ผู้ประท้วงกว่าร้อยคนซึ่งหลายคนมาพร้อมอาวุธปืนยาว บุกเข้าไปภายในอาคารรัฐสภาของรัฐมิชิแกน เพื่อประท้วงมาตรการล็อกดาวน์ป้องกันไวรัสโคโรนาของผู้ว่าการรัฐจากพรรคเดโมแครตและเรียกร้องให้ยกเลิกอำนาจฉุกเฉิน สมาชิกสภาบางรายต้องงัดเสื้อกันกระสุนมาใส่
ผู้ประท้วงพร้อมอาวุธยืนรักษาความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุมที่รัฐมิชิแกนเมื่อวันที่ 30 เมษายน
รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม 2563 กล่าวว่า การชุมนุมประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ในรัฐมิชิแกนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ครั้งที่ 2 เพื่อต่อต้านคำสั่งภายใต้อำนาจฉุกเฉินของเกรตเชน วิตเมอร์ ผู้ว่าการรัฐ ที่ขอให้ประชาชนอยู่บ้านและรักษาระยะห่างป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนในรัฐนี้แล้วมากกว่า 3,700 ราย จากผู้ติดเชื้อมากกว่า 41,000 ราย
พวกที่เข้าร่วม "การชุมนุมอเมริกันรักชาติ" ด้านนอกอาคารรัฐสภามิชิแกนเมื่อวันพฤหัสบดี รวมถึงสมาชิกกลุ่มติดอาวุธที่พกพาปืนมาร่วมชุมนุม และผู้ที่ติดสัญลักษณ์สนับสนุนทรัมป์ พวกเขาต่างไม่สนใจมาตรการเว้นระยะห่าง และมีเพียงไม่กี่รายที่สวมหน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก
ผู้ประท้วงมากกว่าร้อยคนบุกเข้าไปภายในห้องโถงรับรองของอาคารรัฐสภา โดยตำรวจอนุญาตให้เข้าไปได้แต่ต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิ บางส่วนยังต้องการบุกเข้าไปภายในห้องประชุมสภา แต่ตำรวจรัฐซึ่งสวมหน้ากากอนามัยขัดขวางไว้
ส.ว.เดย์นา โพลฮันกี ทวีตว่า มีผู้ชายหลายคนพร้อมปืนไรเฟิลร้องตะโกนใส่พวกเธอ พร้อมกับลงภาพของชาย 4 คน ซึ่งอย่างน้อย 1 คนถืออาวุธปืน เพื่อนสมาชิกบางคนที่มีเสื้อกั๊กกันกระสุนก็เอาออกมาใส่
ด้านนอกรัฐสภา ผู้ชุมนุมหลายคนชูป้ายข้อความต่อต้านการล็อกดาวน์ และวาดภาพวิตเมอร์เป็นอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ แกนนำที่ขึ้นปราศรัยตั้งคำถามถึงการตายเพราะโรคนี้ และอ้างว่าคำสั่งของวิตเมอร์ละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญ พร้อมเรียกร้องให้ผู้คนในรัฐนี้เริ่มเปิดธุรกิจในวันที่ 1 พฤษภาคม โดยไม่ต้องสนใจคำสั่งของผู้ว่าการรัฐหญิงคนนี้
ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของกลุ่ม "มิชิแกนรวมตัวเพื่อเสรีภาพ" แกนนำการชุมนุมครั้งนี้ ซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 8,800 ราย กล่าวว่า พวกเขาไม่เห็นด้วยหรือไม่ยินยอมให้สิทธิที่มีมาแต่เกิดของพวกเขาถูกจำกัดหรือลิดรอน ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม รวมถึงการระบาดของโควิด-19
"พวกเราเชื่อว่า ชาวอเมริกันทุกคน และชาวมิชิแกนทุกคน มีสิทธิที่จะทำงานเพื่ออุดหนุนจุนเจือครอบครัวของเรา, ได้เดินทางอย่างเสรี, ได้รวมตัวประกอบศาสนกิจและเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด, ได้รวมตัวกันประท้วงรัฐบาลของเรา และจัดการดูแลสุขภาพร่างกายของเราเอง" ข้อความของกลุ่มนี้กล่าว
การประท้วงครั้งล่าสุดนี้เกิดขั้น 1 วันหลังจากศาลในรัฐนี้ตัดสินว่า คำสั่งให้ประชาชนอยู่ในเคหสถาน ที่วิตเมอร์ออกเมื่อวันที่ 24 มีนาคมนั้น ไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญของประชาชน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 เมษายน ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มากกว่า 3,500 คน ขับรถมารวมตัวกันที่เมืองแลนซิง เมืองเอกของรัฐนี้ ใน "ปฏิบัติการรถติด" ส่วนหนึ่งลงมาชุมนุมกันด้านนอกที่ว่าการรัฐและหลายคนพกพาอาวุธปืนสั้นและปืนยาวมาด้วย วันถัดมาประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตให้ท้ายว่า "ปลดปล่อยมิชิแกน" และกระตุ้นให้คนอเมริกันอีกหลายรัฐออกมาชุมนุมประท้วงมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐต่างๆ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |