กินในร้านไม่คึกคักเลือกซื้อกลับ


เพิ่มเพื่อน    

  คลายล็อกนั่งกินในร้านอาหารยังไม่คึกคัก "หาดใหญ่-บุรีรัมย์" ลูกค้าเลือกซื้อกลับบ้าน "ผู้ว่าฯ นครพนม" จัดรถบัสฟรีรับคนนครพนมกลับจากภูเก็ตส่งต่อถึงหัวบันไดบ้าน  "เบตง" คุมเข้ม 2 ด่านคัดกรองคนไทยข้ามมาจากมาเลเซีย "ตชด." เฝ้าระวังเส้นทางธรรมชาติเทือกเขาสันกาลาคีรี

    ความคืบหน้าภายหลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ผ่อนปรน 6 กิจกรรม ได้แก่ 1.ตลาด ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย 2.ร้านจำหน่ายอาหาร อาหารทั่วไป ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศกรีม (นอกห้างสรรพสินค้า) ร้านอาหารริมทาง รถเข็น หาบเร่ 3.กิจการค้าปลีกส่ง ซูเปอร์มาเก็ต ร้านสะดวกซื้อบริเวณพื้นที่นั่ง ยืน รับประทาน รถเร่หรือรถวิ่งขายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านค้าปลีกขนาดย่อย ร้านค้าปลีกชุมชน ร้านค้าปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม 4.กีฬา สันทนาการ กิจกรรมในสวนสาธารณะ ได้แก่ เดิน รำไทเก๊ก สนามกีฬากลางแจ้งที่เป็นการออกกำลังกายโดยไม่ได้เล่นเป็นทีมและไม่ได้มีการแข่งขัน เทนนิส ยิงปืน ยิงธนู จักรยาน กอล์ฟ และสนามซ้อม 5.ร้านตัดผม เสริมสวย เฉพาะตัด สระ ไดร์ และ 6.อื่นๆ ได้แก่ ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์ ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น
    เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ว่าประชาชนเริ่มออกมาใช้ชีวิตตามปรกติมากขึ้น เช่น ที่ตลาดหาดใหญ่ใน เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ตั้งแต่เช้าประชาชนออกมาจับจ่ายตลาดและพ่อค้าแม่ค้าก็เริ่มมาเปิดแผงขายของกันมากขึ้น ทั้งแม่ค้าที่อยู่ในตัวเมืองหาดใหญ่และเดินทางมาจากพื้นที่รอบนอก และทุกคนต่างสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันตัวเอง 
    ในขณะที่บรรดาร้านอาหารเช้าที่เปิดให้นั่งรับประทานก็เริ่มมีผู้คนไปนั่งในร้าน แต่มีการเว้นระยะห่าง โดยเจ้าของร้านอาหารเช้าบอกว่าได้ตั้งโต๊ะห่างกัน 2-3 เมตร รวมถึงลูกค้าที่มาซื้อหน้าร้านก็ยืนห่าง 1 เมตร เพื่อความปลอดภัย แต่ยังขายไม่ค่อยดีเหมือนเมื่อก่อน เพราะผู้คนยังออกมาน้อย เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่นิ่ง
    จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจร้านจำหน่ายอาหารหลายประเภท เช่น ร้านข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง มีการจัดร้านให้เป็นไปตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการโรคติดต่อกำหนด และเปิดให้ลูกค้านั่งกินที่ร้านได้แล้ว แต่บรรยากาศตามร้านอาหารกลับผิดคาด พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ยังเลือกที่จะซื้อกลับไปรับประทานที่บ้านมากกว่านั่งกินที่ร้าน อาจเพราะบางคนเริ่มชินกับการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ขณะที่บางคนเชื่อว่าซื้อกลับไปกินที่บ้านสะดวกและปลอดภัยมากกว่า ทำให้บรรยากาศการนั่งกินที่ร้านไม่คึกคักเท่าที่ควร 
    นางเพ็ญพิมล ปิณฑะพรพัฒน์ แม่ค้าร้านขายข้าวแกงปักษ์ใต้ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากที่มีการปลดล็อกให้ลูกค้าสามารถนั่งรับประทานที่ร้านได้ ก็ถือเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่อยากจะนั่งกินที่ร้าน และส่งผลดีกับทางร้านเองด้วย แต่หลังจากเริ่มเปิดให้นั่งกินที่ร้าน กลับพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ยังเลือกที่จะซื้อใส่ถุงกลับไปกินที่บ้านมากกว่า 
ลูกค้านั่งกินที่ร้านยังน้อย
