"คลัง" วุ่น ปชช.แห่ร้องทวงสิทธิ์เงินเยียวยา 5 พันอื้อ "สศค." เผย 1 พ.ค.63 เปิดยื่นลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์รอบใหม่ "ธนกร" ยันไม่เกิน 8 พ.ค.จ่ายเงินครบทั้ง 16 ล้านคน "ทักษิณ" โผล่เจ้าภาพงานศพ "น้องปลายฝน" เด็กหญิงหน่อยรับเขียนให้เอง "จตุพร" ซัดบทเรียน "บิ๊กตู่" ทบทวนมาตรการจ่ายเงินคนจน

    ที่กระทรงการคลัง วันที่ 30 เม.ย. ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีการตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องเรียนกลุ่มผู้ไม่ได้สิทธิ์  5,000 บาท บริเวณหน้าประตู 4 ปรากฏว่ามีประชาชนเดินทางมายื่นร้องเรียนเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถรับเรื่องร้องเรียนได้ประมาณ 100 ราย โดยส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มอาชีพผู้ขับรถอิสระ ทั้งแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ค้าขาย และมัคคุเทศก์ 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการยื่นเรื่องร้องเรียนตลอดทั้งวันเกิดความชุลมุนขึ้นเป็นช่วงๆ  เนื่องจากมีผู้เดินทางมาเป็นจำนวนมาก ทำให้การจัดระเบียบเว้นระยะห่างทางสังคม (Social  Distancing) ไม่สามารถทำได้ เพราะประชาชนรวมตัวเรียกร้องไม่พอใจกระทรวงการคลังที่ตรวจสอบนาน ทำให้ได้รับสิทธิ์ล่าช้า รวมทั้งไม่เชื่อมั่นว่าจะได้เงินเยียวยา แม้กระทรวงการคลังยืนยันว่าจะมีผู้รับสิทธิ์ถึง 16 ล้านคน และจะเยียวยาทุกรายที่ได้รับผลกระทบแน่นอน
    อย่างไรก็ตาม นอกจากประชาชนที่มายื่นร้องเรียนแล้ว ยังมีประชาชนที่ต้องการให้รัฐบาล โดยกระทรวงการคลังเร่งแก้ไขปัญหา กรณีมีประชาชนต้องฆ่าตัวตายรายวัน ซึ่งมีผู้เรียกร้องกลุ่มหนึ่งได้ถือป้ายมีข้อความว่า "จะให้ตายอีกกี่คนถึงจะได้เงิน" และ "ต้องมีคนตายอีกเท่าไหร่เพื่อสังเวยความไม่เอาไหนของรัฐบาลนี้"
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งได้เกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อนายพงศ์พิชาญ ธนาธิรพงศ์ อายุ 57 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ ซึ่งขี่รถมอเตอร์ไซค์ส่วนตัวมาจอดกลางถนน และร้องโวยวายเรียกร้องสิทธิ์ แม้ว่ากระทรวงการคลังจะมีโต๊ะรับร้องเรียนแล้วก็ตาม โดยจอดรถขวางหน้าประตูตะโกนเสียงดังว่าต้องการเงินเยียวยา 5,000 บาท ก่อนจะปีนรั้วกระทรวงบอกต้องการให้เหล็กทิ่มคอ โดยอ้างว่าผู้มากินยาฆ่าตัวตายและนอนขวางประตูทำแล้วได้เงินทันทีตนจึงทำบ้าง
    นายพงศ์พิชาญบอกว่า เคยมีอาชีพเป็นสื่อมวลชนเก่ากระทรวงการคลังช่วง 20 ปีก่อน รู้จักนายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง และนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลังเป็นอย่างดี โดยอ้างว่า นายประสงค์ได้โทร.หาเป็นการส่วนตัวในช่วงต้นเดือน เม.ย. และระบุหมายเลขโทรศัพท์ของนายประสงค์ได้อย่างถูกต้อง 
    "ผมได้รับความเดือดร้อนไม่ได้เงินเยียวยา ที่บ้านมีค่าใช้จ่าย แม่ไม่สบาย ต้องส่งลูกเรียน ไม่มีรายได้ แต่คลังอ้างว่าจะดูแลผ่านมากว่า 1 เดือนไม่มีความคืบหน้าไม่ได้เงิน" นายพงศ์พิชาญระบุ
8 พ.ค.จ่ายเยียวยาครบ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายพงศ์พิชาญกำลังแสดงท่าทางจะปีนรั้วกระทรวงการคลังนั้น เจ้าหน้าที่ รปภ.กว่า 10 นายได้นำตัวเขาลงมาจากรั้ว และนำบัตรประชาชนพร้อมหมายเลขโทรศัพท์ไปตรวจสอบการลงทะเบียน ซึ่งปรากฏว่าระบบแจ้งว่านายพงศ์พิชาญได้รับสิทธิ์มาตรการเยียวยา กระทรวงการคลังจะเร่งโอนเงินให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตามนายพงศ์พิชาญยืนยันต้องการให้โอนเงินภายในวันนี้ ไม่อย่างนั้นจะไม่ยอมกลับ เพราะไม่เชื่อกระทรวงการคลัง ทำให้ผู้ที่มารอร้องเรียนต่อแถวยาวเกิดความล่าช้า ก่อนที่สุดท้ายนายพงศ์พิชาญจะเดินทางกลับไป
    ขณะที่นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ในวันที่  1 พ.ค.63 เว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com จะเปิดโอกาสให้ผู้ที่พลาดไปกดปุ่มยกเลิกสิทธิ์รับการเยียวยา หรือยกเลิกการทบทวนสิทธิ์ "ปุ่มสีแดง" โดยไม่ตั้งใจ ให้สามารถเข้าไปกด "ปุ่มสีม่วง" เพื่อยื่นทบทวนสิทธิ์ได้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ลงทะเบียนร้องเรียนมาจำนวนมากว่าไปกดยกเลิก ทำให้ไม่สามารถเข้าไปทำรายการเพื่อขอรับเงินเยียวได้ โดยระบบจะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่ 06.00-18.00 น. ทุกวัน
    "การจ่ายเงินในสัปดาห์หน้า กระทรวงการคลังจะจ่ายเงินให้ผู้ที่ผ่านสิทธิ์ได้ทั้งหมด 11 ล้านคน และจะจ่ายทั้งหมดภายในกลางเดือน พ.ค. ซึ่งไม่จำเป็นต้องครบทั้ง 16 ล้านคน เพราะ 16 ล้านคนเป็นการตั้งวงเงินให้เพียงพอต่อการจ่ายเงินผู้รับสิทธิ์ ต้องตั้งงบประมาณขอวงเงินกู้มาใช้ในโครงการ ยืนยันว่าผู้ผ่านเกณฑ์จะได้รับเงินทุกคน" ผอ.สศค.กล่าว
    ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการ รมว.การคลัง กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าประชาชนที่มาร้องเรียนมีหลายกรณี ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจจะไม่สามารถตอบหรือไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทันที แต่ก็จะรับเรื่องไว้เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป แต่ยืนยันว่าหากประชาชนลงทะเบียนถูกต้อง ครบขั้นตอน มีเงื่อนไขถูกต้อง ก็จะได้รับเงินแน่นอน
    เลขาฯ รมว.การคลังกล่าวว่า โครงการจ่ายเงิน 5,000 บาท คาดว่าในวันที่ 8 พ.ค.63 จะจ่ายได้ครบทุกคน โดยตัวเลขที่คาดว่าจะจ่ายเป็นจำนวน 16 ล้านคน ซึ่งสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค.คาดว่าจะแจกเงินได้ไม่น้อยกว่า 10.6 ล้านคน ซึ่งเหลืออีก 5 ล้านคนพยายามเร่งในกระบวนการทบทวนสิทธิ์ ส่วนการลงพื้นที่ของผู้พิทักษ์สิทธิ์ก็เร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย ทำงานร่วมกับคลัง และผู้ลงทะเบียนก็เตรียมเอกสารพร้อม ทำให้การตรวจสอบรวดเร็ว และคาดว่าจะได้เงินในไม่ช้า
     ส่วนที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงโครงการเยียวยาเกษตรกรครัวเรือนละ 5,000 บาทเป็นเวลา 3 เดือนว่า คาดว่าเงินงวดแรกจะถึงมือเกษตรกรประมาณกลางเดือน พ.ค.นี้ โดยในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ อยู่ระหว่างดำเนินการ เบื้องต้น  10 ล้านครัวเรือนที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรฯ และให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ เช่น ในส่วนของอ้อยที่กระทรวงอุตสาหกรรมดูแล, ยาสูบที่กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลังดูแล  หลังจากงานหน่วยงานเหล่านี้ตรวจสอบก็จะส่งข้อมูลมาให้กระทรวงเกษตรฯ เพื่อที่จะตรวจสอบความซ้ำซ้อน
