"ในหลวง-พระราชินี" พระราชทานดอกไม้และตะกร้าสิ่งของแก่ จนท.ที่บาดเจ็บจากเหตุปะทะกับคนร้ายที่ จ.ปัตตานี "กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า" ยันปฏิบัติหน้าที่ตาม กม. หลัง ปชช.แจ้ง 3 คนร้ายประวัติก่อเหตุรุนแรงเข้าพื้นที่ "กลุ่มเปอร์มัส" ห่วงบีอาร์เอ็นล้างแค้น
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานให้แก่ ส.ต.ท.กวินทร์ ไชยนุราช ผบ.หมู่ กก.ปพ.ภ.จว.ปน. ช่วยราชการ กก.สส.ภ.จว.ปน. ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านต้องสงสัยไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.6 บ้านปะกาลือสง ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจังหวัดปัตตานี เบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้ว สร้างความปลาบปลื้มแก่ครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างหาที่สุดมิได้
ขณะที่ พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) แถลงชี้แจงเหตุเจ้าหน้าที่ปะทะกับคนร้ายในพื้นที่บ้านปะการือสง ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ว่าเมื่อวันที่ 30 เม.ย. เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเข้าพิสูจน์ทราบเพื่อบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่บ้านปะการือสง ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และได้ปะทะกับกลุ่มคนร้าย เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ซึ่งปัจจุบันอาการปลอดภัย
พ.อ.เกียรติศักดิ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบคนร้ายเสียชีวิต 3 ราย สามารถตรวจยึดอาวุธปืนได้จำนวน 3 กระบอก ประกอบด้วย ปืนลูกซอง ปืนเล็กยาว เอเค 102 และปืนพกขนาด 38 สำหรับอาวุธที่ตรวจยึดได้ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 จะนำไปตรวจสอบประวัติและความเชื่อมโยงทางคดีที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ คนร้ายที่เสียชีวิตทั้ง 3 ราย พบมีประวัติหมายจับรวม 10 หมาย ก่อคดีที่สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์มาอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย 1.นายยูโต๊ะ แมะตีเมาะ บุคคลตาม ป.วิอาญา 7 หมายที่สำคัญจากเหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนเมื่อปี 2559 และเหตุระเบิด เจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อยทหารพรานที่ 4303 เมื่อปี 2560
ส่วน 2.นายมะตามีซี สาอิ บุคคลตามหมายจับคดีปล้นร้านทองสุธาดา อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2562 และ 3.นายอับดุลอาซิ ปากียา บุคคลตามหมายจับจากเหตุระเบิดห้างบิ๊กซีปัตตานีเมื่อปี พ.ศ.2560 ทั้ง 3 คนยังเป็นผู้ต้องสงสัยเหตุโจมตีจุดตรวจบ้านกอแล และอำเภอเมืองฯ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2562 อีกด้วย
"คดีที่กลุ่มคนร้ายทั้ง 3 คนได้ก่อขึ้นล้วนเป็นคดีที่มีความรุนแรง อุกฉกรรจ์ สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนรวมทั้งผู้บริสุทธิ์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องของวางระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน คดีวางระเบิดห้างบิ๊กซี ปัตตานี คดีปล้นร้านทองในพื้นที่อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา" พ.อ.เกียรติศักดิ์กล่าว
โฆษก กอ.รมน.ส่วนหน้ายืนยันว่า การปฏิบัติในครั้งนี้เป็นการบังคับใช้กฎหมายกับอาชญากรที่กระทำผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนและความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐไม่สามารถละเว้นการปฏิบัติได้ รวมทั้งพี่น้องประชาชนแจ้งข่าวพบความเคลื่อนไหวกลุ่มบุคคลต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงได้กำลังเข้าพิสูจน์ทราบ แต่ถูกกลุ่มคนร้ายเปิดฉากยิงใส่ จึงได้เกิดการปะทะและเกิดการสูญเสียดังกล่าว
ต่อมาเวลา 08.00 น. พล.ต.ปิยพงษ์ วงศ์จันทร์ ผบ.ฉก.ปัตตานี, พล.ต.ต.จีรวัฒน์ พยุงธรรม ผบก.ภ.จ.ปัตตานี, พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.ทพ.43 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิด เข้าตรวจสอบบริเวณโดยรอบบ้านปะการือสง และบริเวณบ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อเก็บรวบรวมวัตถุพยานรวมไปถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพราะเชื่อว่าอาจจะมีบุคคลอื่นนอกเหนือจากผู้เสียชีวิต 3 คนอยู่ หรือเคยมาบ้านหลังนี้ก่อนที่จะเกิดเหตุปะทะ ซึ่งผลการตรวจค้นพบเป้สนาม 3 ใบ ภายในบรรจุอุปกรณ์ยังชีพ และพบปลอกกระสุนต่างๆ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบ
วันเดียวกัน กลุ่มสหพันธ์นิสิต นักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี Permas ได้ออกหนังสือแถลงการณ์เปิดผนึกขอให้คู่สงครามเคารพหลักมนุษยธรรมในช่วงวิกฤติไวรัสโควิด-19
เนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า ได้รับข่าวดีเมื่อ BRN ในฐานะคู่ขัดแย้งหลักของรัฐไทย ได้ประกาศต่อสาธารณชนถึงการยุติกิจกรรมทางอาวุธชั่วคราว เพื่อเปิดทางให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติหน้าที่ช่วงวิกฤติไวรัสโควิด-19 ได้อย่างสุดความสามารถบนเงื่อนไขว่าต้องไม่ถูกโจมตีจากรัฐไทยก่อน แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อวันที่ 30 เม.ย.เจ้าหน้าที่ทหารไทยได้เข้าโจมตีกองกำลังปฏิวัติแห่งชาติปาตานี ณ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เป็นเหตุให้เสียชีวิต 3 ราย สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี PerMAS เป็นองค์กรเคลื่อนไหวการเมืองของเยาวชนปาตานี ขอแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและเป็นกังวลอย่างยิ่งว่าจะเกิดการตอบโต้กลับของ BRN เนื่องจากรัฐไทยได้ละเมิดเงื่อนไขสำคัญในการยุติการปฏิบัติกิจกรรมทางอาวุธของ BRN
ดังนั้น PerMAS จึงเสนอข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้ 1.ขอให้รัฐไทยยกเลิกนโยบายปราบปรามและยุติการปฏิบัติกิจกรรมทางอาวุธทุกกรณี และหันมาแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยวิธีการทางการเมือง โดยสันติวิธี 2.ขอให้ BRN ในฐานะคู่ขัดแย้งหลักของรัฐไทย อดทนอดกลั้น และไม่ตอบโต้ด้วยอาวุธเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการแก้ปัญหาไวรัส COVID-19 3.ขอเรียกร้องให้ ส.ส.ปาตานีผลักดันให้มีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้รัฐบาลทบทวนนโยบายการแก้ปัญหาปาตานีให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |