เดินป่าและปาร์ตี้ ที่ Hyskov 


เพิ่มเพื่อน    

ชาวยุโรปไม่ว่าวัยใด ชอบอาบแดดอุ่นๆ กันทั้งนั้น

ทุกคนในครอบครัว “เช็ก-เซิร์บ” แห่งหมู่บ้านฮิสโคฟ เมืองเบรูน สาธารณรัฐเช็ก นั่งกันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว ผมเดินตามโกรันขึ้นไปยังห้องครัวที่อยู่บนชั้น 2 ของบ้าน โต๊ะอาหารเช้านั่งล้อมด้วยคริสตินา เมียรักของโกรัน และลูกๆ หน้าตาจิ้มลิ้มทั้ง 3 คน ได้แก่ อเล็กซานเดอร์, ลูกา และ สเตลลา

เกือบๆ 2 ปีที่แล้วผมมาเยือนครอบครัวนี้และพักอาศัยที่บ้านหลังนี้เป็นเวลา 2 วัน ผมจับมือทักทายกับคริสตินา อวยพรวันเกิด แล้วชมว่าห้องครัวสวยดี เธอเรียกช่างมาตกแต่งดัดแปลงห้องครัวใหม่ขณะที่โกรันเดินทางไปซื้อของที่กรุงเทพฯ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สร้างความกังวลใจให้เขาเป็นอย่างมาก เพราะเธอเล่นที่เผลอ ตอนหลังเขายอมรับว่าโชคดีที่ครัวใหม่ออกมาสวยงามสมใจเมียและเขาเองก็รับได้

ผมนั่งลงข้างๆ อเล็กซานเดอร์ จับมือเขาแล้วถามว่า Do you remember me?” เด็กชายที่กำลังจะมีอายุครบ 10 ขวบในอีก 1 เดือนข้างหน้า นั่งยิ้มฟังคำแปลจากพ่อ แล้วตอบผมว่า “Yes Yes”

อเล็กซานเดอร์ หรือ “อาซาร์” พูดอังกฤษได้บ้างแล้วเพราะเริ่มเรียนจากที่โรงเรียนมาได้ประมาณปีกว่าๆ ส่วนน้องชายของเขาคือ “ลูกา” เพิ่งอายุ 5 ขวบ และน้องสาว “สเตลลา” แค่ 4 ขวบ ยังไม่เข้าโรงเรียน และทั้งคู่จำผมไม่ได้ แต่ไม่มีอากาศตื่นแขกหรือเขินอายใดๆ สองคนนี้ตัวโตเท่าๆ กัน และสนิทกันเหมือนเพื่อนมากกว่าพี่น้อง 

สองไกด์ทัวร์นำชมธรรมชาติหมู่บ้านฮิสโคฟ

อาหารเช้ามีขนมปังแผ่นปิ้ง, ชีส, ไข่ดาว และผักชุบไข่และแป้งทอดแบบแบนๆ ที่แม่โกรันทำฝากหลานๆ มาจากเซอร์เบีย คริสตินาถามผมว่า “จะรับกาแฟหรือชาไหม ?” ผมตอบ “กาแฟ แต่ขอหลังอาหารก็ได้” เมื่อผมกินขนมปังปาดด้วยชีส และไข่ดาวไป 2 ฟองแล้วก็ส่งสัญญาณบอกคริสตินาว่าพร้อมดื่มกาแฟ เธอจึงให้อาซาร์ลงไปกดเอสเปรซโซ่จากเครื่องทำกาแฟอัตโนมัติแบบแคปซูลในบาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของห้องนั่งเล่น คู่รักมักจะจิบดื่มกันตรงนี้ในฤดูหนาว ยามที่อากาศนอกบ้านไม่เป็นใจ