    "สอบถามลูกค้าก็บอกว่าซื้อไปกินที่บ้านสะดวกและมั่นใจมากกว่า บางคนก็เคยชินกับการซื้อไปกินที่บ้านแล้ว หลังจากที่มีการปรับตัวสู้เชื้อโควิดมาสักระยะแล้ว ยอมรับหลังจากที่มีการปลดล็อก ก็ส่งผลให้ยอดขายกระเตื้องขึ้นจากเดิม แต่ยังไม่คึกคักเหมือนก่อนที่จะเกิดโรคไวรัสโควิด-19 ระบาด" แม่ค้ารายนี้ระบุ
    ส่วนคณะกรรมการโรคติดต่อตำบลกระสัง อ.เมืองฯ จ.บุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมและแนะนำการจัดพื้นที่ตลาดนัดคลองถม ที่บริเวณบ้านกระสัง ต.กระสัง ให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรค และเงื่อนไข หลักเกณฑ์ของคณะกรรมการโรคติดต่อ ก่อนจะพิจารณาอนุญาตให้เปิดค้าขายได้ตามปกติ         
    ทั้งนี้ ทางผู้จัดตลาดดังกล่าวได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดพื้นที่ตลาดเพื่อให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการควบคุมโรค อาทิ  การจัดล็อกสำหรับวางจำหน่ายอาหารแบบเว้นระยะห่าง 2 เมตร ทำจุดคัดกรองทั้งผู้ซื้อ-ผู้ขายบริเวณประตูเข้า-ออก ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิ จุดบริการล้างมือด้วยสบู่และเจลแอลกอฮอล์แบบใช้เท้าเหยียบเพื่อลดการสัมผัส ติดตั้งตู้พ่นยาฆ่าเชื้อแบบละอองฝอย     พร้อมทั้งมีเครื่องฆ่าเชื้อธนบัตรด้วย และที่สำคัญพ่อค้าแม่ค้าที่จะมาขายในตลาดดังกล่าวจะต้องมีหนังสือรับรองผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของทางโรงพยาบาลรับรองด้วย      
    นายสมา แย้มประโคน ผู้จัดตลาดนัดคลองถมบ้านกระสัง ต.กระสัง อ.เมืองบุรีรัมย์ บอกว่า พร้อมปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการโรคติดต่ออย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งกับผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งขณะนี้ก็มีการจัดเตรียมพื้นที่ตลาด และติดตั้งระบบคัดกรองพร้อมแล้ว รอเพียงเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบเพื่อพิจารณาอนุญาตเท่านั้น ก็อยากฝากให้เร่งทำการตรวจสอบและพิจารณาด้วย เพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่ไม่ได้ขายของขาดรายได้เลี้ยงครอบครัวมานานเกือบ 2 เดือนแล้ว
    จ.นครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม จัดรถบัสไปรับชาว จ.นครพนม ที่เดินทางไปประกอบอาชีพที่ จ.ภูเก็ตกลับคืนสู่มาตุภูมิ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เบื้องต้นมีผู้ประสงค์เดินทางกลับจำนวน 22 คน จุดหมายปลายทางอยู่ที่ศาลากลางนครพนม และมีรถนำส่งต่อของแต่ละอำเภอถึงหัวบันไดบ้าน
    จ.สุรินทร์ ที่ศูนย์กักตัวเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์  ประชาชนที่เดินทางกลับจาก จ.ภูเก็ต ทยอยเดินทางมารายงานตัวชุดแรก 5 คน ชาย 1 หญิง 4 ส่วนใหญ่เดินทางมาด้วยตนเอง โดยผู้ที่เดินทางมารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่กลุ่มงานโรคติดต่อสำนักงานสาธารณสุขอำเภอท่าตูม จ.สุรินทร์ รับการรายงานตัวตามขั้นตอน ซึ่งทั้งหมดทราบดีว่าจะต้องมารับการกักตัวเฝ้าระวัง 14 วัน ในสถานที่ของรัฐที่จัดให้ แต่ก็มีบางคนสอบถามขอไปกักตัวที่บ้านได้หรือไม่ เพราะได้เตรียมสถานที่ไว้แล้ว เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงจนเข้าใจ โดยมีนายไกรสอน กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยนายรองรัตน์ จงอุตส่าห์ นายอำเภอท่าตูม และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาคอยอำนวยความสะดวก และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตูม มาดูแลความสงบเรียบร้อย
