นายกฯ โปรยยาหอมวันแรงงานแห่งชาติ ย้ำเดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องแรงงานให้มีรายได้สูงขึ้น มีหลักประกันทางสังคมที่มั่นคง มีความปลอดภัยและอาชีวอนามัยทำงานที่ดีตามสากล โวผลงานเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำทุกจังหวัด “บิ๊กป้อม” กำชับ ก.แรงงานเร่งรัดการแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานประมง 
    เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรงงานแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวคำปราศรัยเนื่องในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2563 โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ในนามของรัฐบาล ขอส่งความรักและความปรารถนาดีมายังพี่น้องแรงงาน รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของแรงงานทุกคน ทุกภาคส่วน ทั้งแรงงานในระบบ แรงงานนอกระบบ หรือแรงงานคนพิการ และมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องแรงงานให้มีรายได้สูงขึ้น ได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรม มีหลักประกันทางสังคมที่มั่นคง รวมทั้งมีความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในการทำงานที่ดีตามมาตรฐานสากล
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการในหลายเรื่อง อาทิ การปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในทุกจังหวัด การเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านการประกันสังคม และการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายด้านแรงงานให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รัฐบาลมีความเป็นห่วงเป็นใยพี่น้องแรงงานทุกประเภท และได้กำหนดมาตรการช่วยเหลือดูแลพี่น้องแรงงานอย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนของมาตรการชดเชยการขาดรายได้ การเพิ่มสิทธิประโยชน์ และการจ่ายเงินชดเชยกรณีว่างงานให้แก่ผู้ประกันตน การลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม การส่งเสริมให้มีแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ รวมทั้งการพัฒนาและยกระดับทักษะฝีมือแรงงาน เพื่อให้พี่น้องแรงงานทุกๆ ท่านสามารถผ่านพ้นวิกฤติ และพร้อมที่จะเริ่มต้นเดินหน้าต่อไปด้วยกันได้อย่างมั่นคงต่อไป ในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและอำนาจแห่งสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านเคารพนับถือ ตลอดจนพระบารมีแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินี ได้โปรดดลบันดาลประทานพรให้พี่น้องแรงงานทุกท่าน พร้อมทั้งครอบครัว มีสุขภาพใจ สุขภาพกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ และสัมฤทธิผลในสิ่งที่พึงปรารถนาทุกประการ
    ด้าน พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายที่กระทรวงแรงงานเมื่อ 1 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า พล.อ.ประวิตรได้กำชับ สั่งการและมอบนโยบายการทำงานที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาแรงงานที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ การให้แรงงานที่ติดเชื้อโควิด-19 สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว, เน้นย้ำการได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วนและรวดเร็วกรณีการว่างงานให้แก่ผู้ประกันตน ,การส่งเสริมการฝึกอาชีพ และการให้ความรู้ การเฝ้าระวัง การป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ตลอดจนการขอให้ชะลอการนำเข้าแรงงานต่างด้าวจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ พล.อ.ประวิตรยังได้กล่าวขอบคุณกระทรวงแรงาน ที่มีมาตรการป้องกัน การแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงาน ที่ผ่านมาอย่างได้ผล และให้กำลังใจการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ที่มีความทุ่มเท ตั้งใจ เสียสละ พร้อมขอให้คงเข้มการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดเชิงรุกต่อไป
    "เป้าหมายให้ทุกคนมีความปลอดภัย ตามนโยบายของรัฐบาล ที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง อีกทั้งให้กระทรวงแรงงานเร่งรัดการแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานประมง และต้องไม่ให้มีการละเมิดสิทธิแรงงานอย่างเด็ดขาด" พล.ต.พัชร์ชศักดิ์กล่าว  
    นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในวันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคม ขอเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ใช้แรงงานทุกคน รวมทั้งนายจ้างทุกราย และขอให้รัฐบาลแก้ปัญหาดังนี้ 1.เร่งสำรวจและช่วยเหลือแรงงานนอกระบบและแรงงานต่างชาติที่ตกงานขาดรายได้ให้มีอาหารรับประทาน และควรมีการจ้างงานเป็นพิเศษ 3-6 เดือนเพื่อไม่ให้อดอยาก 2.สิทธิในการมีส่วนร่วมตัดสินใจในเรื่องที่จะกระทบต่อสิทธิและการทำงานของผู้ใช้แรงงาน 3.ปรับปรุงสิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคมให้เป็นเลิศทุกกรณี สนับสนุนสิทธิการทำงานและการลาคลอดของแรงงานหญิงและคู่สมรส 4.การเตรียมมาตรการป้องกันการไม่มีงานทำเมื่อนำหุ่นยนต์มาใช้แทนคน และมีหลักประกันการมีงานทำของคนที่เรียนจบใหม่ ทั้งระดับอาชีวศึกษาและระดับอุดมศึกษา 5.ประสานภาคเอกชนวางแผนผลิตแรงงานมีฝีมือให้สอดคล้องกับความต้องการตลาดแรงงานในและต่างประเทศ 6.ยกระดับศักยภาพฝีมือแรงงานไทยในทุกมิติให้รองรับการเปลี่ยนแปลงของลักษณะการจ้างงานหลังวิกฤติไวรัสโควิด-19 และ 7.เพิ่มมาตรการความปลอดภัยในการทำงานในทุกสถานประกอบการให้มีความปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19
    ขณะที่นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์ประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า เนื่องในวันแรงงานสากล อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับภาคแรงงานให้มากขึ้น การเยียวยาแรงงานนอกระบบ โดยให้กระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพจ่ายเงิน 5,000 บาทเยียวยาเป็นเรื่องดี แต่ต้องมีการจัดการบิ๊กดาต้าให้มีประสิทธิภาพ จะได้ไม่มีคนที่ถูกลืมและถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เพราะบางคนที่ผมรู้จักยังไม่มีบัญชีธนาคารเลย แล้วจะได้รับการเยียวยาได้อย่างไร ส่วนแรงงานในระบบ อยากเรียกร้องให้มีการจ่ายเงินประกันสังคมโดยเร็ว อย่าชักช้า
    ด้านเว็บไซต์คณะก้าวหน้า ที่เป็นกลุ่มอดีตกรรมการพรรคอนาคตใหม่ที่โดนยุบพรรค เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของนายสุนทร บุญยอด อดีตกรรมการบริหารปีกแรงงาน เนื่องในวันกรรมกรสากล โดยพูดถึงขบวนการแรงงานในพรรคการเมือง และร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ที่ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ได้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่เนื่องจากเป็นกฎหมายการเงิน ตอนนี้รอนายกรัฐมนตรีนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อรับรองต่อไป โดยในตอนหนึ่งนายสุนทรได้ย้ำถึงสาระสำคัญของร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งมีอยู่ 3 ส่วน คือ 1.เพิ่มหลักประกันให้กับพี่น้องแรงงาน 2.เพิ่มสิทธิประโยชน์ และ 3.เพิ่มความมั่นคง
    นายสุนทรกล่าวว่า อย่างเรื่องเพิ่มหลักประกัน ได้เสนอเพิ่มค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำแบบอัตโนมัติ ซึ่งในอนาคต การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำไม่ได้หมายความว่าต้องไปเรียกร้องหรือรอให้รัฐบาลปรับให้ แต่เราเสนอให้ใช้ปรับตามการเติบโตทางเศรษฐกิจ มีการปรับตามโดยอัตโนมัติ ต่อมาคือเรื่องเสนอเพิ่มค่าแรงงานตามอายุงาน เพราะตอนนี้ บางคนทำงานมา 20 ปี อยู่กับค่าจ้างขั้นต่ำตั้งแต่เริ่มต้นจนจะเกษียณอายุ เรามองว่าอย่างนี้ไม่เป็นธรรม เพราะสำหรับคนที่อายุงานมาก ยกตัวอย่างทำงานมา 5-10 ปี กินค่าแรงขั้นต่ำ เด็กรุ่นใหม่ที่เข้ามาซึ่งเขาเป็นคนฝึกทักษะให้ก็กินค่าแรงขั้นต่ำในระดับเดียวกัน อย่างนี้ไม่เป็นธรรม อย่างนี้ต้องมีการเพิ่มค่าจ้างตามอายุงาน นอกเหนือจากเพิ่มอัตโนมัติ และอีกเรื่องคือการปรับพนักงานรายวันให้เป็นรายเดือนทั้งหมดทุกสถานประกอบการที่มีลักษณะการทำงานเช่นเดียวกัน
    "นี่คือเรื่องหลักๆ ที่เราตั้งใจจะทำในร่างกฎหมายฉบับนี้ในนาม ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ แต่เสียดาย เราเตรียมเริ่มรณรงค์ทั่วประเทศให้พี่น้องแรงงาน ให้ประชาชนทั่วไปได้รู้ถึงเนื้อหาสาระ ทำโบรชัวร์ออกมาแจกไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่สุดท้ายพรรคอนาคตใหม่ก็ถูกยุบ" นายสุนทรกล่าว.