คริสตินาบอกว่าอาซาร์ยินดีมากที่ได้กดกาแฟมาให้ผม กาแฟรสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นหอม ทำให้ยามเช้าสดชื่นขึ้นมาทันใด หมดกาแฟแล้วผมก็ถูกอาซาร์ชวนลงไปยังห้องนั่งเล่น เขาเอาหนังสือภาพมาโชว์เหมือนครั้งที่แล้ว ตอนนั้นเขาโชว์หนังสือภาพของหนัง “สตาร์วอร์ส” และ “เดอะลอร์ดออฟเดอะริง” คราวนี้เป็นหนังสือวิทยาศาสตร์ ที่มีสัตว์ต่างๆ อยู่ในนั้นมากมายหลากหลายชนิด ทั้งสัตว์บก สัตว์น้ำ และครึ่งบกครึ่งน้ำ เขาเอ่ยชื่อสัตว์เหล่านั้นเป็นภาษาอังกฤษได้ถูกเกือบทุกชนิด หมดเล่มแรกก็เอาเล่มที่สองมาเปิดดู คล้ายๆ กับเล่มแรกคือเกี่ยวกับธรรมชาติและสัตว์

หมดหนังสือ 2 เล่ม อาซาร์ก็จูงมือผมเข้าห้องส่วนตัวของเขาซึ่งอยู่ชั้นล่างแต่คนละฝั่งกับห้องที่โกรันให้ผมนอน เด็กชายเลี้ยงเต่าในบ่อปลาเล็กๆ เต่ายังตัวเล็กมาก เขาสื่อสารให้ผมเข้าใจว่าตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย ต้องรออีกสักพัก

ในห้องอาซาร์มีของเล่นเยอะมาก และมีเปียโนหลังเล็กๆ อยู่ด้วย บอกว่าพ่อเพิ่งซื้อให้ ผมขอให้เขาเล่นให้ฟัง เขาก็เต็มใจเล่น เกร็งๆ นิดหน่อยแต่ก็ดูมีแววนักดนตรี เล่นจบผมปรบมมือให้ อาซาร์ยิ้มใหญ่ ก่อนนี้โกรันบอกผมว่านอกจากเปียโนที่เรียนพิเศษแล้ว อาซาร์ยังเรียนเทนนิสทุกวันพฤหัสบดีด้วย

อเล็กซานเดอร์

“นอวัค ยอคอวิช” ยอดนักเทนนิสของโลกจากเซอร์เบีย ทำให้เด็กเชื้อสายเซิร์บหลายคนฝันอยากเป็นอย่างเขา

ผมขออนุญาตไปแปรงฟัน อาซาร์เดินตามเข้าห้องน้ำมาด้วย คงคิดว่าผมชวนแปรงฟัน เขาแปรงเสร็จก่อนผม ล้างน้ำแล้วใช้นิ้วหัวแม่มือกรีดขนแปรงสลัดน้ำออกแล้ววางตั้งขึ้นตามลักษณะของแปรง ผมแปรงเสร็จก็ล้างน้ำแล้วเคาะแปรงกับขอบอ่าง อาซาร์มองด้วยความแปลกใจเหมือนจะถามว่าทำไมต้องเคาะ เพราะแกคงถูกสอนมาให้สลัดน้ำออกด้วยนิ้วเท่านั้น

เดินออกจากห้องน้ำ ลูกาก็เอาดาบนุ่มๆ แกนเป็นพลาสติกแต่หุ้มด้วยฟองน้ำ ที่โกรันซื้อฝากทั้ง 3 คนมาแจกให้กับทั้งอาซาร์และสเตลลา จากนั้นการต่อสู้ก็เริ่มต้น โดยอาซาร์ต่อให้น้อง 2 คนอยู่ฝ่ายเดียวกัน ผมถือโอกาสอาบน้ำตอนที่สงครามกำลังดำเนินไป