    จ.ตรัง ที่จุดคัดกรองการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต.ควนกุน อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่าง จ.ตรังกับ จ.กระบี่ ประชาชนจาก จ.ภูเก็ต เดินทางเข้าสู่ จ.ตรังอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แล้ว ส่วนมากมากันเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูก และใช้รถจักรยานยนต์ขี่มาตั้งแต่ จ.ภูเก็ต ผ่าน จ.พังงาและ จ.กระบี่ ก่อนเข้าสู่ จ.ตรัง รวมทั้งยังมีกลุ่มคนที่เดินทางมาจาก จ.ภูเก็ตเพื่อใช้ จ.ตรัง เป็นเส้นทางผ่านไปยัง จ.สงขลา สตูล และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากกว่าคนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาที่ จ.ตรัง ซึ่งได้ลงทะเบียนไว้แค่ 1,964 คน 
เบตงคุมเข้มลอบเข้าเมือง
    จ.ยะลา ที่ด่านพรมแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเบตง เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ตชด.445 ตำรวจภูธรเบตง และฝ่ายปกครอง คุมเข้มแรงงานไทยในมาเลเซียที่เดินทางกลับมาตามยอดที่แจ้งจำนวน 50 ราย โดยเดินทางเข้ามาแล้วจำนวน 37 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเบตงได้ใช้เครื่องแฮนด์เฮลด์เทอร์โมมิเตอร์ และเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิแบบมือถือตรวจคัดกรองก่อนว่ามีไข้หรือไม่ ถ้าหากตรวจวัดแล้วมีไข้หรือมีอาการที่เสี่ยง ก็จะนำตัวส่งโรงพยาบาลเบตงทันที หากไม่มีไข้ก็จะผ่านกระบวนการของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยหลังตรวจสอบเอกสารเสร็จสมบูรณ์ จะมีเจ้าหน้าที่มารับเพื่อไปกักตัวสถานที่ที่เตรียมไว้เพื่อดูอาการต่อไป
    พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอเบตง กล่าวว่า ขณะนี้อำเภอเบตงต้องคุมเข้มทั้ง 2 ด้าน คือแรงงานไทยจากประเทศมาเลเซียและประชาชนที่เดินทางกลับจากภูเก็ต โดยมีมาตรการเข้มในการตรวจซักประวัติแรงงานไทยที่ทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานขายอาหารต้มยำกุ้ง  ซึ่งได้ทยอยเดินทางออกมาจากประเทศมาเลเซีย ผ่านด่านเบตง โดยแรงงานไทยทั้งหมดก่อนที่จะเดินทางออกจากด่านเบตง เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบเอกสารพร้อมถูกคัดกรองสภาพร่างกายก่อน
    ขณะที่ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4405 ร้อย ตชด.445 เบตง ได้ออกลาดตระเวนตามเส้นทางธรรมชาติเทือกเขาสันกาลาคีรีรอยต่อประเทศมาเลเซีย เพื่อป้องกันแรงงานไทยในมาเลเซียที่ไม่ได้รับอนุญาตผ่านสถานทูตและสถานกงสุล หลังประเทศไทยและมาเลเซียมีมาตรการในการป้องกันแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และจากการลาดตระเวนต่อเนื่อง ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด 
    จ.ภูเก็ต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต แจ้งมาตรการป้องกันด้วยเข้าสู่ในช่วงถือศีลอดของผู้นับถือศาสนาอิสลามระบุว่า อยากจะเน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติตัวโดยเฉพาะการงดกิจกรรม รวมตัวทั้งในมัสยิดและสถานที่อื่น อยู่แต่ในที่พักอาศัยและสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา การรับประทานอาหารละศีลอดควรทานในบ้านและห่างกันมากกว่า 1 เมตร และงดการพูดคุยกัน
    สำหรับประชาชนทั่วไป ขอเน้นย้ำเรื่องมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ถึงแม้จะไม่มีอาการป่วย ก็ต้องแยกตัวเองออกจากบุคคลอื่น งดรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่ไม่จำเป็น ไม่เข้าไปที่ชุมชน ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่บุคคลที่เรารัก และถ้าหากมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ เหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ปวดศีรษะหรือถ่ายเหลว ให้รีบไปพบแพทย์.
     
 

 
 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"