ภาพดวงเมือง
พระราหูจร(8)เดินอยู่ในราศีกรกฎรออยู่
พระอังคารจร(3)เริ่มเดินในราศีพิจิกทำมุมร่วมธาตุกับพระราหูวันที่ 17มกราคม 2561เป็นต้นไป
พระอังคารจร(3)เล็งใส่พระอังคารดวงเดิมของเมือง(๓)
พฤหัสบดีจร(5)ที่ราศุตุลย์
ตามหลักโหรด้านอุตุนิยมวิทยาที่ครูโหรอุตรภัทร์ หรืออาจารย์บรรเทา จันทรศรผู้ล่วงลับให้ไว้คือพระอังคาร(๓)เป็นดาวธาตุลมกรดเป็นธาตุลมเล็กหรืออนุกธาตุ ขณะที่พระราหู(๘)ก็เป็นดาวธาตุลมแต่เป็นลมเพลมพัดถือเป็นธาตุลมใหญ่หรืออธิกธาตุ
ครั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่พระอังคารและพระราหูจรโคจรถึงกัน เมื่อนั้นจะก่อให้เกิดลมพายุ หรือลมมรสุมขึ้นเช่นเมื่อเร็วๆนี้ ขณะที่พระราหูจรเริ่มเดินจากราศีสิงห์เข้าใกล้ขอบเขตของราศีกรกฎ ซึ่งเป็นราศีต้นธาตุน้ำขณะที่พระอังคารจรเดินรออยู่ในราศีกรกฎคอยอยู่ก่อนแล้วนั้น พายุโซนร้อนเซินกาได้ก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้ตอนบน-ขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามเคลื่อนเข้าสุวรรณเขตของลาวแล้วกลายเป็นหย่อมความกดอากาศกำลังแรงปกคลุมภาคอีสานของไทยเมื่อวันที่26 กรกฎาคม 2560
ผลจากหางเซินกาคือเกิดฝนตกหนักทางภาคเหนือ-อีสาน-บางส่วนของภาคตะวันออกและกลางของไทย ระหว่าง 26-29กรกฎาคม 2560 หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมโดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดสกลนครน้ำจากหนองหาน และอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นที่สันเขื่อนเสียหายทะลักท่วมจังหวัดชนิดเลวร้ายที่สุดในรอบ43ปีเลยทีเดียว
ในทางอุตุนิยมวิทยาก็มีการพยากรณ์อากาศล่วงหน้า ส่วนในทางโหรเป็นเพราะพระอังคารจรกับพระราหูจรเดินอยู่ใกล้กันในระดับที่เรียกว่าร่วมราศีกันนั่นเอง
และเร็วๆวันนี้ยังมีอีกหนึ่งปรากฏการณ์ของดาวสองดวงนี้ที่อาจจะทำให้เกิดพายุได้แต่ผู้เขียนเอง ก็ชั่งใจอยู่นานว่าสมควรจะทำนายไปออกไปหรือไม่ว่าเพราะสถานการณ์ขณะนี้น่าจะหมดฝนแล้ว แม้แต่ภาคใต้ของไทยก็ดูจะเบาบางลงไป โดยเกณฑ์ดังกล่าวคือ
1.ขณะนี้พระราหูจร(8)ยังเดินอยู่ในราศีกรกฎ ธาตุน้ำ
2.ครั้นวันที่ 17 มกราคม 2561 เป็นต้นไปพระอังคารจร(3)จะยกจากราศีตุลย์เข้าราศีพิจิกธาตุน้ำอีก ทำมุมร่วมธาตุกับพระราหูจร ซึ่งจะเป็นสื่อให้เกิดพายุใหญ่เข้าไทยได้
