ในขณะที่ทั่วโลกยังมะงุมมะงาหราในการป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ให้อยู่ในวงจำกัด แต่ดูเหมือนฟากฝั่งสหรัฐอเมริกาและยุโรปยังคงเป็น “ลิงแก้แห” อยู่ เพราะตัวเลขทั้งผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตยังคงมาแรงแซงโค้ง แต่ก็คงไม่มีชาติไหนเกินหน้า “ตำรวจโลก” ภายใต้บังเหียน “โดนัลด์ ทรัมป์” ผู้ชูสโลแกนสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับอเมริกาอีกครั้ง เพราะตอนนี้ต้องบอกว่าเป็นผู้นำเสียจริงทั้งในจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีกว่า 1.2 ล้านคน หรือเกือบ 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อทั่วโลก และผู้เสียชีวิตกว่า 7 หมื่นรายที่นำโด่งแบบใครก็ไล่ไม่ทัน...๐
ในขณะที่อันดับผู้ติดเชื้อนั้น “สเปน” ยังคงอันดับ 2 อยู่ แต่ในเรื่องตัวเลขผู้เสียชีวิตนั้นกลับถูก “อังกฤษ” ลูกไล่ของอเมริกาที่มีผู้ติดเชื้อในอันดับ 4 กลับมีตัวเลขผู้เสียชีวิตแซงขึ้นไปเป็นอันดับสอง จนได้...๐
แต่ที่ต้องจับตามองอย่างมากคือ “รัสเซีย” ของ “วลาดิมีร์ ปูติน” ซึ่งเดิมมีผู้ติดเชื้อวันแรกในวันที่ 15 ก.พ. จำนวน 2 คน แต่หลังจากช่วงกลางเดือน เม.ย.เป็นต้นไป ตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับพุ่งทะยานยิ่งกว่าหนัง “FAST and Furious” เสียอีก เพราะขยับมาอยู่ที่อันดับ 7 ในท็อปเท็น และดูแนวโน้มแล้วต้องบอกว่าอาจไต่ทะยานมาอยู่ท็อปไฟว์ได้ภายใน 1-2 อาทิตย์นี้ก็เป็นได้...๐ แตกต่างจากประเทศในแถบ “อาเซียน” ซึ่งแม้ “สิงคโปร์” จะเป็นเจ้าแห่งผู้ติดเชื้อ แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตกลับคุมได้อยู่หมัดที่ 18 คน แบบไม่ขยับเพิ่มแต่อย่างใด ในขณะที่ไทยเองนั้นก็ต้องบอกว่ามีข่าวดีมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนผ่อนปรนมาตรการจนมาถึงล่าสุด เพราะมีผู้ป่วยหลักหน่วยมาต่อเนื่อง โดยมีเพิ่มเพียง 1 คนมาสองวันติดแล้ว และล่าสุดผลการตรวจสอบรอบที่ 3 ของ 40 คนที่จังหวัดยะลา ก็ยิ่ง ตอกย้ำมาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” จริงๆ เพราะผลตรวจสอบเป็นลบ...๐
ถือเป็นเรื่องเข้าใจได้ว่าผลการตรวจสอบอาจมีความผิดพลาดได้ แต่ที่ต้องติเพื่อก่อคือการแถลงการณ์แบบทำให้คนไทยทั้งประเทศหัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เพราะเป็นตัวเลขที่พรวดมาแบบให้ใจเสียอย่างมาก แต่หลังผล “แล็บที่ 3” ยืนยันอีกรอบก็ทำให้โล่งใจ แต่สงสัยอย่างมากที่ “นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กลับบอกว่าเป็นความผิดพลาดเล็กน้อย แหม! ตัวเลขถึง 40 คนไม่ถือว่าน้อย การปกป้องของอธิบดีนั้นเข้าใจได้ แต่ก็ต้องยอมรับความเป็นจริงก่อน ไม่เช่นนั้นความน่าเชื่อถือที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของบรรดาศูนย์ในภูธรต่างๆ จะเกิดรอยด่างพร้อยได้นะท่าน...๐
แล้วก็เป็นเรื่องจนได้ เมื่อเด็กนักเรียนในจีนถึง 2 รายได้เสียชีวิตขณะใส่หน้ากากอนามัยออกกำลังกายเพื่อทดสอบร่างกาย ซึ่งก็ทำให้ “นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์” แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบทางเดินหายใจ รพ.วิชัยยุทธ โพสต์เฟซบุ๊กแนะนำในเรื่องการสวมหน้ากากเวลาออกกำลังกายไว้อย่างน่าสนใจว่า ไม่ควรสวมใส่ N95 หรือหน้ากากแพทย์ โดยแนะนำใส่ "หน้ากากผ้า” จะดีกว่า...๐
เช่นเดียวกับ “นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน” โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ก็บอกในท่วงทำนองเดียวกันว่าเมื่อไปสวนสาธารณะ อย่าวิ่งเลย ควรใส่หน้ากากอนามัยแล้วเดินมากกว่า 30 นาทีขึ้นไปก็ถือว่าได้เหงื่อแล้ว...๐ พูดถึงเรื่องโควิด-19 ไม่พูดถึงเรื่องเยียวยาก็ไม่ได้ เพราะล่าสุดดูเหมือนจะถึงคิว “พระสงฆ์องคเจ้า” แล้ว ซึ่งน่าสนใจอย่างมากในเรื่องเงินเยียวยา 2 พันบาทนั้นจำเป็นหรือไม่อย่างไร เพราะตามปกติ “พระสงฆ์” ก็ไม่ได้มีรายได้อยู่แล้ว ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่าแต่ละวัดนั้นก็เรียกว่า “อู้ฟู่” ร่ำรวยอย่างมาก การเยียวยาควรจะเป็นเรื่องของ “น้ำ-ไฟ” ให้วัดดีกว่าหรือไม่ และอย่าลืมว่าประเทศไทยมีความหลากหลายทางศาสนา หากช่วยแต่พระสงฆ์อย่างเดียว ในขณะที่ “บาทหลวง-อิหม่าม-หลวงจีน” จะดำเนินการอย่างไร...๐
แต่ที่ยังต้องท้วงติงอยู่อีกอย่างต่อเนื่อง คือการทำงานของบรรดารัฐวิสาหกิจต่างๆ โดยเฉพาะ ขสมก. เพราะดูเหมือนยังไม่มีการปรับเปลี่ยนระยะเวลาการเดินรถแต่อย่างใด ทำเหมือนไม่เห็น “คนจน” หรือคนไม่มีรถอยู่ในหัว เพราะยังให้รถประจำทางคันสุดท้ายวิ่งในช่วงเวลา 19.30-20.00 น.อยู่ตามเดิม ทั้งที่เป็นที่พึ่งของคนรายได้น้อยที่ไม่สามารถทำงานที่บ้าน เพราะมีรายได้รายวัน แต่กลับต้องมาพลาดแล้วต้องหันไปพึ่งวินมอเตอร์ไซค์หรือแท็กซี่ในการเดินทางเพื่อไม่อยากฝ่าฝืนเคอร์ฟิว หากกระทรวงคมนาคมไม่มีการปรับ ไม่มีการแก้ เชื่อได้ว่าอีกไม่นานจะเป็นปัญหาแน่นอน เพราะต้องไม่ลืมว่า “เคอร์ฟิว” ยังอยู่จนถึงสิ้นเดือน พ.ค.นี้ ก็ยิ่งสร้างปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ ขสมก.ก็ได้รับเงินเดือนจากเงินภาษีของชาวบ้านร้านถิ่นแท้ๆ ที่สำคัญเงินเดือนก็ไม่ลด แต่การทำงานกลับลดลง อย่างนี้เรียกว่ายุติธรรมต่อคนหาเช้ากินค่ำหรือลุงตู่...๐.
...ท.ศักดิ์
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |