ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net "การดำเนินการผ่อนปรนครั้งนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของคนไทยทั้งประเทศ ที่ได้ตัดสินใจร่วมกันแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ไปด้วยกัน ทั้งการแพร่ระบาดและผลกระทบทางเศรษฐกิจ หากเราควบคุมสถานการณ์ทางสาธารณสุขในระยะแรกได้ ก็จะมีการดำเนินการผ่อนปรนในระยะต่อๆ ไปได้" โฆษก ศบค. "นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน" ถ่ายทอดสารจาก "บิ๊กตู่" นายกฯ และ ผอ.ศูนย์ฯ เลือกวันเมย์เดย์ประเดิมคลายล็อกล็อตแรก 6 กลุ่มกิจการ แต่ให้เริ่มเปิดกิจการทำกิจกรรมได้จริงวันที่ 3 พ.ค. ได้แก่ 1.ตลาด ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย 2.ร้านจำหน่ายอาหาร อาหารทั่วไป ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศกรีม (นอกห้างสรรพสินค้า) ร้านอาหารริมทาง รถเข็น หาบเร่ 3.กิจการค้าปลีกส่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อบริเวณพื้นที่นั่ง ยืน รับประทาน รถเร่หรือรถวิ่งขายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านค้าปลีกขนาดย่อย ร้านค้าปลีกชุมชน ร้านค้าปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม 4.กีฬา สันทนาการ กิจกรรมในสวนสาธารณะ ได้แก่ เดิน รำไทเก๊ก สนามกีฬากลางแจ้งที่เป็นการออกกำลังกายโดยไม่ได้เล่นเป็นทีมและไม่ได้มีการแข่งขัน เทนนิส ยิงปืน ยิงธนู จักรยาน กอล์ฟ และสนามซ้อม 5.ร้านตัดผม เสริมสวย เฉพาะตัด สระ ไดร์ 6.อื่นๆ ได้แก่ ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์

            ๐ ประกาศิต "บิ๊กป้อม" ดูท่าไม่ศักดิ์สิทธิ์พอ เหยียบจนผ้าเบรกไหม้ ศึกสายเลือด พปชร.ไม่จบง่ายๆ ดั่งวาจาประธานยุทธศาสตร์ ทีแรกก็พลอยเคลิ้มลมหวานเป่าหูของลูกพรรค ปล่อยให้เคลื่อนไหวฟัดกันเองจน พปชร.ฉาวโฉ่ เล่นเอา "น้องตู่" ควันออกหูต้องเอ่ยปากปรามไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาพูดในเวลานี้ "พี่ป้อม" เลยสั่งไอ้เสือถอย ดันเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาซะงั้น ส่วนฟากที่โดนแซะก็ไม่นิ่งเหมือนกัน มีนัดตบเท้าโชว์พลัง สภาพเลยดูไม่จืด ขณะที่ภาพรวมของประเทศกำลังวุ่นวายสู้ศึกใหญ่โควิด-19 แต่นักการเมืองที่กินภาษีประชาชนมัวแต่แย่งทึ้งเก้าอี้ห่วงอำนาจตัวเอง แถมเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลอีกต่างหาก สบช่องคนตกงาน หนึ่งในทีมรับใช้ทักษิณ ที่หวังจะเข้าไปนั่งในสภาแต่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะไทยรักษาชาติที่เจ้าตัวลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อถูกยุบซะก่อน คราวนี้เลยหาเหตุไปร้อง กกต.ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคฝ่ายตรงข้ามบ้าง "เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" อ้างคำให้สัมภาษณ์ของ "เสธ.อ้น" พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา ส.ว.ที่อยู่เบื้องหลังเดินเกมจะให้บิ๊กป้อมมานั่งหัวหน้าพรรคแทนอุตตม สาวนายน เข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 113 และ 114 ที่ระบุว่า ส.ว.ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ ไม่ฝักใฝ่หรืออยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมือง รวมถึงฝ่าฝืนมาตรา 28, 29, 46 และ 90 (2) พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง หากมีหลักฐานว่าพรรคการเมืองยินยอมให้คนนอกที่มิใช่สมาชิกครอบงำในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองขาดอิสระ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

            ๐ หันไปมองความคืบหน้าเรื่องคดีความต่างๆ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ก็พบว่าเรื่องคดีปล่อยกู้กรุงไทย ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางยกฟ้อง "พานทองแท้ ชินวัตร" บุตรชายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดีนี้ช่วงเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ตอนแรกคนก็คาดกันว่าเรื่องคงจบแล้ว หลังอัยการมีความเห็นไม่ให้อุทธรณ์คดี เพราะเห็นว่าคำตัดสินของศาลที่ยกฟ้องพานทองแท้นั้นชอบแล้ว และส่งเรื่องไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษทำความเห็นพิจารณาขั้นสุดท้าย คนก็เลยคิดกันว่า ยังไงดีเอสไอก็น่าจะเอาด้วยตามด้วยอัยการ คือไม่อุทธรณ์ แต่ปรากฏว่า ผิดความคาดหมาย เพราะคณะทำงานดีเอสไอ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ที่มี สมศักดิ์ เทพสุทิน เป็น รมว.ยุติธรรม และเป็นสมศักดิ์ที่เป็นอดีตหนึ่งในผู้ร่วมไปอยู่กับพรรคไทยรักไทยกับทักษิณตั้งแต่เลือกตั้งครั้งแรก ปี 2544 คนก็เลยไปคิดกันไว้ล่วงหน้าว่าดีเอสไอก็คงไม่อุทธรณ์ ดังนั้นพอดีเอสไอมีความเห็นเด็ดขาดให้อุทธรณ์คดี เลยทำให้สำนวนคดีความเห็นของทั้งอัยการและดีเอสไอถูกส่งไปให้  “วงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด" เป็นคนชี้ขาดคนสุดท้ายว่า สรุปจะเอาด้วยกับความเห็นของสองคณะทำงานอัยการ สองสำนักทั้งสำนักคดีพิเศษและสำนักคดีศาลสูง ที่เห็นควรไม่ให้อุทธรณ์คดี หรือจะเอาตามดีเอสไอที่เห็นว่าควรอุทธรณ์คดี ที่คาดว่าอัยการสูงสุดน่าจะใช้เวลาพิจารณาอีกสักระยะ แต่ก็ไม่น่าจะเกินเดือน พ.ค.นี้ ..อย่างไรก็ตาม บอกกันไว้ก่อนว่า วงศ์สกุล ก่อนหน้ามาเป็นอัยการสูงสุดเคยเติบโตในสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุดมาก่อน จนขึ้นไปเป็นรองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ แล้วก็โยกไปอยู่สำนักอื่นช่วงสั้นๆ ก่อนจะกลับมาเป็นอัยการฝ่ายคดีพิเศษ แล้วก็ขึ้นเป็นอัยการสูงสุดเลย ดังนั้นอัยการในสำนักงานคดีพิเศษที่เห็นว่าไม่ควรอุทธรณ์คดีพานทองแท้ จึงเป็นลูกน้องเก่าโดยตรงของวงศ์สกุลทั้งสิ้น แต่ทั้งหมดก็อยู่ที่ดุลยพินิจในการพิจารณาสั่งคดีของอัยการสูงสุดคนนี้ ซึ่งหากอัยการสูงสุดไม่อุทธรณ์ เท่ากับคดีก็ยุติโดยทันที.

ลี้คิมฮวง