เจอร์เกน คล็อปป์ ลั่น ลิเวอร์พูล ต้องสู้ถวายชีวิต เพื่อปิดจ็อบให้ได้ หลังระเบิดฟอร์มได้ถูกใจ ไล่ถล่ม ทีมที่แกร่งที่สุดในโลกอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้อีกครั้ง ในเกมเลกแรก รอบควอร์เตอร์ไฟนอล ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อคืนวันพุธ
    อีกครั้งที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสียประตูจนรวน โดนไปถึง 3 ลูกภายในระยะเวลาห่างกันเพียงแค่ 19 นาทีเท่านั้นในครึ่งแรก ทำให้ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายกุมความได้เปรียบไว้ได้แบบไร้กังวลแล้วสำหรับความหวังที่จะทะยานเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก หลังสยบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้แบบราบคาบ 3-0 ในถิ่นแอนฟิลด์ สกอร์ที่ออกมาทำให้หลายคนค่อนข้างเซอร์ไพรส์ ไม่เว้นแม้แต่คล็อปป์ ที่เคยยกให้ ซิตี้ เป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก
    ซิตี้ โดนข่มขวัญตั้งแต่ก่อนจะมาถึงสนาม โดนแฟนบอลหงส์ ต้อนรับอย่างดุเดือดด้วยพลุไฟและปาขวดใสรถบัสของนักเตะอย่างบ้าคลั่ง แต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกินความคาดมาย ไม่ได้มีผลต่อสกอร์ที่ออกมา พร้อมยืนยันว่าทีมของตนยังคงมีโอกาสที่จะผ่านเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้าย
    "ทุกคนทำงานกันอย่างสุดยอดมาก เราเอาชนะทีมที่ดีที่สุดในโลกได้ ผมยังไม่คิดว่านี่จะคือผลงานที่ดีที่สุดของผมที่นี่ ผมไม่เคยได้มีส่วนกับทีมที่ดีที่สุดในโลก แต่ผมรู้เสมอว่ามันเป็นไปได้ที่จะชนะพวกเขา มันเกิดขึ้นได้ยาก เพราะพวกเขาแข็งแกร่งมาก"
    โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เปิดสกอร์แรกของเกมตั้งแต่นาทีที่ 12 เป็นประตูที่ 38 ของเขาในซีซั่น แต่โดนเปลี่ยนตัวออกเนื่องจากเจ็บต้นขา คล็อปป์ ยืนยันว่าอาการเจ็บไม่ได้รุนแรง แต่เรื่องที่ว่าเขาจะลงเตะในเกมเลกสองที่ เอติฮัด เลกที่สองได้หรือไม่นั้นต้องรอดูอีกครั้งแต่คงไม่มีปัญหา ส่วน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จะติดโทษแบนหลังจากได้รับใบเหลืองในช่วงท้าย สำหรับอีก 2 ประตูของทีมเจ้าบ้าน ได้จาก อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน น. 20 และ ซาดิโอ มาเน่ น.31