โดยในอดีตที่ผ่านมาการร่วมธาตุกันดาวทั้งสองดวงนี้เคยส่งผลให้เกิดพายุเข้าไทยแล้วหลายครั้งเช่นรูทที่ขึ้นฝั่งสุราษฎร์ธานีเมื่อ26พฤศจิกายน 2513-เบกกี้เข้าไทยในระดับดีเปรสชั่นปลายสิงหาคม2533-เฟรดเข้าไทยที่นครพนม17สิงหาคม 2534-ฟอร์เรสที่เข้าไทยทางนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานีและพังงาเมื่อ15พฤศจิกายน 2535-ลินดาที่เข้าไทยทางทับสะแกประจวบคีรีขันธ์เมื่อ 4พฤศจิกายน 2540
เพียงแต่จะแตกต่างกันในจุดที่พายุเกิดและเข้าไทยตามความแตกต่างของแต่ละราศีที่ดาวทั้งสองเดินอยู่แล้วทำมุมร่วมธาตุกัน
3.ประกอบกับพระอาทิตย์จร(๑)-พระพุธจร(4)-พระศุกร์จร(6)เดินคลอเคลียอยู่ใกล้กันอันจะเป็นสื่อของการเกิดฝนไปถึงปลายเดือนมกราคม-ยาวไปถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์2561อีกต่างหาก
สรุปคือด้วยลีลาการเดินของดาวจรดังกล่าวผู้เขียนก็สงสัยว่าตั้งแต่ประมาณกลางเดือนมกราคม2561เป็นต้นไปจะมีพายุเข้าไทยได้หรือไม่ แม้จะเป็นทางภาคใต้ก็ตามเพราะน่าจะใกล้หมดฤดูฝนแล้ว แต่ก็ยังอยากจะเขียนถึงไว้ เผื่อจะมีปรากฎการณ์พายุประหลาดปลายฤดูให้ แปลกใจเล่นได้ตามอาการของมฤตยูเจ้าของอาเพศที่ทับลัคนาเมืองอยู่
หรือไม่หากไม่มีพายุเข้าระหว่างกลางเดือนมกราคม-ประมาณต้นเดือนมีนาคม 2561ก็ขอให้ระมัดระวังภัยอื่นๆอันเนื่องจากปรากฎการณ์ที่จะอุบัติเนื่องจากดาวสองดวงนี้คือ
1.ภัยทางอากาศ หรือจากที่สูง
2.ภัยจากลม แก๊ส ไฟ ควัน การระเบิด ที่จะปรากฎเป็นข่าวโดดเด่นขึ้นในเมืองอันเป็นผลเนื่องจากพระอังคารจรที่ราศีพิจิกเล็งใส่พระอังคารดวงเดิมดวงเมือง(๓)ที่ราศีพฤษภด้วยตามโฉลก..ภุมโม ภุมมะ เล็งกันนั้นจะเกิดการกลีกลำภัย อันตรายราวี ห่อนมีสุขใจ เรือนโรงร้านไฟ และไฟจะฟอนอาตมา…
3.กลุ่มบุคคลที่ควรระวังตัวในระหว่างนั้นคือคนสำคัญในเมืองในข่ายที่พระอังคารเป็นตัวแทนอยู่คือ ทหาร ตำรวจ นายช่าง วิศวกร หมอผ่าตัด หมอฟัน นักกีฬา นักเคมี ฯลฯเพราะราศีพิจิกที่พระอังคารเดินอยู่นี้คือภพที่แปดหรือมรณะดวงเมืองด้วย หรือไม่เราก็อาจจะได้เห็นความขัดแย้งอย่างน่าจับตามองในหมู่คนเหล่านี้ก็ได้
เมื่อได้อ่านบทความนี้แล้วก็อย่าจิตตกหรือกลัวกันมากเพราะนี่เป็นเพียงคำทำนาย ยิ่งเรื่องดินฟ้าอากาศควรจะฟังจากกรมอุตุนิยมวิทยาเป็นดีที่สุด
ส่วนทางโหรผู้เขียนก็หวังว่าพฤหัสบดีจรหัวหน้าเทวดาประจำเมืองที่กำลังคุ้มชะตาเมืองอยู่อย่างเจิดจ้าที่ราศีตุลย์จะทำให้เรื่องร้ายมากเป็นลดความร้ายแรงลง และเรื่องที่ไม่ร้ายมากก็อาจจะไม่เกิดเลยก็ได้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |