6 พ.ค.63 - ที่ สภ.เมืองขอนแก่น นายสุดปิติ เหียงมณี อายุ 39 ปี ชาว ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น อีกครั้งเพื่อติดตามความคืบหน้า หลังจากถูก น.ส.ลักขณา กริ่มใจ ชาว อ.องครักษ์ จ.นครนายก แอบอ้างใช้โปรไฟล์ในเฟซบุ๊กของสาวหุ่นดี มาหลอกเอาเงินไปได้กว่า 100,000 บาทนานกว่า 2 ปี ก่อนที่จะจับได้ว่าถูกหลอกและได้มีการเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อเอาผิดกับ น.ส.ลักขณา ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่นนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฎเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้น เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชังหรือได้รับความอับอาย

พ.ต.ท.จตุเรศ ดอนอ่อนเบ้า สว.(สอบสวน)สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ภายหลังจากที่ สภ.เมืองขอนแก่นได้ออกหมายเรียกหญิงดังกล่าวมาพบตามขั้นตอนและแนวทางการสอบสวนนั้น ทราบว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.องครักษ์ จ.นครนายก ตามหมายจับของ สน.ดินแดง ซึ่งในส่วนของ สภ.เมืองขอนแก่นนั้น ขณะนี้เตรียมขออำนาจศาลจังหวัดขอนแก่นเพื่อออกหมายจับในวันพรุ่งนี้ และเมื่อออกหมายจับแล้วก็จะประสานทางตำรวจ สน.ดินแดง เพื่อขออายัดตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองขอนแก่น

โดยดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฎเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้น เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชังหรือได้รับความอับอาย ตามขั้นตอนทันที

ขณะที่ นายสุดปิติ กล่าวว่า หลังจากทราบว่า น.ส.ลักขณา เข้ามอบตัวที่ สภ.องครักษ์ ก็เชื่อว่าในส่วนของ สภ.เมืองขอนแก่น ก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งในทางคดีนั้นขอปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่ความคิดเห็นส่วนตัวในขณะนี้ กลัวว่าการเข้ามอบตัวของผู้ต้องหาจะเป็นการเข้ามอบตัวเพื่อลดกระแสสังคมหรือไม่ เพราะหากกระแสข่าวหายไปเกรงว่าจะมีการช่วยเหลือคนผิด ก็อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

"เรื่องที่เกิดขึ้นผมไม่ได้โกรธแต่ทำผิดก็ต้องได้รับโทษ ส่วนในเรื่องของการวิพากษ์วิจารณ์หรือด่าตนเองว่าโง่บ้าง ควายบ้าง ที่โดนหลอก จริงๆแล้วอยากให้อ่านรายละเอียดให้ครบถ้วน ให้เกิดการสังเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดก่อนที่จะแสดงความคิดเห็น เพราะผมบอกมาตลอดว่า เมื่อรู้ตัวว่าโดนหลอกก็หยุดที่จะให้เงินและสืบเสาะหาข้อมูลของหญิงคนนี้ว่าเป็นใคร แล้วใช้เฟซบุ๊กใครมาแอบอ้าง กระทั่งรู้ว่าเป็นใคร ก็ได้มีการเก็บคลิปเสียงรวบรวมหลักฐานจนเจ้าตัวรับสารภาพเองว่าหลอกจริง พอได้หลักฐานตนเองก็ได้นำหลักฐานที่มีทั้งหมดเข้าแจ้งความทันที เพื่อให้กระบวนการทางกฎหมายสามารถเอาผิดได้อย่างดิ้นไม่หลุด"