ไม่รู้จะยินดีอย่างไรแล้ว!
ข่าวดี...คุณหมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน แถลงตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่วานนี้ (๓๐ เมษายน) ต่ำสิบเป็นวันที่สี่
แค่ ๗ ราย
ยอดผู้ป่วยสะสม ๒,๙๕๔ คน รักษาหายแล้ว ๒,๖๘๗ ราย
เท่ากับว่ายังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพียง ๒๖๗ คน เท่านั้น
ขณะที่ยอดรวมทั่วโลก ๒๔ ชั่วโมงเพิ่มกว่า ๒ แสนราย ในไทยเพิ่ม ๗ คน ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจกันของคนไทย
และความสามารถในการบริหารจัดการของภาครัฐ
แม้วันนี้ประเทศไทยถอยจากปากเหวโควิดไปไกลพอสมควร
แต่ก็ยังมีปัญหาต้องแก้อีกมาก
โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชน
ช่วงนี้ข่าวดีหลายๆ ข่าวจึงเรียงตามกันมาติดๆ
"คลายล็อก" ที่หลายๆ คนฝันถึง อีกไม่กี่วันจะเป็นจริง
เตรียมตัวให้พร้อม ๓ พฤษภาคม นี้ กลุ่มกิจการ กิจกรรมที่จะผ่อนคลายให้ดำเนินการได้ มี ๖ กลุ่ม ๑.ตลาด คือ ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย
๒.ร้านจำหน่ายอาหาร คือ ร้านอาหารทั่วๆ ไป ไม่เกิน ๒ คูหา ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศกรีม (นอกห้าง) ร้านอาหารริมทาง รถเข็น หาบเร่
๓.กิจการค้าปลีกส่ง คือ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ บริเวณพื้นที่นั่งยืน รับประทาน รถเร่ หรือรถวิ่งขายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านค้าปลีกขนาดย่อม ร้านค้าปลีกชุมชน ร้านค้าปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม
๔.กีฬาและสันทนาการ คือ กิจกรรมในสวนสาธารณะ ได้แก่ เดิน รำไทเก๊ก เป็นต้น สนามกีฬากลางแจ้ง ที่เป็นการออกกำลังกายโดยไม่ได้เล่นเป็นทีมและมีการแข่งขัน ได้แก่ เทนนิส ยิงปืน ยิงธนู จักรยาน กอล์ฟและสนามซ้อม
๕.กลุ่มร้านตัดผมเสริมสวย คือ เฉพาะตัด สระ ไดร์ผม
๖.อื่นๆ เช่น ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับฝากเลี้ยงสัตว์
จะเรียกว่าทั้ง ๖ กลุ่มนี้ เป็นหนูทดลองก็ได้ หาก ๙๐% ให้ความร่วมมือมาตรการป้องกันการระบาดซ้ำ ก็เปิดทำมาหากินกันยาว
กลุ่มอื่นๆ จะทยอยเปิดตามมา
แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องยอมรับกติกา ถอยหลังกลับ ๑ ก้าว
ทีนี้มันมีประเด็นเรื่อง "ฆ่าตัวตาย"
มีคนบางจำพวกไม่อยากให้จบ วันๆ นั่งดูข่าวใครฆ่าตัวตายบ้าง แล้วเอามาเจือสม ผูกโยงกับเรื่องเงินเยียวยา ๕ พันบาท เพื่อโจมตีรัฐบาล
ถ้าใช้สมองคิดกันสักหน่อย จะเห็นความจริงที่ว่า รัฐบาลไม่มีทางเลือกมากนัก ในวิธีเยียวยาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-๑๙
มีผู้รู้เสนอกันเยอะแยะว่าทำไมไม่ทำอย่างนั้น อย่างนี้
แจกตามฐานผู้เสียภาษีสิ เพราะต่างประเทศเขาทำแบบนั้น
แจกทุกครัวเรือนง่ายกว่า
แจกทุกคนไปเลยจะได้จบ
มันก็คิดได้ แต่ถามว่ามีฐานข้อมูลอะไรอยู่ในมือบ้าง
แล้วเงินพอไหม?
เพราะที่เห็น รัฐบาลออก พ.ร.ก.กู้เงินก็ด่ากันขรม
ฐานผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแค่ ๑๑ ล้านคน ถ้าจ่ายเงินเยียวยาตามนี้ รัฐบาลเละเป็นโจ๊ก
คนไทยมีอาชีพนอกระบบจำนวนมาก รัฐไม่มีฐานข้อมูลการประกอบอาชีพ นี่คือจุดที่ยากที่สุด
ฉะนั้น ความผิดพลาดในการจ่ายเงินเยียวยา ๕ พันบาท เกิดขึ้นได้แน่นอน เมื่อพลาดแล้วก็แก้กันไป นั่นคือวิธีการแก้ปัญหาร่วมกัน
การฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออก
และการเอาคนฆ่าตัวตายมาหาประโยชน์ทางการเมือง ก็เป็นการกระทำที่ต่ำทราม ในยามบ้านเมืองเจอวิกฤติเช่นนี้
คุณหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม โพสต์เฟซบุ๊ก เอาไว้น่าสนใจ
-------------------------
...ถึงคณะนักวิจัยทั้ง ๗ ท่าน
ผมได้อ่านจดหมายชี้แจงของคณะนักวิจัยโครงการ "คนจนเมืองที่เปลี่ยนไปในสังคมเมืองที่กำลังเปลี่ยนแปลง" ซึ่งคำชี้แจงได้ย้ำให้เห็นภาพว่า เป็นการแถลงผลการรวบรวมข้อมูลจากสื่อ ว่าแรงจูงใจที่ฆ่าตัวตายนั้นสัมพันธ์กับผลกระทบโควิด-๑๙
ต้องขอบคุณคณะนักวิจัยทั้ง ๗ ท่าน ที่ยอมรับแบบตรงไปตรงมาว่า รวบรวมข้อมูลจากสื่อ ทั้งๆ ที่ท่านเป็นนักวิจัยระดับศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์และดอกเตอร์ แต่เชื่อข้อมูลหน้าหนังสือพิมพ์
ผมเคยมีประสบการณ์ที่อยากให้ คณะอาจารย์ได้เรียนรู้ ผมเคยรวบรวมข้อมูล ชาวนาฆ่าตัวตาย จากโครงการรับจำนำข้าว สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยรวบรวมจากสื่อเช่นกันได้ ๑๖ ราย
ก่อนที่ผมจะขึ้นเป็นพยานศาล ในคดีรับจำนำข้าว เพื่อความรัดกุม ทางทีมได้ตรวจสอบข้อมูลกับกรมสุขภาพจิต ที่ส่งนักวิชาการลงไปเก็บรายละเอียด จากญาติและผู้ใกล้ชิด ปรากฏว่าการฆ่าตัวตายที่สัมพันธ์กับโครงการจำนำข้าวจริงๆ มี ๙ ราย เท่ากับว่า ความแม่นยำของสื่อนั้นประมาณ ๕๖ เปอร์เซ็นต์
ในขณะที่ผมเป็นแค่นักการเมือง ไม่ใช่นักวิจัยหรืออาจารย์มหาวิทยาลัย ยังต้องตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก แต่คณะของท่านเป็นนักวิชาการโดยอาชีพ และเป็นนักวิจัย แต่รวบรวมข้อมูลจากสื่อ โดยไม่ตรวจสอบเชิงลึก มันจึงทำให้สังคมมองว่า ท่านกำลังใช้เสรีภาพทางวิชาการ เพื่อผลทางการเมืองมากกว่า แม้ท่านจะปฏิเสธก็ตาม
ผมจึงอยากเรียกร้องไปยังกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ให้ตรวจสอบความคุ้มค่าของการใช้จ่ายงบประมาณ เพราะงบเหล่านี้ก็มาจากเงินภาษีของประชาชน ที่สำคัญความเป็นนักวิชาการ ต้องมีมาตรฐาน คุณธรรมและจริยธรรม ในการสร้างนักศึกษาที่มีคุณภาพออกมารับใช้สังคมด้วย
หมายเหตุ: มีหลายท่านอยากทราบรายชื่อคณะนักวิจัยทั้ง ๗ ท่าน ผมจึงขออนุญาตนำมาลงให้ทราบครับ
๑.ศ.ดร.อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
๒.รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
๓.รศ.ดร.ประภาส ปิ่นตบแต่ง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
๔.ผศ.ดร.บุญเลิศ วิเศษปรีชา คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
๕.รศ.ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยทักษิณ
๖.ผศ.ดร.ธนิต โตอดิเทพย์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
๗.ผศ.ดร.ธนพฤกษ์ ชามะรัตน์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น....
-----------------------
ครับ....ข่าวฆ่าตัวตายที่ปรากฏในสื่อ มาจากหลายสาเหตุ
บางรายก็ไม่เป็นไปตามที่ปรากฏเป็นข่าว
และข่าวก็ต่างจากงานวิจัย เพราะงานวิจัยจะผ่านการกลั่นกรองมากกว่า ใช้เวลาหาข้อมูลมากกว่า มีความละเอียดกว่า โดยผู้เชี่ยวชาญ
เช่นเดียวกัน ที่ปรากฏเป็นข่าวว่า รปภ.สาวตกงาน ผูกคอตาย เนื่องจากตกงาน และไม่ได้รับเงินเยียวยา ๕ พันบาท
กลายเป็นเหยื่อให้ ฝ่ายแค้น ฝ่ายประชาธิปตุง นักวิชาเกิน ไปขยายความด่ารัฐบาล ว่าไร้ประสิทธิภาพ มักง่าย ล้มเหลว ในการช่วยเหลือประชาชน
แล้วความจริงก็ปรากฏ.....
คนตายไม่ได้พูด
แต่คนเป็นไปขยายความแทน
จากการตรวจสอบการลงทะเบียนมาตรการเยียวยาของ น.ส.ปลายฝน อ่ำสาริกา พบว่าได้ขอเงินเยียวยาจากทางรัฐบาล และได้รับเงินครั้งที่ ๑ ไปแล้ว เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๓
จำนวน ๕,๐๐๐ บาท
แน่นอนความตายไม่ได้เกี่ยวกับเงินเยียวยา แต่เกิดจากความเกลียดชัง ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร
คนไม่ชอบรัฐบาล ลุงตู่ มีเยอะ
เช่นเดียวกัน คนไม่ชอบรัฐบาลระบอบทักษิณ ก็มีเต็มไปหมด
และทุกรัฐบาลล้วนมีการฆ่าตัวตายอันเนื่องมาจากสภาพความเป็นอยู่ ความเดือดร้อนจากเศรษฐกิจปากท้องด้วยกันทั้งสิ้น
ไม่ใช่เพิ่งจะมีเอาในรัฐบาลนี้
คำถามคือ นักการเมือง นักเคลื่อนไหว นักวิชาการ ควรจะมีบทบาทต่อเรื่องนี้อย่างไร
จับแพะชนแกะ ด่าคนไม่ชอบขี้หน้า เอามัน คือวิถีที่ต้องปฏิบัติอย่างนั้นหรือ
หมาเลียตูดไม่ถึงกันแล้วทั้งนั้น!
อย่าเอาคนตายมาหาประโยชน์
โลกใบนี้มีคนฆ่าตัวตายสำเร็จ ๑ คน ทุกๆ ๔๐ วินาที
ตกปีละ ๘ แสนคน
วันนี้ทั่วโลกตายเพราะโควิด-๑๙ แล้ว กว่า ๒ แสนคน ก็ใช่ว่าจะน้อย
แต่คนบางพวกเอาสถิติฆ่าตัวตายกับโควิดมากาง แล้วด่ารัฐบาลว่าไม่ทำอะไรเลย ไม่ควรอยู่บริหารประเทศต่อไป พวกนี้อำมหิต!
เพราะมาจากพื้นฐานทางความคิดที่ว่า อยากให้ตายเยอะๆ
รัฐบาลจะได้หมดความชอบธรรม
เห็นชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" เป็นเจ้าภาพสวดศพ ก็ไม่ต้องอธิบายอะไรกันมาก
เรื่องของมนุสสเปโตล้วนๆ.
ผักกาดหอม
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |