'แรมโบ้'เผยแก้ปัญหาโควิด-19 คือเดิมพันของรัฐบาล แนะฝ่ายค้านไปดูแลชาวบ้านดีกว่าร้องเปิดสภาฯ


เพิ่มเพื่อน    

30 เม.ย.63-นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณี นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านและบรรดาพรรคร่วมฝ่ายค้านเรียกร้องให้มีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญว่า ต้องขอขอบคุณประเด็นที่ประธานวิปฝ่ายค้านและบรรดาพรรคร่วมฝ่ายค้านหยิบยกมา ในเรื่องความเป็นห่วงใยปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน ซึ่งข้อเท็จจริงท่านนายกฯและรัฐบาลทำงานหนักตลอดเวลาเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อบรรเทาทุกข์ให้น้อยที่สุด 

แต่ต้องเข้าใจว่าปัญหาโควิดที่เกิดขึ้นมานั้นมีผลกระทบทุกด้านอย่างมาก เพราะมันเป็นโรคระบาดระดับโลกนานาชาติก็โดนกันถ้วนหน้า และก็ไม่เคยมีรัฐบาลในอดีตโดนหนักอย่างนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่และเรื่องใหม่สำหรับทุกประเทศทั่วโลก อย่างที่เรารู้ๆกันว่าตั้งแต่เกิดมาร้อยวันพันปีก็ไม่เคยเห็นเคยเจอกับโรคไวรัสโควิดนี้ รู้ว่ารัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการเข้มงวดไม่อย่างนั้นประเทศไทยเราเอาไม่อยู่เหมือนต่างประเทศแน่ ถ้าประเทศเราแพร่ระบาดมากมายเช่นนั้นจะรับศึกหนักแค่ไหนลองนึกภาพดู 

เมื่อรัฐบาลเริ่มควบคุมได้ก็มีการประเมินสถานการณ์เพื่อให้มีการปลดล็อกบางอย่าง เพื่อให้ประชาชนได้ผ่อนคลายเศรษฐกิจก็จะเริ่มกระเตื้องขึ้นมาได้บ้างแต่ก็ต้องมีมาตรการป้องกันตามที่กำหนด จะเริ่มต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป สถานการณ์ที่ตึงเครียดก็จะค่อยๆคลี่คลายไปเรื่อยๆแต่ก็ต้องเฝ้าระวังการ์ดตกไม่ได้เด็ดขาด เพราะถ้าพลาดไป โรคไวรัสกลับมาแพร่กระจายอีกครั้งเท่ากับที่รัฐบาลและพวกเราทุกคนได้ทุ่มเทสุดตัวแก้ปัญหาที่ผ่านมาแล้วนั้นมีค่าเท่ากับศูนย์ สู้กันมาทำกันมาแทบตายกับไร้ประโยชน์สิ้นเชิง

"การแก้ไขปัญหาของท่านนายกรัฐมนตรีท่านรับฟังทุกฝ่ายที่มีข้อแนะนำที่ดีแม้แต่ความเห็นของพรรคร่วมฝ่ายค้านก็รับฟังตลอดมา อะไรที่เป็นประโยชน์ก็นำมาปรับใช้กับสถานการณ์ ซึ่งรัฐบาลมีคณะทำงาน มีศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เอาปัญหาทุกอย่างก็มากองบนโต๊ะ ตัดสินใจร่วมกันไม่ใช่ท่านนายกฯตัดสินใจตามอำเภอใจ ทุกอย่างต้องมีความรอบคอบรัดกุมประมาทไม่ได้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตประจำวันนั้นไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ หนักบ้าง เบาบ้างแตกต่างกันไปก็ต้องอดทนด้วยกัน ซึ่งท่านนายกฯและรัฐบาลเองก็เข้าใจในปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จึงสั่งการทุกภาคส่วนลงไปดูแลประชาชนอย่างเต็มกำลังให้ดีที่สุดและสุดความสามารถของเจ้าหน้าที่ทุกคน เพื่อให้ประชาชนให้รับผลกระทบความเดือดร้อนน้อยที่สุด ท่านนายกฯยังซาบซึ้งในน้ำใจของประชาชนคนไทยทุกคนที่ให้ความร่วมมืออย่างดี จนประเทศไทยได้รับการยกย่องจากผู้นำนานาประเทศว่าเป็นประเทศต้นแบบในการแก้ไขปัญหาไวรัสโควิด-19"

นายสุภรณ์ กล่าวว่า เราไม่สามารถทำอะไรให้ได้อย่างใจ หรือ ทันใจใครได้ทุกคน เพราะทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจในการปรับตัวและเป็นการปรับตัวเพื่อให้วิกฤตินี้ผ่านไปให้ได้โดยเร็วที่สุด วิถีชีวิตของคนทั้งประเทศจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขเช่นเดิม การแก้ไขปัญหาเวลานี้ เป็นหน้าที่หลักของทีมฝ่ายบริหารของประเทศที่มีคณะกรรมการศบค.และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข ส่วนฝ่ายสภานิติบัญญัตินั้น ท่านนายกฯก็ไม่ได้ละเลย หรือจะหลบเลี่ยงตามที่พวกฝ่ายค้านกล่าวหา เพราะโจทย์ที่หนักกว่านี้ ท่านนายกฯก็เคยเจอมาแล้ว อย่างเช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องหนีสภาฯแต่อย่างใด แต่ความจำเป็นเร่งด่วนขณะนี้และเป็นหัวใจสำคัญคือต้องบริหารจัดการให้คนไทยปลอดโรคปลอดภัยให้ประชาชนสูญเสียชีวิตให้น้อยที่สุด อย่าต้องให้คนตายเป็นหมื่นๆเป็นแสนเหมือนต่างประเทศเลย

"การบริหารจัดการโควิดของรัฐบาลในตอนนี้ จึงเป็นเดิมพันของรัฐบาลเช่นกัน จะบริหารอย่างไรเพื่อให้ชนะก้าวผ่านโรคโควิดร้ายนี้ให้ได้ การดูแลเยียวยาให้เงินถึงมือประชาชนมากที่สุด และเร็วที่สุด ที่บอกว่าฝ่ายค้านกลัวจะรั่วไหลไปไหน จะไปเข้ากระเป๋าใครไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ท่านนายกฯเอาจริงเอาจังกับเงินทุกบาททุกสตางค์ต้องใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนอย่างคุ้มค่าที่สุดเท่านั้น ทุกอย่างมีรายละเอียดการใช้จ่ายอย่างชัดเจนรัดกุมระมัดระวังมีระบบการควบคุมและตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งการใช้จ่ายอะไรจ่ายให้ใครที่ใหนอย่างไร ฝ่ายค้านและสภาฯก็สามารถเรียกข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบได้อยู่แล้วเมื่อถึงเวลาที่เปิดประชุมสภาฯไม่ใช่ข้อมูลที่ต้องมาปกปิดอะไร แต่วันนี้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารต้องรีบเร่งทำงานช่วยเหลือประชาชนก่อน ส่วนฝ่ายนิติบัญญัติในวัน22 พค.นี้ ก็จะมีการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญแล้ว ตนเองก็ไม่เข้าใจว่าบรรดาฝ่ายค้านทั้งหลายจะเร่งเปิดประชุมสภาล่วงหน้าก่อนไปทำไม พวกท่านเอาเวลาช่วงนี้ก่อนเปิดสภาไม่กี่วันนี้ไปดูแลประชาชนในพื้นที่ดีกว่าไหมประชาชนในพื้นที่ถามหาผู้แทนของเขาอยู่ และให้ฝ่ายบริหาร รัฐบาลได้มีเวลาแก้ไขให้ปัญหาประชาชนไม่ดีกว่าหรือ รออีกไม่กี่วันแค่นี้จะเป็นจะตาย ใจจะขาดเช่นนั้นเลยเชียวหรือ ผมถามหน่อยว่า ใครคนใหนที่กล้าใช้เงินไปในทางที่ไม่ถูกต้อง คงไม่มีใครเอาชื่อเสียง ไปเสียหายหากินบนความเดือดร้อนบนความทุกข์ของพี่น้องประชาชน ตามที่ทางประธานวิปฝ่ายค้านกังวลอย่างแน่นอน…”

นายสุภรณ์ กล่าวว่า ขอให้สถานการณ์คลี่คลายมากกว่านี้อีกหน่อย ท่านนายกฯก็คงอยากฟังเสียงจากทางฝ่ายนิติบัญญัติในห้องประชุมสภาเช่นกัน เพราะทุกวันนี้ท่านนายกฯ ก็มีทีมงานเอาข้อมูลที่มีประโยชน์ ของทุกฝ่ายรวมทั้งข้อเสนอของฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์ มาประมวลเพื่อประกอบการพิจารณาในแต่ละเรื่องทุกๆวัน เราจึงเห็นการค่อยๆทยอยปลดล็อกแต่ละจุดๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อให้เศรษฐกิจเริ่มขยับตัว และการช่วยเหลือประชาชนระดับรากหญ้าก็ขยับเพิ่มขึ้นไปอีกโดยครม.มีการอนุมัติช่วยเหลือเกษตรกรครอบครัวละ5,000บาทเป็นเวลา3เดือนรวมเป็น15,000 บาทนอกเหนือจากโครงการเราไม่ทิ้งกันที่โอนให้รายละ5,000บาทคนละ3เดือนเป็นต้น ซึ่งยังมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาภาคประชาชนด้านต่างๆตามมาอีกหลายมาตรการ ดังนั้นฝ่ายค้านไม่ต้องกังวลใจ ทุกอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้และรัฐบาลก็พร้อมยินดีให้ตรวจสอบได้ทุกเรื่อง สงสัยอะไรท่านก็รอไปถามในเวทีสภาฯได้


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"