แต่งตัวเสร็จสงครามก็ย้ายสมรภูมิออกไปนอกบ้านเรียบร้อยแล้ว ผมเดินขึ้นไปบนชั้น 2 ของบ้าน มีประตูทางออกที่ห้องครัวออกไปยังลานเพลินข้างบ้านที่ติดกับเนินขา โกรันขอให้ผมช่วยตัดหญ้าด้วยเครื่องแบบรถเข็น ระหว่างนี้เด็กๆ ก็ขึ้นไปเล่นบนแทรมโปลีนที่อยู่บนลานเนินอีกชั้น มีลูกของเพื่อนบ้านหลังติดกันมาแจมอีก 2 คน ชื่อ “สตีเฟน” หรือที่เรียกกันว่า “เจแปน” (หน้าออกไปทางญี่ปุ่น) เด็กสุดในกลุ่ม และ “เวโรนิกา” พี่สาวของเจแปน วัยเดียวกับอาซาร์ ผมตัดหญ้าเสร็จก็เดินไปที่เด็กๆ กระโดดกันอยู่ พวกเขาอยากให้ผมเข้าไปกระโดดด้วย ผมบอกว่าเดี๋ยวพัง เด็กๆ จึงไม่เซ้าซี้ พวกเขาคงคิดว่ามันอาจจะพังจริงๆ ถ้าผู้ใหญ่ขึ้นไปกระโดด

เวลาเที่ยงแล้ว แขกเริ่มมาบ้านเพื่อฉลองวันเกิดของคริสตินา แต่อาซาร์และเวโรนิกาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันก็มาชวนผมไปทัวร์หมู่บ้านฮิสโคฟ อาซาร์บอกเป็นภาษาอังกฤษว่า “Hyskov walk” และ “not far” ผมจึงตกลง โดยไปขอกับโกรันและคริสตินาก่อนว่าโอเคไหม พวกเขายินดี

ไกด์ทัวร์ทั้งสองพาผมเดินออกจากบ้านเลี้ยวขวาไปบนถนนก่อนจะตัดเข้าบ้านหลังหนึ่งด้านซ้ายมือ บ้านหลังนี้มีรูปทรงแปลกตา ต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์ขึ้นอยู่รอบบ้าน หรือถ้าพูดให้ถูกอาจต้องบอกว่าบ้านมาอยู่ในหมู่แมกไม้ ระบบน้ำของที่ดีมาก แอ่งน้ำพุตั้งอยู่กลางลานบ้าน มีรถรางสำหรับขึ้นลงระหว่างลานบ้านและลำห้วย โดยมีสะพานไม้และสะพานหินอย่างละหนึ่งสำหรับข้ามลำห้วย ซึ่งลำห้วยนี้มีเขื่อนหินกั้นไว้สำหรับเปิดปิดเพื่อทำน้ำตก เด็กทั้งสองช่วยกันหมุนพวงมาลัยตัวควบคุมการปล่อยน้ำที่ตรงกลางสะพานหิน ทำให้ “โลหะรูปคน” หมุนกังหันด้านล่างเขื่อนทำงาน เพลาของกังหันหมุนช้าหรือเร็วก็จะขึ้นอยู่กับการหมุนพวงมาลัยที่กลางสะพานหินเพื่อควบคุมปริมาณน้ำที่ปล่อยลงมา เด็กๆ สาธิตให้ผมดูอย่างจริงจังและภูมิใจ

เวโรนิกา

สถานที่แห่งนี้สร้างไว้ให้เป็นเหมือนศูนย์การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์และธรรมชาติขนาดย่อมโดยเจ้าของบ้านที่ไม่คิดหวงว่าใครจะล่วงล้ำเข้ามา หลังจากโชว์นั่นโชว์นี่อยู่ได้สักพัก สองไกด์เยาวชนก็พาผมเดินเข้าป่าแต่ยังคงเลียบลำห้วยไว้แม้ทางจะรกขึ้นเรื่อยๆ

ภาษาอังกฤษของเวโรนิกาดีกว่าของอาซาร์ เมื่ออาซาร์นึกคำศัพท์ไม่ออกก็จะถามเวโรนิกา เธอมักจะตอบได้ แต่เธอขี้อายไม่ค่อยกล้าคุยกับผมตรงๆ ส่วนอาซาร์เป็นเด็กกล้าแสดงออกและยิ้มแย้มแจ่มใส

ทั้งคู่เดินไปเจอใบไม้ขนาดกว้างเท่าใบบัวเข้าก็หักมาคนละใบแล้วเอามาสวมศีรษะต่างหมวก เหมือนจะตั้งใจให้ผมถ่ายรูปเก็บไว้  เราเดินกันไปสักพักก็มองเห็นถนนอยู่ด้านบน แต่ก่อนจะปีนกันขึ้นไปอย่างทุลักทุเลยังถนน ก็มีเด็กชายคนหนึ่งตะโกนคุยกับเด็กทั้งสอง เห็นรางๆ ว่าสวมหมวกและคาดตาแบบโจรสลัด ใช้มีดโค้งๆ ฟันไปที่ต้นไม้ แล้วพวกเราก็ขึ้นถนน เดินย้อนไปนิดหน่อยก็เข้าบ้านซึ่งงานฉลองวันเกิดของคริสตินาได้เริ่มขึ้นแล้วบนลานเพลินที่ขนานอยู่กับชั้นสองของบ้าน

ผมเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ พอออกมาอาซาร์และเวโรนิกาเอาแตงโมลูกใหญ่ผ่าซีกมายืนรออยู่หน้าบ้านเพื่อจะให้ผมเอาไปให้สัตว์ปีกชนิดหนึ่งในเล้าของบ้านเวโรนิกา ทั้งคู่ประสานเสียง “มันคืออะไรสักอย่างที่ไม่ใช่ชิคเก้น” ผมว่า “ดัค” ทั้งคู่บอก “ไม่ใช่ดัค” ผมบอก “กูส” หรือห่าน แต่ไม่มีใครรู้จักห่าน คริสตินาเดินลงมาพอดี ผมถามว่ามันคือตัวอะไร เธอเรียกไม่ถูกแต่บอกว่า “ไม่ใช่ชิคเก้น” ผมว่า “ดัคหรือเปล่า?” เธอขมวดคิ้ว “อาจจะใช่ ไปดูเองเถอะ”

พอไปถึงมันคือแม่ไก่ ผมจึงบอกว่า “มันคือชิคเก้นนั่นแหละ แต่ถ้าเป็นตัวเมียหรือแม่ไก่ เราเรียกว่าเฮ็นก็ได้” เมื่อเข้าไปในเล้าเล็กๆ ที่มีไก่อยู่สี่ห้าตัว เด็กทั้งคู่ก็ให้ผมเป็นคนวางแตงโมลง พวกเขาดูมีความสุขมากที่ได้เห็นผมเอาอาหารให้แม่ไก่ แล้วก็อนุญาตให้ผมไปร่วมวงปาร์ตี้ได้  

โกรันทำหน้าที่พ่อครัวย่างหมูและไก่เลี้ยงแขกในวันเกิดศรีภรรยา

            อาหารพร้อมแล้ว มีคูสคูส (Couscous) เป็นอาหารจากแอฟริกาเหนือ ทำจากแป้งหมี่หยาบมีลักษณะแห้งเหมือนปลายข้าว คลุกผสมกับมะกอกดอง ลูกแบล็กเบอร์รี ผัดสลัดบางชนิด มะเขือเทศ และพริกหลากสี มีชื่อเล่นว่าเป็น “พาสต้าแห่งแอฟริกาเหนือ” แต่ผมกินแล้วได้ความเป็นข้าวแบบบ้านเราอยู่พอสมควร รสออกเค็มๆ หวานๆ เปรี้ยวๆ  นอกจากนี้ก็มีฮุมมุส (Hummus) จากบีทรูทและมันเทศซึ่งมีลักษณะเหมือนซอส และสลัดผักในชามใบเขื่อง

ส่วนอาหารประเภทเนื้อสัตว์เป็นหน้าที่ของโกรันที่กำลังย่างหมูและไก่ในเตาย่างสีดำแบบปิดฝาได้เพื่อเก็บควันเอาไว้ให้เนื้อหอม ผมไม่รู้ว่าเขาหมักอะไรลงไป เมื่อแบ่งมาให้ผมชิ้นใหญ่ชิ้นหนึ่งพบว่ารสชาติดีเกินคาด จนต้องลงไปหยิบเบียร์ในห้องใต้ดินที่เก็บไว้ตั้งแต่เมื่อคืนซึ่งอุณหภูมิเหมาะเจาะพอดี

