสังคมและสื่อ เรียกได้ว่า พอเข้ามาแล้วการเมืองมันอยู่ในสายเลือด แม้แต่คนที่ต้องโดนเว้นวรรคการเมืองก็ยังไม่เว้น ก็ดูอย่างอดีตสามแกนนำพรรคอนาคตใหม่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ-ปิยบุตร แสงกนกกุล-พรรณิการ์ วานิช” นั่นเป็นไง ขนาดโดนศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิการเมืองสิบปี จากคดียุบพรรคอนาคตใหม่เรื่องเงินกู้ 191 ล้านบาท แต่ทั้งสามคนก็ไม่ยอมง่ายๆ “ปิยบุตร-ช่อ" เข้าสภาไปได้โลดแล่นอยู่ในสภาสองสมัยประชุม ติดใจมาถึงทุกวันนี้ ส่วนเสี่ยเอก ธนาธร ได้เข้าประชุมสภาฯ แค่ครั้งเดียว ไม่ถึงสิบนาที ตอนวันโหวตเลือกประธานสภาฯ ก็ยังไม่ยอมง่ายๆ การตั้ง “คณะก้าวหน้า” เพื่อทำการเมืองนอกรัฐสภาของธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์ เรียกได้ว่านอกจากเพื่อสร้างพื้นที่ให้กับตัวเองแล้ว ก็เพื่อหวังผลทางการเมืองในอนาคตแน่นอน ที่น่าห่วงก็คือ “พรรคก้าวไกล” ภายใต้การนำของ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรค ที่ดูไปแล้วเป็นหัวหน้าพรรคมารับไม้ต่อจากธนาธร ผ่านมาร่วมสองเดือนกว่าพรรคก้าวไกลยังหาจุดขายไม่ค่อยเจอ ความโดดเด่นของพิธาห่างชั้นจากธนาธร-ปิยบุตรมาก ทำให้บทบาทของพรรคก้าวไกลทั้งในสภาและนอกสภา ต่อจากนี้เผลอๆ จะโดน “คณะก้าวหน้า” แย่งซีนไปเสียด้วยซ้ำ และหากสถานการณ์ของพรรคก้าวไกลไม่กระเตื้องขึ้น ก็น่าห่วงว่าสิ่งที่พรรคเคยตระเตรียมไว้สมัยยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ และจะมาสานต่อในนามพรรคก้าวไกล เช่น การส่งคนลงเลือกตั้งในสนามท้องถิ่นทั่วประเทศ โดยเฉพาะผู้ว่าฯ กทม.-นายก อบจ. ที่คนเคยมองว่าคนของพรรคอาจจะมาแรง ถึงเวลานั้นอาจแป้ก ก็เป็นได้....

 ลี้คิมฮวง