ว่าด้วยการแจกแหลกและเกทับ-บลัฟแหลก


เพิ่มเพื่อน    

 เห็นข่าวๆ แวบๆ...ในเว็บไซต์ แนวหน้า วันวาน ที่เอารูปคุณน้อง ช่อ-พรรณิการ์ วานิช อดีตโปลิตบูโรของพรรคคนรุ่นใหม่ หรือพรรค อนาคตใหม่ ไปวางไว้เป็นฉาก พร้อมตัวหนังสือพาดหัวว่า อินบ็อกซ์พัง-คนแห่ขอเงิน 3 พัน-คณะก้าวหน้าแจ้งเปลี่ยนกติกา เยียวยาใหม่ แล้วเกิดข้อคิด สะกิดใจ อยู่พอสมควรเหมือนกัน...

                                                      ------------------------------------------------------

            คือ คณะก้าวหน้า หรือ ขบวนการก้าวหน้า ที่ใช้ชื่อภาษาปะกิตว่า Progressive Movement อะไรประมาณนั้น ก็พอจะเป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่า คงหนีไม่พ้นไปจากกลุ่มก้อน องค์กร ของผู้ซึ่งพยายามสืบสานอุดมคติ อุดมการณ์ ต่อเนื่องมาจากพรรคการเมืองฝ่ายค้านของคนรุ่นใหม่อย่าง พรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกยุบเลิกไปแล้ว โดยแม้ว่าจะหมดสภาพ หมดสถานะทางการเมืองไปบ้าง แต่ความพยายามหาทาง เคลื่อนไหว เพื่อสืบสานอุดมคติ อุดมการณ์ เพื่อให้เป็นข่าวคราว หรือเพื่อให้ใครต่อใครไม่ลืมกันไปได้ง่ายๆ ก็แล้วแต่ จึงทำให้ คณะก้าวหน้า หรือ ขบวนการก้าวหน้า ที่ว่านี้ หันมา เกทับ รัฐบาล ด้วยการประกาศแจกเงิน 3,000 บาทให้กับใครก็ได้ โดยไม่ต้องเสียเวลา พิสูจน์ความจน อย่างที่รัฐบาลท่านกำลังแจกๆ อยู่ในทุกวันนี้...

                                                          --------------------------------------------------

            ซึ่งอันนี้...ต้องถือเป็นเรื่องดี หรือถือเป็น กุศลกรรม ชนิดหนึ่งนั่นแหละ ไม่ว่าการคิดลุกขึ้นมา แจกเงิน คราวนี้ จะแฝงฝัง แฝงเร้นสิ่งใดๆ เอาไว้ก็ตาม แต่ความพยายาม รวบรวมเงินบริจาค ที่เห็นว่าได้ตัวเลขประมาณ 1.87 ล้านบาท และแจกไปแล้วประมาณ 732,000 บาท สุดท้าย...ก็กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้อะไรก็ไม่รู้ที่เรียกว่า อินบ็อกซ์ พัง!!! หรือทำให้ผู้ที่อยากได้เงินบริจาคประมาณ 3,000 บาท ซึ่งไม่รู้ว่าจน-ไม่จน หรือกระทั่งไม่รู้ว่าเป็นฝ่ายไหน ต่อฝ่ายไหนกันแน่ แห่เข้าไปขอเงินบริจาค จนอาจรับไม่ไหว หรือจนต้องขออนุญาต เปลี่ยนกติกา ซะใหม่ โดยจะมี เงื่อนไข หรือรายละเอียดใดๆ บ้างนั้น คงต้องคอยติดตามกันดูอีกที...

                                                            -------------------------------------------------

            แต่การประกอบกุศลกรรม หรือการทำความดี ด้วยการ แจกเงิน นั้น...ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ฝ่ายที่มีอุดมคติ อุดมการณ์ ผิดแผก แตกต่างกันไปอย่างไรก็แล้วแต่ ออกจะเป็นตัวที่สร้าง ปัญหา มากบ้าง น้อยบ้าง ให้กับแต่ละฝ่ายอย่างเสมอหน้าไปด้วยกันทั้งหมด ฝ่ายรัฐบาลนั้น...แม้จะมีเงินถุง เงินถัง เงินภาษีอากรของราษฎร ไปจนเงินกู้ใดๆ ก็ตามที แต่การแจกให้คนประมาณ 10 ล้านราย โดยที่คนอีกกว่า 10 ล้านรายยังไม่ได้แจก หรือยังต้องรอ พิสูจน์ความจน หรือความอะไรก็แล้วแต่ ก็ดูจะก่อให้เกิดความชุลมุน วุ่นวาย ความสับสน ระส่ำระสายอยู่พอสมควร จนถึงขั้นต้อง ตั๋งโต๊ะ หรือต้องยกโต๊ะออกมาตั้ง หน้ากระทรวงการคลัง เพื่อเคลียร์โน่น เคลียร์นี่ ชนิดเหงื่อตกกีบกันไปแทบทั้งกระทรวง...