คริสตินา ภรรยาของโกรัน และเพื่อนๆ ของเธอในศาลาอเนกประสงค์

ผมหยิบ Kozel สีน้ำตาลให้ตัวเอง, Kozel สีเขียวให้ “เจค็อบ” พ่อของเวโรนิก้า และ Birell สีน้ำเงิน ซึ่งไม่มีแอลกอฮอล์ให้ “อีวา” แม่ของเวโรนิกา ส่วนผู้หญิงคนอื่นๆ ดื่มแชมเปญและไวน์ขาว  

แขกที่เหลือมีคู่รักจากกรุงปรากชื่อจอร์จและสเตลลา พวกเขาเคยมาเที่ยวทะเลที่เมืองไทย มีโอวก้าเพื่อนสนิทของคริสตีน่า และอีกจำนวนหนึ่งที่ผมจำชื่อไม่ได้ และเด็กน่ารักอีกคนชื่อ “เอลิซาเบต” เธอโตกว่าสเตลลาแต่เด็กกว่าเวโรนิกา ช่างพูดช่างจา แนะนำตัวเองกับผมตามแบบฉบับที่สอนกันในโรงเรียน น่ารักไปอีกแบบ มีเด็กชายอีกคนชื่อ “ฟันดา” เพื่อนของอาซาร์ เป็นไปได้ว่าฟันดานี่แหละคือโจรป่าที่เราเจอก่อนหน้านี้  

ทุกคนทักทายแนะนำตัว ถามไถ่ผมถึงการเดินทาง ถามถึงความรู้สึกถึงบรรยากาศของหมู่บ้านเชิงเขาแห่งนี้ ขอให้ผมพูดถึงเมืองไทยให้ฟัง พวกเขาล้วนเป็นมิตร ยิ้มแย้ม บทสนทนาลื่นไหลต่อเนื่อง

อลิซาเบต และ สเตลลา

เราดื่มกินพูดคุยกันจนเย็น ผมก็ปลีกตัวลงไปดูฟุตบอลในห้องนั่งเล่น แมวสีเทาซึ่งเป็นตัวใหม่ในจำนวนทั้งหมด 3 ตัวมาเล่นด้วย ครั้งที่แล้วที่ผมมาก็มี 3 ตัว แต่หมาตัวใหม่ซึ่งคริสตินาซื้อมาเป็นเพื่อนกับหมาตัวเก่า “ไลก้า” กัดตายไปเสียตัวหนึ่ง โดยที่เด็กๆ ยังไม่มีใครรู้เรื่อง โกรันเตือนผมก่อนถึงบ้านเมื่อวานว่าห้ามพูดถึงแมวตัวที่หายไปอย่างเด็ดขาด เขาบอกลูกๆ ว่าแมวได้หายเข้าป่าไปเอง

อาซาร์ลงมาดูฟุตบอลกับผมด้วย มีแมวอีกตัวสีขาว-ดำ เดินวนไปมา และอีกตัวสีปลาสลิดนอนนิ่งอยู่ที่มุมหนึ่ง อาซาร์ทำท่าทางประกอบคำอธิบายบุคลิกของแมวแต่ละตัว แปลความหมายได้ว่าตัวสีเทาเป็นมิตรแต่ขี้ตกใจ ตัวสีขาว-ดำชอบเดินไปเดินมาเหมือนหาอะไรทั้งวัน ส่วนตัวสีปลาสลิดนอนหลับ 3 วัน แล้วค่อยตื่นมากินอาหารรวดเดียว 3 ชั่วโมง

“แต่ผมนอนกับตัวสีเทา” อาซาร์จบคำอธิบาย.

โทรทัศน์สี และ แมวขาว-ดำ 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"