2 พ.ค.63 - ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังว่า ช่วงรับสถานการณ์แก้ปัญหาโควิด 19 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรค ปชป.เขต 2  ได้ลงพื้นที่มอบสิ่งของข้าวสารอาหารแห้งให้กำลังใจกับชาวบ้าน ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และผู้ที่ประสบปัญหาไร้ที่อยู่อาศัยและไร้ที่ดินทำกินต้องพึ่งที่ดินของการรถไฟ 

นายสาทิตย์  กล่าวว่า ผลกระทบจากโควิด-19 นั้นตนมองว่าลึกมากกว่าที่เราคิด ผลกระทบมีต่อทุกคน สำหรับคนที่ไม่พร้อมหรือคนที่เปราะบางอยู่แล้วจะได้รับผลกระทบที่หนักกว่าคนอื่นมาก เท่าที่ลงพื้นที่ปัญหาใหญ่สุด อันดับ 1 คือ คนตกงานทันที เช่น ทำงานสองคนสามีภรรยามีลูกมีครอบครัวแล้วก็ตกงานพร้อมกันสองคน ที่สำคัญไม่มีเงินเก็บและไม่มีวี่แววว่าจะเริ่มงานได้เมื่อไหร่ กรณีทำงานโรงแรม โรงแรมปิดไป 

อันดับ2 คือ คนรับจ้าง รับจ้างรายวัน หาเช้ากินค่ำ พอเกิดสถานการณ์อย่างนี้ปุ๊บงานก็ไม่มี และไม่สามารถที่จะหางานรับจ้างทำได้ แล้วคนส่วนนี้ก็เป็นคนหาเช้ากินค่ำอยู่แล้วพอเกิดสถานการณ์แบบนี้ก็ขาดรายได้ทันที 

อันดับ 3 คือลูกยังเล็ก เป็นเกษตรกร เช่น กรีดยาง ไม่ได้กรีดยาง 3 เดือนไม่มีรายได้อื่นพยายามหางานทำก็หาไม่ได้คนเหล่านี้เขาเดือดร้อนมาก ซึ่งตนเองมองว่าสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ตอนนี้ เช่น ให้เงิน 5,000 บาท หรือเงินให้เกษตรกร ยิ่งเงิน 5,000 บาทค่อนข้างจะมีปัญหามาก คนจะมีความรู้สึกว่าคนที่ไม่สมควรได้กับได้ แต่คนที่ควรจะได้กลับไม่ได้ จะด้วยสาเหตุการลงทะเบียนออนไลน์ คนทำไม่เป็นก็ดี หรืออะไรก็ดี ดังนั้นแนวทางการช่วยเหลือของรัฐบาลคือต้องปรับสำหรับคนที่ตกงาน สำหรับคนที่เปราะบางรับจ้างหาเช้ากินค่ำ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถหาได้ในท้องถิ่น เพราะเงินเหล่านี้ต้องลงไปสู่ท้องถิ่นเพื่อจะไปจ้างงานก็ดี หรือเป็นเงินเชิงสวัสดิการก็ดีตนมองว่าจำเป็นต้องทำ

นายสาทิตย์  กล่าวว่าในส่วนของฝ่ายค้านที่บอกว่าต้องการจะเปิดประชุมสภาเพื่อเอางบประมาณออกมาใช้จ่ายเพื่อแก่ไขสถานการวิกฤติโควิค 19  ตนมองว่ามาถึงจุดนี้ตนเองค่อนข้างเห็นด้วยกับการขอเปิดประชุมสภาของฝ่ายค้าน ด้วยเหตุผล 2 ข้อ คือ 1 ด้วยมาตรการปิดเมือง ล็อกดาวน์ พรก.ที่ทำอยู่มันมีจุดอ่อนช่องว่างอยู่หลายอย่าง ตัวอย่างที่ตรังอย่างเขตอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง กับฝั่งนครศรีธรรมราช คนฝั่งรัษฎาต้องไปทำงานฝั่งโน้น คนฝั่งโน้นกลับมาทำงานฝั่งนี้  ตอนนี้ไปไม่ได้  ปิดมาเดือนหนึ่งแล้วไม่มีรายได้ ไปไม่ได้ พอประกาศ พรก.ต่อคนเหล่านี้เป็นปัญหา  มาตรการอื่นๆในเชิงสวัสดิการที่ช่วยเหลือที่มันมีปัญหาอยู่เข้าไม่ถึงคนบางกลุ่ม คิดว่าถ้าได้เปิดสภาเราจะได้สะท้อนเรื่องเหล่านี้ ซึ่งต้องมีมาตรการป้องกันเรื่องโควิดด้วย 

"ผมไม่ได้มองเป็นการเมืองแต่มองว่าเป็นการช่วยกันแก้ปัญหาให้ประชาชน เพราะมาถึงวันนี้ความรู้สึกของประชาชนมองว่ามันจะจบลงเมื่อไหร่  ยิ่งยาวไปก็ยิ่งลำบาก เดือดร้อนเพิ่มมากขึ้น ในทางที่เราต้องการเลขโควิดให้เป็นศูนย์หรือลดน้อยลง แต่อีกทางคนเขาเดือดร้อนมากจริง ๆ ซึ่งอันนี้เราต้องให้เกิดความเหมาะสมด้วย ยังคิดเลยว่ามาตรการพรก.ก็ดี ปิดล็อกดาวน์จังหวัดก็ดี ควรจะมีการประเมินผลวันต่อวันแล้วผ่อนคลายมาตรการ อะไรที่สามารถผ่อนปรนได้เช่น คนข้ามเขตไปทำงานต้องให้แล้ว การไปดูแลแต่เฉพาะตัวเลขอย่างเดียวว่าเป็นตัวเลขที่จะต้องนิ่งแล้วทำให้คนลำบากเดือดร้อนไม่มีจะกินแล้วเขาไม่สามารถเข้าถึงสวัสดิการนั้นเป็นปัญหา"

ส.ส.จังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่าส่วนการคลายล็อกนั้น ตนมองว่าแต่ละพื้นที่มีเงื่อนไขบริบทที่ไม่เหมือนกัน ต้องแยกเป็นพื้นที่เสี่ยงมาก พื้นที่ที่ถึงกับเสี่ยงแต่ไม่เสี่ยงมาก หรือพื้นที่ๆมีความยังปลอดภัยอยู่ ซึ่งมันมีเงื่อนไขในการประเมินไม่เหมือนกัน มาตรการควรปรับให้เหมาะสมกับพื้นที่โดยให้ได้สมดุลระหว่างการป้องกันโรคระบาดกับวิถีชีวิตคนที่ต้องทำงานด้วยซึ่งบางทีต้องไปด้วยกัน ตรงไหนไปไม่ได้การชดเชยต้องมากกว่านี้

สำหรับกรณีรัฐบาล ได้มีมาตรการคลายล็อสุรานั้น  นายสาทิตย์บอกว่า ตนมองว่าสุราไม่ใช่สิ่งจำเป็นพื้นฐานของคน แต่การทำมาหากินให้เปิดร้านค้า ร้านอาหารมีความจำเป็นมากกว่า  ฉะนั้นการผ่อนปรนให้มีการขายสุรานั้น ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมความจำเป็นพื้นฐานการทำมาหากินของประชาชนด้วย แต่ในส่วนการปลดล็อกให้เปิดขายสุราได้นั้นจะมีนัยยะหรือไม่นั้นตนไม่ทราบเหมือนกัน แต่มันเกิดทำให้ความสงสัยเหมือนกัน จริงๆแล้วเรื่องเหล้าเรื่องเบียร์ไม่ใช่ความจำเป็นของชีวิตเลย การที่เราไปล็อกดาวน์ไว้ในทางหนึ่งคนจะมองว่าดีแล้วที่มันไม่ทำให้เกิดการร่วมกลุ่ม ไม่เกิดอุบัติเหตุการที่จะนำพาไปสู่อย่างอื่น แต่ในขณะเดียวกันมาตรการควรปรับผ่อนปรนอย่างอื่น เช่น คนทำงานที่ต้องข้ามเขตไปควรที่จะปลดล็อกก่อน แต่ตอนนี้ยังไม่ปลดล็อกเลย