                                                                  ---------------------------------------------------

            ส่วนฝ่ายค้าน...ไม่ว่าจะอยู่ในรูปคณะ หรือขบวนการ หรือในรูปใดๆ ก็ตาม แต่ในเมื่อไม่ได้มีเงินถุง เงินถังอย่างรัฐบาล แม้จะพยายามรวบรวมเงินบริจาคกันในระดับไหนก็ตามที โอกาสที่จะอาศัยเงินแค่ 1.87 ล้านบาท ไป เกทับ รัฐบาล ที่กำเงินเอาไว้นับเป็นแสนๆ ล้านบาท หรือล้านๆ ล้านบาท มันก็เลยออกจะเป็นอะไรที่ น่าเวทนา อยู่พอสมควร หรือแทนที่จะก่อให้เกิด เงื่อนไข เกิดข้อเปรียบเทียบ เกิดการอุปมา-อุปไมย ถึงความไม่เข้าท่า เข้าทางของรัฐบาล กลับส่งผลให้ตัวเองถึงขั้น อินบ็อกซ์ พังเอาเลยถึงขั้นนั้น คือคงต้องชุลมุน วุ่นวาย สับสน ระส่ำระสายกันพอสมควร ถึงต้องขออนุญาต เปลี่ยนกติกา กันใหม่ ต้องหาทางสร้างเงื่อนไข รายละเอียด เพื่อกีดกัน ป้องกัน หรือเพื่อ พิสูจน์ ผู้ที่แห่เข้ามาขอเงินบริจาคจนรับไม่ไหวเอาง่ายๆ...

                                                                  ----------------------------------------------------

            เพราะอย่างที่นักคิด นักปราชญ์ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร...ท่านเคยได้เอ่ยเป็นวาทะไว้อย่างน่าคิด น่าสะกิดใจนั่นแหละว่า Money sometimes prevent trouble; too much money breeds it. หรือ บางครั้งเงินอาจป้องกันความยุ่งยากได้ แต่ถ้ามากไป เงินอาจกลายเป็นตัวสร้างความยุ่งยากซะเอง อะไรประมาณนั้น ดังนั้น...การที่ไม่ว่าฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับเรื่อง เงิน เป็นสิ่งแรกไปด้วยกันทั้งสิ้น แม้เป็นเรื่องจำเป็น เป็นเรื่องที่สอดคล้อง เหมาะสมไปกับความทุกข์ ความยาก ความเดือดร้อนของผู้คน ในช่วงระยะนี้เพียงใดก็ตามที แต่ถ้าหากดันไป เน้น ไปให้น้ำหนักมากกว่าเรื่องอื่นๆ ซึ่งยังมีอยู่อีกหลายต่อหลายเรื่อง ที่ควรจะ เน้น หรือควรให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ไม่ว่าเรื่องของความคิด ทัศนคติ หรือกระทั่งจิตสำนึก ในการรับมือกับวิกฤตการณ์ต่างๆ โอกาสที่ เงิน มันจะกลายเป็นตัวสร้างความยุ่งยากไปแทนที่ ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาซะเลย...

                                                                   ---------------------------------------------------------

            คือขณะที่ต่างฝ่ายต่างคิดจะแจกแหลก หรือคิดจะเกทับ-บลัฟแหลก โดยอาศัย เงิน เป็นตัวตั้งนั้น สิ่งที่แต่ละฝ่ายดูจะไม่ค่อยได้ให้ความสนใจ หรือให้ความสำคัญมากมายซักเท่าไหร่นัก ก็คือการหันมา ให้ ความคิด ให้ทัศนคติ หรือให้สิ่งใดๆ ก็ตามที่อาจช่วยยกระดับจิตสำนึกของผู้คน ให้เกิดความแข็งแกร่ง แข็งแรง ทนทาน ต่อการเผชิญหน้ากับวิกฤติใดๆ ก็ตาม ได้ด้วยตัวของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความพอเพียง พอประมาณ การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้สอดคล้องไปกับความเป็นไปของโลกของธรรมชาติ ที่กำลังเป็นตัวนำเอา วิกฤติ นานาชนิดตามมาอีกเยอะแยะมากมาย ตราบใดที่ความกระหาย กระเหี้ยนกระหือรือ ต่อการบริโภค ต่อความทะเยอะทะยานอยากมี อยากได้ ตามแรงกระตุ้นของ ทุนนิยม ยังคงมาแรง แซงโค้ง อยู่ในทุกวันนี้...

                                                                    ---------------------------------------------------------

            อันนี้นี่แหละ...ที่ไม่ว่าฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายคนรุ่นเก่า หรือคนรุ่นใหม่ ควรหันมาให้ความสนใจ และความสำคัญ เอาไว้ซะแต่เนิ่นๆ แทนที่จะไปเกทับ-บลัฟแหลก แข่งกันแจก แข่งกันเจ๊ง แข่งกันชุลมุน วุ่นวาย จนนำมาซึ่งความสับสนระส่ำระสาย ไปด้วยกันแทบทุกฝ่าย ทั้งๆ ที่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเป็นไปตาม คาถาศักดิ์สิทธิ์ อันว่าด้วย ความพอเพียง อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้เลย...

                                                                      --------------------------------------------------------

            ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก H.G. Well” (อีกครั้ง) ... Poverty wants some things, luxury many, avarice all things. - ความจนอยากได้บางสิ่งบางอย่าง ความฟุ่มเฟือยอยากได้หลายอย่าง ความโลภอยากได้ทุกสิ่งทุกอย่าง...”

                                                                       ------------------------------------------------------------ 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"