    "โครงการเยียวยาเกษตรกรด้วยเงิน 5,000 บาทเป็นเวลา 3 เดือนนี้ เราต้องการที่จะช่วยเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ให้สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ ไม่รับภาระจนมากเกินไป นี่คือสิ่งที่รัฐบาลคิด เพราะฉะนั้นจะพยายามไม่ให้ซ้ำซ้อนและส่งมอบความช่วยเหลือให้ทั่วถึงผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ" รมว.เกษตรและสหกรณ์กล่าว
'ทักษิณ' เจ้าภาพงานศพ
    ที่วัดแสนภูดาษ ม.2 ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีสวดบำเพ็ญกุศล น.ส.ปลายฝน อ่ำสาริกา อายุ 19 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านบางแค กทม. ซึ่งแขวนคอตัวเองเสียชีวิต หลังวาดภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  พร้อมเขียนข้อความระบายถึงความอัดอั้นตันใจในความทุกข์ยากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งการประกาศมาตรการเคอร์ฟิวและการประกาศปิดเมือง โดยที่บอร์ดรายชื่อเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมปรากฏชื่อ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมในวันที่ 1 พ.ค.63 ด้วย
    นายคงกฤช หงษ์วิไล อดีต ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นผู้มาเขียนรายชื่อ ดร.ทักษิณในฐานะเจ้าภาพ ระบุว่ามาในนามของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โดยนำพวงหรีดมามอบให้ รวมถึงเงินช่วยเหลือและสิ่งของจำนวนหนึ่ง 
    "สำหรับการใช้ชื่อ ดร.ทักษิณ ไม่ได้ต้องการให้เป็นเรื่องการเมือง ทุกคนต้องช่วยเหลือกัน" นายคงกฤชกล่าว
    นอกจากนี้ ในงานสวดพระอภิธรรมดังกล่าวยังมี ดร.นภาพร เพ็ชร์จินดา รองเลขาธิการพรรคเสรีรวมไทย และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรค นำของฝากเป็นนมกล่องจำนวน 3-4 แพ็ก สำหรับใช้เลี้ยงเด็ก พร้อมหน้ากากอนามัยแบบผ้าติดตราหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และเงินสดอีกจำนวนหนึ่งมามอบให้ญาติของผู้เสียชีวิตอีกด้วย
    นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวผ่านรายการพีซทอล์กตอนหนึ่งว่า "การฆ่าตัวตายของปลายฝนในช่วงต้นฝนเมื่อ เม.ย.63 เป็นโศกนาฏกรรมและคงจะไม่เป็นความตายสูญเปล่า เพราะความตายของเธอจะทวงความยุติธรรมให้กับทุกศพที่ฆ่าตัวตายก่อนหน้านี้ ภาพวาดสุดท้ายของเธอจะเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทยอีกยาวนาน 
    ความตายที่เกิดจากมาตรการเยียวยาไม่ทั่วถึง แต่รัฐบาลไม่เคยส่งตัวแทนไปแสดงความเสียใจ หรือรู้สึกมีสำนึกรับผิดชอบ กรณีความตายของปลายฝนคงสะท้อนมาตรการเยียวยาของรัฐตลอดเวลาที่ผ่านมาได้อย่างชัดเจนว่า ถ้าเร่งรีบเยียวยาให้ครบถ้วน ทันกาลตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว เธอคงไม่จบชีวิตลง  และคนอื่นก็คงไม่ฆ่าตัวตายเช่นกัน นายกรัฐมนตรีควรคิดตรวจสอบกรณีความตายของปลายฝน แล้วย้อนทวนไปพิจารณาการฆ่าตัวตายทุกศพ ก่อนหน้านี้ที่ถูกทอดทิ้งมา จะพบว่าสิ่งควรทำมากที่สุดคือ เร่งเยียวยาให้ครบถ้วน เพราะคนฆ่าตัวตายล้วนเป็นผลพวงความล้มเหลวจากมาตรการเยียวยาของรัฐบาลทั้งสิ้น" นายจตุพรกล่าว.