เอาจริง!'หมอปิยะสกล' เตรียมตั้งคณะทำงานศึกษา ‘กัญชา’เพื่อการแพทย์


เพิ่มเพื่อน    

5 เม.ย.61-ที่โรงแรมรามาการ์เด้นท์ วันที่ 4 เม.ย. ศ.คลินิก  เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงโอกาสที่ประเทศไทยจะวิจัยและพัฒนากัญชาเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ภายในงานประชุมวิชาการสมุนไพรแห่งชาติ ว่า    ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องปรับเพื่อพิจารณาว่า สิ่งใดที่จะเกิดประโยชน์กับคนไทย ซึ่งการวิจัยพัฒนาเราควรจะทำเนื่องจากมีศักยภาพเหมือนสมุนไพรทั่วไป  แต่มีกฎหมายที่ครอบไว้เนื่องจากเป็นสารเสพติด ซึ่งการปรับกฎหมายนั้นก็เพื่อให้วิจัยพัฒนา และทดลองในคน เพื่อนำไปสู่การสกัดมาใช้ทางการแพทย์ได้ ซึ่งเชื่อว่าไทยมีศักยภาพในการพัฒนาเรื่องนี้  และได้ปรึกษากันแล้วว่า เราจะตั้งคณะทำงานอย่างเป็นทางการขึ้น โดยดึงภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนักวิชาการ ทั้งคณะวิจัยของมหาวิทยาลัยรังสิต รวมทั้ง ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา   คาดว่าจะขอให้นพ.โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม(อภ.) เป็นประธาน

ด้านนพ.โสภณ กล่าวว่า ทางบอร์ดได้เดินทางไปที่ประเทศแคนาดา เพื่อศึกษาดูงาน ซึ่งโลกตะวันตกมีการพัฒนานำประโยชน์จากสารสกัดของกัญชาไปใช้ทางด้านการแพทย์   และด้านการผ่อนคลาย แต่ประเทศไทยคิด จะใช้เฉพาะด้านการแพทย์เป็นหลัก ประเด็นแรกที่ต้องมองนักวิชาการคงต้องช่วยว่ามีข้อบ่งชี้ที่จะใช้กัญชาทางการแพทย์มากน้อยเพียงใด 

ประเด็นแรก  คือ การรักษาโรคลมชัก โดยเฉพาะในเด็ก ยาที่มีอยู่บางครั้งไม่สามารถคุมการชักได้ ประเด็นที่ 2 คือโรคทางสมองอื่นๆ เช่น โรคพาร์กินสัน เมื่อได้ยาแผนปัจจุบันก็จะเกร็งจะแข็งไปหมด  ประเด็นที่ 3 ที่ต้องวิจัยพัฒนา โรคมะเร็ง ว่าจะใช้กัญชามาช่วยอย่างไร และประเด็นที่ 4  ลดความเจ็บปวดแทนการใช้มอร์ฟีน ซึ่งก็จะมีการทำงานผ่านคณะทำงานวิชาการ ซึ่ง ได้มีการติดต่อทางศ.นพ.ธีระวัฒน์ เช่นกัน

เรื่องนี้ในคณะกรรมการปฏิรูปด้านสาธารณสุขก็มีการหารือเรื่องนี้เช่นกันนอกจากนี้ในฐานะอภ.ก็ต้องมีการศึกษา ทั้งการพัฒนาสายพันธุ์ แม้ของไทยจะมีสายพันธุ์ดี ต่อมาเราก็ต้องมีการพัฒนาเรื่องสารสกัด ซึ่งไทยยังใช้เอทานอลในการสกัดสารกัญชา แต่แคนาดาใช้การสกัดที่เรียกว่า คาร์บอนไดออกไซต์  ซึ่งแคนาดามีโรงงานถึง 13 แห่ง มีประสบการณ์ในการผลิตสารสกัด 4 ปี   สิ่งสำคัญหากจะทำก็ต้องมีระบบการควบคุม ไม่ให้รั่วไหว ซึ่งมีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย.) หรือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) ดูแล

นพ.โสภณ กล่าวถึงเรื่องการควบคุมกัญชา ว่า  กฎหมายยาเสพติดมี 5 ประเภท  โดยประเภทที่ 2 สามารถนำมาทำเป็นยาได้ แต่ต้องมีข้อบ่งชี้ทางวิชาการ ซึ่งปัจจุบัน กัญชา อยู่ในประเภท 5 ที่ห้ามเด็ดขาด จึงไม่อาจนำมาศึกษาวิจัยในคนได้  ซึ่งทางอธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิตเสนอปลดล็อคก็น่าจะเป็นประเด็นนี้   ซึ่งทางกระทรวงยุติธรรม และ อย.พยายามปรับปรุงพ.ร.บ.ยาเสพติดอยู่    ให้เป็นประมวลกฎหมายยาเสพติด ก็จะแก้ในประเด็นนี้ ซึ่งหากจะวิจัย ณ ขณะนี้ทำได้เพียงปลูกและสกัดสารออกมาเพื่อทดลองในสัตว์ แต่ในคนยังไม่ได้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"