'ปลื้ม' ไหมถ้าส่งเด็กๆ ไปตาย


เพิ่มเพื่อน    

         ท่าทางอาการจะหนัก!

            "คุณปลื้ม-หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล" เผยตรรกะวิบัติให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง และนับวันยิ่งแย่ลง

            ที่จริงไม่ใช่ "คุณปลื้ม" คนเดียวที่มองโควิด-๑๙ เป็นกระต่ายน้อย

            ยังมีพรรคพวกในเครือข่ายอีกหลายคน ตอกย้ำกับมวลชนในโลกออนไลน์ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คือรัฐประหารซ้อน ถึงเวลาแล้วที่คนไทยต้องกลับไปใช้ชีวิตปกติ

            เด็กๆ ต้องไปโรงเรียน ผู้คนต้องกลับไปทำงาน การเดินทางต้องไม่ถูกจำกัดเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ

            โพสต์ล่าสุดในทวิตเตอร์ของ "คุณปลื้ม" ระบุว่า

                "เล่นฟุตบอลไม่ได้ เรียนพิเศษภาษาก็ห้าม กิจกรรมดนตรีก็โดนหยุด กิจกรรมออกกำลังกายเเทบไม่มี ตีเเบดยังไม่ได้เลย รัฐขังเด็กไว้ในบ้าน อย่างไม่มีเหตุผล ทั้งที่ไม่มีโรคระบาดเเล้ว เลว"

            น่าสงสาร เพราะทัศนคติด้านลบต่อรัฐบาล ทำให้ "คุณปลื้ม" มองทุกอย่างเป็นลบไปหมด แม้กระทั่ง "ความจริง"

            ไม่แน่ใจว่าจะมีพ่อแม่สักกี่คนยอมผลักลูกไปโรงเรียน แม้ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ถือว่าต่ำ หากไม่รวม ๑๘ รายที่เป็นคนต่างด้าว ในศูนย์กักกันของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสงขลา

            เพราะคนส่วนใหญ่มองว่า ให้ลูกเรียนออนไลน์เพียงไม่กี่เดือน ดีกว่าปล่อยลูกไปเผชิญกับการระบาดรอบใหม่ แม้จะไม่มีใครสามารถตอบได้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม

            นั่นมาจากข้อมูลพื้นฐานที่รับรู้กันทั่วโลกว่า โควิด-๑๙ สามารถย้อนกลับมาได้ทุกเวลาหากการ์ดตก และหลายประเทศกำลังเผชิญอยู่

            ก็ไม่แน่ใจว่าเหตุที่ "คุณปลื้ม" ไม่ปลื้มนั้นมาจากอะไรกัน แต่ลองอ่านคำแถลงของ ประธานาธิบดีของประเทศยูกันดา YOWERI KAGUTA MUSEVENI ที่เตือนคนแหกคอกในประเทศของตนเองดู

            "...ในสถานการณ์สงคราม ไม่มีใครขอให้ใครอยู่ในบ้าน คุณเลือกอยู่ข้างในด้วยตัวคุณเอง และถ้าคุณมีห้องใต้ดิน คุณก็จะซ่อนตัวอยู่ที่นั่นตราบเท่าที่สงครามยังคงอยู่

                ในระหว่างสงคราม คุณไม่เคยเรียกหาอิสรภาพของคุณ คุณยอมปล่อยมันผ่านไปเพื่อแลกกับการอยู่รอด

                ในช่วงสงคราม คุณไม่บ่นเรื่องความหิว คุณแบกรับความหิวโหยและอธิษฐานขอให้คุณมีชีวิตอยู่เพื่อกินอีกครั้ง

                ในช่วงสงคราม คุณไม่กังวลกับการที่ลูกๆ ของคุณไม่ได้ไปโรงเรียน คุณภาวนาให้รัฐบาลไม่บังคับกะเกณฑ์ให้เป็นเหมือนทหารที่ได้รับการฝึกฝนในสถานศึกษาที่ตอนนี้กลายเป็นค่ายทหาร

                โลกกำลังอยู่ในภาวะสงคราม สงครามที่ไม่ใช้ปืนและกระสุน สงครามที่ไม่มีทหาร สงครามที่ไร้พรมแดน สงครามที่ไม่มีข้อตกลงหยุดยิง สงครามที่ไม่มีห้องยุทธการ สงครามที่ไม่มีโซนศักดิ์สิทธิ์

                สิ่งเดียวที่มันต้องการคือการเก็บเกี่ยวความตาย

                โชคดีที่กองทัพนี้มีจุดอ่อนและเราสามารถเอาชนะได้ มันต้องการเพียงแค่ความร่วมแรงร่วมใจและความมีวินัยและความอดทนของเรา

                เรามาทำให้สถิติการติดเชื้อ COVID-19 ลดลง เราต้องมีความอดทน มาเป็นผู้ดูแลพี่น้องของเรากันเถอะ ในเวลาไม่นานเราจะได้รับอิสรภาพ องค์กรและสังคมตามปกติกลับคืนมา...."

                ครับ...."คุณปลื้ม" เปิดตาให้กว้าง ประเทศไทยไม่ใช่จุดศูนย์กลางของโลก และเรากำลังสู้อยู่กับศัตรูที่มองไม่เห็น

            ไม่ต้องทำเพื่อคนอื่น อย่างน้อยก็ทำเพื่อลูกตัวคุณเอง. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"